“ไม่ได้อยากตาย แต่อยากหายไป” สัญญาณเตือนของสุขภาพจิต เป็นความรู้สึกเหนื่อยล้าทางอารมณ์ สิ้นหวัง หรือภาวะซึมเศร้า อยากหนีจากความเป็นจริงที่เจ็บปวด แต่ไม่ใช่การอยากจบชีวิตตัวเอง ถ้าคุณหรือคนที่คุณรู้จักกำลังรู้สึกแบบนี้ โปรดอย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือ การขอความช่วยเหลือนั้นเป็นสัญญาณของความเข้มแข็ง และมีผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้การสนับสนุนคุณ
โดยบทความของ คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา เขียนถึง ความน่ากลัวของภาวะ "ไม่ได้อยากตาย แต่อยากหายไป" ว่า ในเชิงจิตเวช เราเรียกสภาวะนี้ว่า Passive Suicidal Ideation หรือ "ความคิดฆ่าตัวตายแบบไม่แอคทีฟ" คือไม่ได้มีแผนการทำร้ายตัวเอง แต่จิตใจอยู่ในสภาวะที่ หมดแรง หมดไฟ จนอยากหายไปเฉยๆ
นอกจากนี้ ในเพจคลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา ยังระบุข้อมูลสถิติ ดังนี้
สถิติ |
---|
งานวิจัยพบว่ามากกว่า 30% ของผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า เคยมีความคิดแบบ “อยากหายไป” |
ในกลุ่มวัยรุ่นไทย การสำรวจของกรมสุขภาพจิต (2566) พบว่า 1 ใน 5 คน เคยมีความคิด “อยากหายไปจากโลกนี้” แม้จะไม่ได้วางแผนฆ่าตัวตาย สิ่งที่น่ากลัวคือ ภาวะนี้หากปล่อยไว้ อาจพัฒนาไปสู่ ความคิดฆ่าตัวตายแบบแอคทีฟ (Active Suicidal Ideation) ได้ โดยเฉพาะถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือการรับฟังจากคนรอบข้าง |
เพจ หมอมีฟ้า อธิบายถึงประเด็นนี้ว่า "ความรู้สึกไม่อยากอยู่ ความคิดเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย พบได้ในโรคซึมเศร้า แต่ไม่จำเป็นว่าถ้ากำลังมีโรคซึมเศร้าจะต้องมีอาการนี้"
"จะบอกว่าใช่โรคซึมเศร้า ก็ต่อเมื่อมี กลุ่มอาการ ที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิต ในระดับที่เข้ากับเกณฑ์ของโรค"
"จึงมีคำกล่าวว่า โรคซึมเศร้าไม่ได้มีหน้าตาเฉพาะตัว อาการของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน อาการของคนคนเดียวกันในแต่ละช่วงก็อาจจะยังมีความแตกต่างกันได้"
"ในส่วนของคนไข้ สิ่งที่สำคัญ คือ การสังเกตอาการ การเปลี่ยนแปลงในชีวิตของตนเอง สิ่งที่กระทบใจ ส่วนเรื่องการวินิจฉัย (diagnosis) และวินิจฉัยแยกโรค (differential diagnosis = ดูว่าคล้ายกับโรคอะไร แต่ไม่ใช่) ขอให้เป็นหน้าที่ของจิตแพทย์"
Advertisement