มวลชนเสื้อแดงส่งกำลังใจให้ “ทักษิณ” ผ่านรั้ว “คลองเปรม”

มวลชนเสื้อแดง ส่งกำลังใจให้ “ทักษิณ” ผ่านรั้วเรือนจำกลางคลองเปรม เผยเสียสละรับโทษเพื่อความสงบสุขของประเทศ ขอยืนหยัดเคียงข้างตลอดไป แม้ไม่ได้เข้าเยี่ยม

วันนี้ ( 11 ก.ย.68) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่บริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง ได้รวมตัวกันเพื่อแสดงออกถึงการสนับสนุนและส่งกำลังใจให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมีผู้เดินทางมาจากหลายจังหวัด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ทวี" ชี้ เป็นสิทธิ์คปท.ร้องปมรักษาตัวทักษิณยินดีให้สอบทุกเรื่อง

ทนายความ ติดต่อขอเยี่ยมทักษิณ แต่ไม่ได้พบ ระบุอยู่ช่วงกักโรค

"ภูมิธรรม" รับ สะเทือนใจ หลังเห็น "ทักษิณ" ใส่ชุดคอกลมสีฟ้า-ถูกตัดผม

ด้าน นางมยุเรศ โครตชมพู ตัวแทนกลุ่มคนเสื้อแดงจากจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาในนาม "ชมรมคนรักภาคอีสาน" เพื่อส่งต่อความรัก ความศรัทธา และความเชื่อมั่นที่มีต่อนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถือเป็นนายกรัฐมนตรีในดวงใจของประชาชนรากหญ้า

"เรามาในวันนี้เพื่อบอกให้ท่านทราบว่า คนเสื้อแดงยังคงยืนหยัดอยู่เคียงข้าง และไม่เคยเปลี่ยนแปลงความรักและความศรัทธาที่มีต่อท่าน สิ่งแรกที่ทำให้ฉันรักและเชื่อมั่นในตัวท่าน คือโครงการบัตร 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ช่วยให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงบริการสาธารณสุขอย่างเท่าเทียม ซึ่งสะท้อนถึงความห่วงใยของผู้นำที่แท้จริง" นางมยุเรศ กล่าว

นอกจากนี้ นางมยุเรศ ยังกล่าวถึงการยอมรับคำตัดสินของกระบวนการยุติธรรม แม้จะรู้สึกว่ามีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น โดยเชื่อว่าการที่นายทักษิณยอมรับโทษ เป็นการเสียสละเพื่อความสงบสุขของประเทศชาติ

"เรายอมรับคำตัดสินของศาล แต่อยากให้ทุกคนตั้งคำถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับท่านนั้นคือความยุติธรรมหรือไม่ วันนี้เรามาเพื่อแสดงจุดยืนว่านายทักษิณยังเป็นวีรบุรุษในใจของเรา เพราะท่านรักประชาชนและยอมสละตัวเองเพื่อแผ่นดินนี้" นางมยุเรศ กล่าวพร้อมตะโกนร่วมกับกลุ่มว่า “เรามาให้กำลังใจท่านนายกฯ ทักษิณ”

เช่นเดียวกับ นางผุดสดี กลิ่นทอง ตัวแทนกลุ่มคนเสื้อแดงจากจังหวัดสิงห์บุรี ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า คดีที่นายทักษิณ ต้องเผชิญทั้งหมด เป็นคดีทางการเมือง ไม่ใช่คดีทุจริตตามที่มีการกล่าวอ้าง พร้อมตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้อง

"ศาลที่พิจารณาคดีนี้ คือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งแตกต่างจากศาลปกติที่ประชาชนทั่วไปได้รับการพิจารณา ทำให้หลายคนไม่มั่นใจว่าเป็นกระบวนการที่ยุติธรรมอย่างแท้จริงหรือไม่ ยิ่งเมื่อเห็นว่าคดีมาตรา 112 ยังพิจารณาโดยศาลอาญาปกติ แต่คดีของนายทักษิณกลับอยู่ในศาลการเมือง เราจึงขอตั้งคำถามต่อระบบยุติธรรมของประเทศ" นางผุดสดีกล่าว

พร้อมกันนี้ นางผุดสดี ยังเรียกร้องให้มีการติดตามคดีที่ดินเขากระโดงอย่างจริงจัง โดยระบุว่าไม่ควรปล่อยให้ประชาชนเข้าไปครอบครองโดยผิดกฎหมาย พร้อมฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา

คอนเทนต์แนะนำ

“ไม่ได้อยากตาย แต่อยากหายไป” ความน่ากลัวของภาวะเหนื่อยล้าทางอารมณ์

รู้ทันอันตราย ภาษากายของสัตว์ป่า นิ่ง-ดูเชื่อง ไม่ได้แปลว่าไม่จู่โจม

คนไทย 13.4 ล้านคนมีปัญหาสุขภาพจิต โรคจิตเวช อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต