บิ๊กเล็ก สงสัย ฮุนมาเนต ประท้วงไทยสร้างรั้วลวดหนาม แต่เขมรวางทุ่นบึ้ม

บิ๊กเล็ก สงสัย ฮุนมาเนต ประท้วงไทยสร้างรั้วลวดหนาม แต่เขมรวางทุ่นบึ้ม ย้ำอธิปไตยไทยต้องมาก่อน ยืนยันใช้กฎหมายไทยจัดการ หากกัมพูชารุกล้ำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รถพยาบาล–กู้ภัย ตรึงกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศฯกัมพูชาออกแถลงการณ์ ประณามไทย

เพจดังเปิดโทษ เขมรควรรู้ไว้ ก่อความวุ่นวายไทย ติดคุกหัวโต-ปรับอื้อ

วันนี้ (18 กันยายน 2568) ที่องค์การทหารผ่านศึก พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์บ้านหนองหญ้าแก้วจังหวัดสระแก้ว โดยระบุว่าเรื่องนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน ระดับ ซึ่งในระดับที่ตนรับผิดชอบคือการเจรจา โดยเริ่มจากการประชุม GBC ก่อน ซึ่งผลจากการประชุม GBC ในข้อ 4 ระบุแล้วว่าให้บริหารจัดการพื้นที่ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งสองฝ่ายคุยกัน แต่เมื่อวันพุธผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วได้ไปคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชา ก็ยังไม่มีผลคืบหน้า ซึ่งฝั่งกัมพูชาก็ยังคงรอรัฐบาลของเขา แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์เมื่อวานที่บ้านหนองหญ้าแก้ว และ เมื่อเช้าตนได้โทรไปพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 1 ให้เร่งรัดการประชุม RBC ซึ่งหากยังไม่ได้คำตอบ ตนจะไปทวงถามการประชุม GBC อีกครั้ง แต่ขอยืนยันว่าตรงนี้ไทย-กัมพูชาได้ตกลงกันแล้ว ซึ่งตนได้คุยกับพลเอกเตีย เซยฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาแล้วว่า ในพื้นที่ฝ่ายไทยขอดำเนินการตามกฏหมายของไทย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ จะทำให้เกิดปัญหาบริเวณดังกล่าวหรือไม่ พลเอกณัฐพล ตอบว่า เกิดก็ต้องเกิด เพราะคือเขตประเทศไทย เราใช้กฎหมายไทยอยู่

เมื่อนักข่าวสอบถามท่าทีของกัมพูชาเหมือนปากว่าตาขยิบ พลเอกณัฐพล ตอบสั้นๆ ว่า ก็คงอย่างนั้น ตอนนี้ในศบ.ทก. เนื่องจากรัฐบาลเก่ากำลังจะพ้น ศบ.ทก.ก็จะหมดสภาพไปด้วย ทำให้ความ รับผิดชอบของตน เหลือแค่ความรับผิดชอบเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอย่างเดียว เพราะฉะนั้นก็ต้องมองเรื่องความมั่นคงอย่างเดียว ส่วนเรื่องเศรษฐกิจและเรื่องอื่นๆ ก็ต้องรอรัฐบาลใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่านโยบายใหม่ของรัฐบาลชัดเจนหรือไม่ในเรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดน ซึ่งมีปัญหาเรื่อยๆ ซึ่งพลเอกณัฐพล ระบุว่า ชัดเจน ถึงแม้ลายลักษณ์อักษรจะยังไม่เสร็จเรียบร้อย แต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าอธิปไตยต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในวงประชุมระหว่างไทยกับกัมพูชาท่าทีของกัมพูชาก็ดูตอบรับดี แต่เหตุใดในพื้นที่ถึงมีปัญหาเล็กๆน้อยๆอยู่ตลอด ตอบว่า ก็แบบว่าที่เคยบอกดูคล้ายว่ากัมพูชามีความตั้งใจจะเข้าสู่กระบวนการ แต่หน้างานก็เป็นแบบนี้ ทางพื้นที่กองทัพภาคที่หนึ่งและกองทัพภาคที่สอง รวมถึงในพื้นที่จันทบุรีและตราด ซึ่งตนได้พูดกับสื่อมวลชนอยู่เสมอว่า ถ้าจะเจรจาก็ให้เจรจากันไปส่วนหน้างานก็ว่ากันไป แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งที่มารุกล้ำก็ต้องดำเนินการตามกฎการใช้กำลัง ซึ่งไม่ต้องเป็นห่วงเราไม่ยอมแน่นอนในเรื่องเขตอธิปไตยของไทย

เมื่อถามว่าการดำเนินการตามกฏหมาย หมายถึงจะจับกุมดำเนินคดี หรือแค่ป้องกันอธิปไตย พลเอกณัฐพล เปิดเผยว่า ถ้าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุมากกว่านี้ ก็ต้องถึงขั้นจับกุมบ้าง เพราะจากการสังเกตเมื่อวานนี้เป็นลักษณะของการวางแผนไว้ของฝ่ายกัมพูชา สังเกตว่า เมื่อมาทำเสร็จแล้ววันรุ่งขึ้น กัมพูชาก็ทำหนังสือถึงประเทศต่างๆซึ่งเป็นการกระทำที่สอดรับกันมาก จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นแบบนั้น

ส่วนที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ไปประท้วงที่ประเทศต่างๆว่า ไทยเรากระทำต่อประชาชนกัมพูชา ซึ่งภาพต่างๆที่เกิดขึ้น อยากเรียนเป็น 2 ประเด็น ดังนี้

