"ปัญหาสุขภาพจิต" เป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อคนไทยจำนวนมาก ทั้งในด้านสุขภาพ การดำเนินชีวิต และเศรษฐกิจ โดยเฉพาะใน กลุ่มเยาวชนที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตสูง
จากการสำรวจในปี 2566 พบคนไทยถึง 4.4 ล้านคน ประสบปัญหาสุขภาพจิต
โดยกลุ่มอายุที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด คือ 18-24 ปี มีสัดส่วนเป็นโรคจิตเวชและมีปัญหาสุขภาพจิตสูงที่สุด ร้อยละ 13.7 เปรียบเทียบกับร้อยละ 5.3 ในผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
การสำรวจในปี 2566 |
13.4 ล้านคน เคยมีโรคจิตเวชและมีปัญหาสุขภาพจิตอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต |
4.4 ล้านคน เคยมีโรคจิตเวชและมีปัญหาสุขภาพจิต 12 เดือนที่ผ่านมา |
ที่มา : สำรวจระบาดวิทยาสุขภาพจิตของคนไทยระดับชาติ พ.ศ. 2566 กลุ่มระบาดวิทยาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต
คนไทย ในปีงบประมาณ 2566
ที่มา : รายงานสถานการณ์การฆ่าตัวตายในประเทศไทย, กรมสุขภาพจิต
แม้ว่าการฆ่าตัวตายจะเป็นผลลัพธ์สุดท้ายของปัญหาสุขภาพจิต แต่ก็เป็นภาพสะท้อนของสถานการณ์สุขภาพจิตของคนไทยได้เป็นอย่างดี
ในประเทศไทยเป็นที่น่ากังวลว่า อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นใน 10 ปีที่ผ่านมา โดยในปีงบประมาณ 2566 คนไทยพยายามฆ่าตัวตาย 31,110 คน หรือ 47.7 ต่อแสนประชากร เฉลี่ยวันละ 85 คน
และ เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย 5,172 คน หรือ 7.9 ต่อแสนประชากร เฉลี่ยวันละ 14 คน สูงกว่าเป้าหมายที่กรมสุขภาพจิตตั้งไว้ที่ไม่เกิน 6.3 คนต่อแสนประชากร
ผลกระทบของสุขภาพจิต ไม่ได้จำกัดเพียงการสูญเสียชีวิต แต่ยังสงผลต่อปีสุขภาวะประชากร
โดยการทำร้ายตัวเองเพียงอย่างเดียว นำไปสู่การสูญเสียปีสุขภาวะมากถึง 408,003 ปี ซึ่งในจำนวนนี้ ผู้ชายมีอัตราการสูญเสียสูงกว่าผู้หญิง
ในขณะที่ปัญหาจิตเวช เช่น โรคจิตเภท โรคซึมเศร้า, โรคอารมณ์สองขั้ว, โรควิตกกังวล, ความผิดปกติของการกิน, ความผิดปกของสเปกตรัมออทิสติก, โรคสมาธิสั้น, ความประพฤผิดปกติ, ความพิการทางสติปัญญาที่ไม่ทราบสาเหตุ และความผิดปกติทางจิตอื่นๆ ทำให้สูญเสียปีสุขภาวะรวม 397,637 ปี โดยผู้หญิงเป็นกลุ่มที่สูญเสียปีสุขภาวะจากปัญหาจิตมากกว่าผู้ชาย
ปีสุขภาวะที่สูญเสีย (DALYs) |
---|
เป็นการวัดสถานะสุขภาพของประชากรแบบองค์รวมจากการวัดการสูญเสีย "สุขภาพสมบูรณ์" ไปกี่ปี ประกอบด้วย จำนวนปีที่สูญเสียไปจากการตายก่อนวัยอันสมควร (YLLs) รวมกับ จำนวนปีที่มีชีวิตอยู่กับความบกพร่องทางสุขภาพ (YLDs) |
Advertisement