"ปานเทพ" เตรียมยื่นหนังสือ "นายกฯ" ใช้มติครม. ยกเลิก MOU43-44 แนะให้มีผล 8 เดือนประกาศให้พร้อมประชามติ-ชี้เปิดซาวด์ผีเป็นวิธีสันติยันไม่ละเมิดสิทธิ์
13 ต.ค. 68 นายปานเทพ พัวพงศ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เปิดเผยว่า สิ่งที่ทนและนักวิชาการด้านสนธิสัญญาระหว่างประเทศเป็นห่วงที่สุดคือการที่ไทยจะเสียสิทธิ์ในการยกเลิก เอ็มโอยู เพราะมัวแต่ไปรอประชามติเนื่องจากในอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติไว้ว่าแมวเราจะมีสิทธิ์ในการยกเลิกได้หากกัมพูชาละเมิดร้ายแรงแต่เราอาจเสียสิทธิ์ได้ หากทำให้ทุกอย่างกลับเป็นปกติ เช่นไปเจรจาตามเอ็มโอยูหรือไปตกลงเปิดด่านใหม่สิทธิของเราอาจไม่มีความชอบธรรมในเวทีสากลอีกในวันข้างหน้า ดังนั้นเข้าใจว่าแม้รัฐบาลได้ประกาศถึงการทำประชามติเอ็มโอยูไปแล้ว จึงเสนอว่าหากเป็นเอ็มโอยู 2543 ให้ยกเลิกทันทีโดยมติครม. แต่ให้มีผลอีก 8 เดือนข้างหน้าไปรองรับประชามติ จะทำให้เราไม่เสียสิทธิ์การยกเลิก
ส่วนเรื่องเอ็มโอยู 2544 เป็นการทำเงื่อนไขข้อตกลงชั่วคราวที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง ซึ่งขัดต่อหลักกฏหมายทะเลสากลและอื่นๆ ซึ่งเราจะให้สิทธิ์ตามกฎหมายระหว่างประเทศ 12 เดือนในการยกเลิก แต่ต้องยกเลิกทันที ส่วนหากยกเลิกแล้วจะกลับไปเจรจาใหม่ในเจบีซีหรือระหว่างนี้ไม่ใช่ปัญหา และหากรัฐบาลตระหนักว่าเราถูกละเมิดจริงต้องไม่โยนเรื่องนี้ไปในการทำประชามติ ซึ่งรัฐบาลสามารถทำทันทีเพื่อให้สอดรับกับผลประชามติ ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ (14 ต.ค.) จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรี ให้เร่งพิจารณาเรื่องนี้
ส่วนมองว่ารัฐบาลนายอนุทินจะมีความจริงใจในการแก้ปัญหาเรื่องนี้หรือไม่ นายปานเทพ ระบุว่าพูดยากเพราะ นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ยินข้อเสนอดังกล่าว และท่านอาจไม่รู้ว่ากำลังทำให้ประเทศไทยเสียสิทธิ์ในการยกเลิกเอ็มโอยู และถ้าท่านรู้แล้วและถ้าท่านรักชาติบ้านเมือง ท่านอาจตัดสินใจยกเลิกทันที แต่หากท่านรับไปแล้วและไม่ปฏิบัติหากวันข้างหน้าเราเสียสิทธิ์ ก็จะต้องโทษรัฐบาลนายอนุทินและนายอนุทินก็ต้องรับผิดชอบ
ส่วนเรื่องประเด็นการเปิดสารคดีและซาวด์ผีในพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าที่ถูกสว.บางคน วิจารณ์ว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน นายปานเทพระบุว่า เรื่องนี้ไม่มีคำว่าเสียสิทธิ์ และวิธีนี้เป็นวิธีที่เป็นสันติวิธีที่สุดแล้ว ที่เราจะผลักดันกัมพูชาได้ ไม่มีการปะทะด้วยความรุนแรงและที่สำคัญคือดินแดนประเทศไทยที่ถูกกัมพูชายึดอยู่ ดังนั้นถ้าอยากคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนต้องคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนของคนไทย ที่ถูกยึดที่ดินมากกว่า 40 ปี แล้วรัฐไม่ดูแล ให้คำนึงถึงสิทธิมนุษยชนของคนไทยก่อนคนชาติอื่น
Advertisement