(13 ต.ค. 2568) นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. กล่าวถึงการทำประชามติยกเลิก MOU 43-44 ไปพร้อมกับการเลือกตั้ง ว่าอันที่จริงแล้ว MOU 43-44 ไม่ควรเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำในรัฐธรรมนูญ 50 และ 60 ระบุอยู่แล้วว่าการทำสัญญาระหว่างประเทศจะต้องผ่านรัฐสภาก่อน แต่ในรัฐธรรมนูญ 40 ยังไม่มีข้อนี้จึงทำให้เกิดปัญหา หากถามว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการทำประชามติในการถามคำถามดังกล่าว ก็ต้องบอกว่าเห็นด้วย แต่อยากให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจ MOU 43-44 เพราะคำถามที่ไม่เข้าใจจะได้คำตอบที่แท้จริง อย่างน้อยต้องทราบว่าหากยกเลิกไปแล้วจะดีหรือไม่ดีอย่างไร และหากไม่ยกเลิกจะเกิดผลเสียอย่างไร
เมื่อถามว่าข้อมูล MOU 43-44 จะสามารถประชาสัมพันธ์ได้จริงหรือไม่ เพราะถือเป็นเรื่องของความมั่นคงภายในประเทศ นายพิสิษฐ์กล่าวว่า ตอนนี้หลายๆสื่อ ไม่ว่าจะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ก็มีการนำเสนอในประเด็นนี้ เชื่อว่าหลายประเด็นสามารถเอามาคุยสร้างความเจ้าใจได้ ส่วนประเด็นราชการก็ควรต้องเลี่ยงที่จะนำเสนอ เพราะถือเป็นความมั่นคง
ส่วนกรณีที่นิด้าโพล เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง บัตรลงคะแนน 4 ใบ 6 คำถาม จะไหวไหมนั้น นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า โพลนี้มีความย้อนแย้งภายในคำตอบเพราะคำถามแรกถามถึงความสับสนเกี่ยวกับบัตรลงคะแนน 4 ใบ รวม 6 คำถาม ซึ่งร้อยละ 48.55 ระบุว่า สับสนมาก รองลงมา ร้อยละ 30.61 ระบุว่า ค่อนข้างสับสน ร้อยละ 11.99 ระบุว่า ไม่สับสนเลย
แต่ในคำถามที่2 ระบุถึงความสับสนเกี่ยวกับบัตรลงคะแนน 4 ใบ รวม 6 คำถาม ในการเลือกตั้งครั้งหน้าของตนเอง พบว่าร้อยละ 34.73 ระบุว่า ไม่สับสนเลย สรุปแล้วประชาชนสับสนหรือไม่ หรือผู้ทำโพลคิดแทนคนอื่นว่าจะสับสนแล้วตัวเองไม่สับสนเลย หรือไม่ประชาชนอาจจะเข้าใจคำถามที่คลาดเคลื่อนคงต้องผู้จัดทำโพลชี้แจง
ส่วนความเห็นของประชาชนที่จะให้มีการเลือกตั้ง สส. การทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการทำประชามติยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 ในวันเดียวกัน ร้อยละ 49.16 ระบุว่าเห็นด้วยที่จะมีการดำเนินการทั้งหมดในวันเดียวกัน ตนมองว่า ประชาชนต้องการทำให้ทุกกระบวนการเสร็จภายในวันเดียวต้องเข้าใจว่าในการเลือกตั้งแต่ละครั้งประชาชนต้องเสียค่ารถในการออกไปเลือกตั้ง ลองนึกถึงคูหาเลือกตั้งในต่างจังหวัดที่อาจจะไกลกับที่อาศัย ซึ่งตนก็เห็นด้วยที่จะให้มีการทำทุกอย่างภายในวันเดียว เพราะถือเป็นการลดภาระของประชาชน และไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนจนเกินไป
Advertisement