จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางออกจากประเทศไทยด้วยเครื่องบินส่วนตัว (Private Jet) จาก M JET ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และการท่าอากาศยาน ได้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารของนายทักษิณอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคดีความ โดยเฉพาะคดีมาตรา 112 ซึ่งตอนนี้สิ้นสุดลงแล้ว รวมถึงพาสปอร์ตที่เคยถูกอายัดก็ได้รับการปลดล็อกแล้ว ทำให้สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ สำหรับคดีการบังคับโทษกรณีชั้น 14 ที่เป็นการไต่สวนข้อเท็จจริงของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงคำแหน่งทางการเมือง ว่านายทักษิณ ได้รับโทษตามคำพิพากษาแล้วหรือไม่ จึงไม่มีการวางข้อกำหนดเกี่ยวกับการเดินทางออกนอกประเทศของนายทักษิณแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคนใกล้ชิดนายทักษิณ ยืนยันว่า นายทักษิณ จะเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ โดยมีนัดไปตรวจสุขภาพร่างกาย ซึ่งการพบแพทย์และตรวจร่างกายในครั้งนี้จะใช้เวลา 2 วัน จากนั้นจะเดินทางกลับประเทศไทยทันที เพื่อฟังคำสั่งของศาลฎีกาฯในคดี 14 ในวันที่ 9 ก.ย. ไม่มีหลบหนีตามกระแสข่าวที่ออกมา
ขณะที่นาย วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายทักษิณ กล่าวถึงกระเเสข่าวลือว่า มีคนพบนายทักษิณ ที่สนามบินดอนเมือง เเละเตรียมจะเดินทางออกนอกประเทศว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบเรื่อง วันนี้ไม่ได้มีการคุยกัน ส่วนวันที่ 9 ก.ย.ที่ศาลฎีกานัดฟังคำสั่งคดีบังคับโทษชั้น 14 ล่าสุดที่คุยกับนายทักษิณ ท่านจะเดินทางมาอยู่เเล้ว ตนยังเป็นคนทำเรื่องขออนุญาตให้บุตรของนายทักษิณเข้าฟังคำสั่งในวันดังกล่าวอยู่เลย
เเหล่งข่าวจากศาลยุติธรรมกล่าวว่า เมื่อศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้องนาย ทักษิณคดี 112 แล้วโดยไม่ได้สั่งขังไว้ระหว่างอุทธรณ์ คดีนายทักษิณก็จะพ้นข้อกำหนดของศาลที่ออกไว้ระหว่างพิจารณา เท่ากับว่าสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ โดยเมื่อศาลมีคำพิพากษาเเล้ว ทนายความของนายทักษิณก็สามารถขออนุญาตนำเอกสารเกี่ยวกับการเดินทางออกนอกประเทศที่วางไว้กับศาลกลับได้
ในส่วนคดีบังคับโทษชั้น 14 ของศาลฎีกาฯ ศาลฎีกาเพียงแต่นัดฟังคำสั่งในวันที่ 9 ก.ย.ไม่ได้มีการออกข้อกำหนดไว้ หากนายทักษิณไม่เดินทางมาศาลจึงจะพิจารณาในการออกหมายจับ เท่ากับว่าตอนนี้เป็นเพียงหมายเรียกนัดให้มาฟังคำสั่งจึง ยังไม่มีสภาพที่จะเป็นข้อกำหนดในการห้ามเดินทางออกนอกประเทศได้
Advertisement