จากกรณีวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้รับตัวนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไว้คุมขัง ตามคำพิพากษาของศาลให้บังคับโทษจำคุกแก่จำเลย โดยให้จำคุก 1 ปี
ต่อมาเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งกรมราชทัณฑ์ กำหนดให้เป็นเรือนจำศูนย์ระหว่างการพิจารณาคดี (HUB) ได้ดำเนินการย้ายนายทักษิณ ไปควบคุมยังเรือนจำกลางคลองเปรม เนื่องจากเป็นนักโทษเด็ดขาด เพื่อแยกการปฏิบัติตามประเภทของผู้ต้องขังอย่างเหมาะสม ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (11 ก.ย. 68) ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานภายในกรมราชทัณฑ์ว่า นาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างการกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วัน ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม โดยอาการนอนห้องกักโรคคืนที่สอง พบว่า คืนวานนี้ (10 ก.ย.) นายทักษิณ แม้ว่ามีอายุเยอะ 76 ปี แต่ยังคงนอนหลับได้ปกติ ไม่มีอาการนอนกระสับกระส่าย รวมถึงไม่มีอาการเครียดหรือซึมเศร้าปรากฏให้เห็น ค่อนข้างปรับตัวได้เป็นอย่างดี การรับประทานอาหาร สามารถรับประทานอาหารได้ครบมื้อ ให้ความร่วมมือปฏิบัติตนตามคำแนะนำของราชทัณฑ์
ส่วนกรณีศาลฎีกาฯ บังคับโทษนายทักษิณ 1 ปี การพักการลงโทษมีเงื่อนไข ดังนี้ ต้องเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม ชั้นดีมาก ชั้นดี ซึ่งนักโทษแต่ละชั้นก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ดังนี้ ชั้นเยี่ยม เหลือโทษจำคุกไม่เกิน 1 ใน 3 (เหลือโทษไม่เกิน 4 เดือน) ชั้นดีมาก เหลือโทษจำคุกไม่เกิน 1 ใน 4 (เหลือโทษไม่เกิน 3 เดือน) ชั้นดี เหลือโทษจำคุกไม่เกิน 1 ใน 5 (เหลือโทษไม่เกิน 2 เดือน 15 วัน) แต่ตอนนี้เมื่อนายทักษิณเข้าไปครั้งแรก จะถูกจัดให้เป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลางก่อน และประมาณเดือน ธ.ค.68 จึงจะได้รับการปรับเลื่อนชั้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการประพฤติระหว่างคุมขังในเรือนจำ ฉะนั้น อย่างน้อยๆ ในโทษจำคุก 1 ปี นายทักษิณต้องจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน จึงจะเข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษ หรือถ้ามองไปที่โครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ก็ต้องจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของกำหนดโทษ หรือก็คือจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งการจะได้รับการพักโทษกรณีมีเหตุพิเศษฯ
นอกจากได้รับการพิจารณาจากคณะทำงานเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษในชั้นเรือนจำแล้ว จากนั้นต้องเสนอความเห็นต่อผู้บัญชาการเรือนจำพิจารณาส่งรายชื่อไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์พิจารณา เมื่ออธิบดีกรมราชทัณฑ์ให้ความเห็นชอบแล้วให้เสนอต่อคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษพิจารณาอนุมัติ แต่หากเป็นกรณีการพักการลงโทษกรณีพิเศษ ต้องเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพิจารณาอนุมัติด้วย และเมื่อคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอนุมัติพักการลงโทษ และให้ปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับการพักการลงโทษแล้ว ให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์แจ้งผลการอนุมัติให้ผู้บัญชาการเรือนจำทราบ ผู้บัญชาการเรือนจำต้องออกหนังสือสำคัญปล่อยตัวพักการลงโทษให้แก่นักโทษเด็ดขาดผู้นั้น และแจ้งเงื่อนไขการคุมประพฤติให้นักโทษเด็ดขาดทราบ รวมทั้งมีหนังสือแจ้งให้พนักงานคุมประพฤติและพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจในท้องที่ที่นักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับการปล่อยตัวเข้าไปพักอาศัยทราบด้วย โดยนักโทษเด็ดขาดผู้นั้นต้องไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติในท้องที่ที่ไปพักอาศัยภายใน 3 วันนับแต่วันที่ได้รับการปล่อยตัว
รายงานภายในกรมราชทัณฑ์ เผยอีกว่า การป้องกันความปลอดภัยในส่วนของการคุมขังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ราชทัณฑ์ค่อนข้างเข้มงวด โดยก็ต้องมีการมอบหมายผู้ต้องขังที่ได้รับการพิจารณาแล้วว่าผ่านการอบรมทักษะต่างๆ ทั้งการช่วยเหลือพยาบาล หรือการช่วยงานเรือนจำ มีความประพฤติดีเยี่ยม มาเป็นผู้ช่วยเหลือดูแลนายทักษิณระหว่างคุมขัง เพราะต้องยอมรับว่าด้านในนั้น ไม่มีใครรู้ได้ว่าใครมีการชอบไม่ชอบกันอย่างไร อาจเกิดอันตรายได้ ราชทัณฑ์จึงต้องวางมาตรการดูแลให้เหมาะสม
รายงานภายในกรมราชทัณฑ์ เผยต่อว่า กรณีว่านายทักษิณจะได้ออกมาบริการงานสาธารณะของเรือนจำฯ เกี่ยวกับเชิงวิชาการตามงานหนังสือหรือไม่นั้น การที่เรือนจำจะนำผู้ต้องขังเด็ดขาดออกบริการงานสาธารณะจะต้องมีการเขียนโครงการขึ้นมาก่อนเพื่อขออนุมัติ เช่น กรณีของนายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ ก็ได้ออกมาเล่นดนตรี เพราะเป็นโครงการฝึกอบรมเกี่ยวกับทักษะดนตรี จึงจะออกมาบริการงานสาธารณะได้
Advertisement