
กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา ออกแถลงการณ์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ระบุว่า กระทรวงฯ ขอแสดงความวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อการกระทำที่อุกอาจและยั่วยุที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2568 ของทหารไทยในหมู่บ้านเปรยจัน ตำบลโอเบยเจือน จังหวัดบันเตียเมียนเจย
ตามรายงานที่น่าเชื่อถือ ทหารไทยพร้อมด้วยโล่ กระบอง และอาวุธ ได้เข้ามาในดินแดนของกัมพูชา และยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางใส่ประชาชน อีกทั้งยังเปิดเครื่องส่งคลื่นเสียงความถี่สูงซึ่งเป็นอันตรายต่อหูของชาวบ้านด้วย การกระทำเหล่านี้ส่งผลให้พลเรือนจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงพระสงฆ์ ได้รับบาดเจ็บ ในระหว่างการเผชิญหน้าที่ตึงเครียดกับชาวบ้านซึ่งกำลังปกป้องบ้านเรือนและทรัพย์สินของตนอย่างสันติ การกระทำที่ไม่อาจยอมรับได้นี้ ซึ่งรวมถึงการเล็งอาวุธจริงใส่พลเรือนกัมพูชาผู้บริสุทธิ์เมื่อไม่นานมานี้ ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชาอย่างร้ายแรง อีกทั้งยังเป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศและบรรทัดฐานทางมนุษยธรรม
พลเรือนกัมพูชา ผู้ซึ่งปราศจากอาวุธและอาศัยอยู่อย่างสงบสุขบนแผ่นดินของบรรพบุรุษ จะต้องไม่ตกอยู่ภายใต้การคุกคาม การล่วงละเมิด หรือความรุนแรงเช่นนี้ การยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยทหารไทยไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อการหยุดยิงที่เปราะบางตามแนวชายแดนเท่านั้น แต่ยังบ่อนทำลายความพยายามของทั้งสองรัฐบาลในการแก้ไขข้อพิพาทผ่านการเจรจาอย่างสันติและกลไกการหารืออย่างจริงจัง
ขอเรียกร้องให้ไทยยุติการกระทำที่เป็นปรปักษ์ ใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างสูงสุด และให้การรับรองว่าทหารของตนจะเคารพอธิปไตยของกัมพูชา ตลอดจนศักดิ์ศรีและความปลอดภัยของพลเรือน กัมพูชาขอเรียกร้องต่อประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาเซียนและพันธมิตรที่เกี่ยวข้องให้รับทราบถึงเหตุการณ์ที่น่าตกใจเหล่านี้ และสนับสนุนความพยายามที่มีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลาย
ยืนยันว่าฝั่งกัมพูชายังคงยึดมั่นต่อพันธกรณีในการแก้ไขข้อขัดแย้งชายแดนกับประเทศไทยโดยสันติวิธี โดยยึดมั่นในหลักการแห่งการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี กฎหมายระหว่างประเทศ และจิตวิญญาณแห่งความสามัคคีของอาเซียน
กัมพูชายังย้ำถึงความสำคัญของมาตรการสร้างความไว้วางใจ ความร่วมมือทางมนุษยธรรม และการคุ้มครองพลเรือนตามแนวชายแดน พร้อมทั้งปฏิเสธการกระทำใดๆ ที่อาจทำให้ความตึงเครียดบานปลาย ด้วยการให้ความสำคัญกับช่องทางการทูตและความร่วมมือระดับภูมิภาค กัมพูชาพยายามที่จะทำให้แน่ใจว่าข้อพิพาทต่างๆ จะได้รับการแก้ไขผ่านความเข้าใจซึ่งกันและกัน เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพและความปรองดองสำหรับประชาชนของทั้งสองประเทศ
Advertisement