1.หัวหน้าชุด IOT ของไทย โดยมีผู้ช่วยทูตทหารของมาเลเซีย นายให้คำชมเชยการปฎิบัติของฝ่ายไทยว่า ปฏิบัติได้ตามขั้นตอนของกฎหมายตรงนี้คือสิ่งที่อยากจะเรียนว่าเราต้องพยายามทำตามขั้นตอนไว้ แต่ในสิ่งที่เกินกว่าเหตุเราสามารถ ข้ามขั้นตอนได้

2.ที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไปประท้วง ตนเองก็ไม่เข้าใจขณะที่เราประท้วงกัมพูชาว่าวางกับระเบิดในพื้นที่ของกองทัพภาคสองกัมพูชากลับมาประท้วงเราเรื่องการวางรั้วลวดหนาม ซึ่งบิ๊กเล็กตั้งคำถามว่า ระหว่างการวางรั้วลวดหนามวางกับระเบิดอันไหนแรงกว่ากัน เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็คงต้องทำความเข้าใจกันต่อไป ซึ่งในปัจจุบันทางกระทรวงกลาโหมได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศ ให้ทำหนังสือประท้วงไปเหมือนกัน

เมื่อถามว่าหากครบ 30 วันแล้ว ชาวกัมพูชายังไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่จำเป็นต้องรอการประชุม JBC ในเดือนพฤศจิกายนนี้หรือไม่ อาจจะทำให้ล่าช้าไปหรือไม่ บิ๊กเล็กระบุว่า ยังมีการประชุม GBC คั่นกลางก่อน เพราะเมื่อครั้งที่ประชุมกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ได้คุยกันแล้วว่าถ้าช่วงระหว่างนี้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วและจังหวัดบันเตียเมียนเจยคุยกัน แต่ถ้าทำอะไรเกินกว่าเหตุเราก็ขอดำเนินการตามกฏหมาย เพราะนี่คือแผ่นดินไทย มันชัดเจน ซึ่งวันนั้นผมจำได้แม่นเลยว่าตนได้พูดกับ พลเอกเตีย เซยฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาว่า ถึงแม้ว่าเส้นเขตแดนจะไม่ชัดเจนแต่สื่อทุกสำนักทราบใช่หรือไม่ว่ามีเส้นสีน้ำเงิน และเส้นสีแดง ตอนนี้คำว่า เส้นน้ำเงินและเส้นสีแดงแทบจะเป็นที่รู้จักและทราบกันทั่วไปแล้ว ตนจึงบอกพลเอกเตีย เซยฮาว่า ระหว่างเส้นน้ำเงินกับเส้นสีแดง ไม่ว่ากัน รอการประชุม JBC แต่ใต้เส้นแดงลงมาคือเขตของไทย เราขอใช้กฎบัตรไทย แต่อย่างไรก็ตามเราก็คำนึงถึงมนุษยธรรมสักนิดหนึ่งว่า ประชาชนทั้งสองฝ่ายในที่สุดแล้วก็ต้องมาอยู่ด้วยกัน เราก็ต้องทำตามขั้นตอนไป แต่ถ้าเขาทำอะไรที่ไม่เป็นขั้นตอนหรือทำเกินกว่าเหตุและฝ่ายปกครองรัฐบาลกัมพูชาไม่มาดูแลและจัดการ เราต้องทำข้ามขั้นตอนไปเหมือนกัน คงต้องทำเกินกว่าที่ตกลงกันไว้

เมื่อถามต่อว่า เราจะใช้โอกาสนี้ในการเอาพื้นที่ของเราคืนหรือไม่ บิ๊กเล็กระบุว่าอันนี้ไม่ขอตอบนะ บางครั้งตนก็ต้องระมัดระวังในการที่จะพูด เพราะเป็นช่วงที่ตนเองยังอยู่ในสองสถานะทั้งรักษาการของรัฐบาลชุดเก่าและตามสื่อ ก็อาจจะเป็นรัฐบาลใหม่ โดยสถานะจึงยังไม่สามารถสั่งการอะไรได้ แต่อย่างไรก็ตามได้มีการพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ ผู้บัญชาการทหารบก และแม่ทัพภาคที่หนึ่งขอให้ดำเนินการไปตามกรอบที่มีอยู่เพราะเรามีกฎการใช้กำลังอยู่แล้ว พี่น้องประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะยังไม่สามารถดำเนินงานได้ตามกฏหมายก็ตามแต่กฎการใช้กำลังของกระทรวงกลาโหมมีอยู่แล้ว ซึ่งได้มอบอำนาจให้ตั้งแต่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาคและผบ. กองกำลัง ทุกท่านมีอำนาจที่จะตกลงใจได้อยู่แล้วเพราะฉะนั้นการกระทำอะไรก็ตาม ที่เป็นการล่วงล้ำอธิปไตย เขาสามารถตัดสินใจได้ทันทีพี่น้องประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง

คอนเทนต์แนะนำ

วิธีสังเกต "มะเร็งลำไส้" ภัยร้ายวัยหนุ่มสาวที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด

เปิดรับสมัครหญิงไทย ทำงานนวดแผนไทยในมาเลเซีย รายได้ดี สวัสดิการครบ

สุนัขพิตบูลกับเด็กเล็ก ความรัก ซื่อสัตย์ และกฎเหล็กที่ห้ามมองข้าม