วันที่ 14 ส.ค. 68 พ.ต.หญิง จุฑาพัชร เปรมบัญญัติ ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 68 เป็นต้นมา กองทัพบกยังคงตรวจพบและจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายสัญชาติกัมพูชาได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 ด้าน จ.สระแก้ว ซึ่งตั้งแต่เกิดการสู้รบจนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมได้ทั้งสิ้น 35 ครั้ง รวมผู้ต้องหา 158 คน ได้แก่ อำเภออรัญประเทศ 23 ครั้ง ผู้ต้องหา 112 คน, อำเภอตาพระยา 7 ครั้ง ผู้ต้องหา 26 คน, อำเภอวัฒนานคร 1 ครั้ง ผู้ต้องหา 5 คน, อำเภอโคกสูง 1 ครั้ง ผู้ต้องหา 6 คน และอำเภอคลองหาด 3 ครั้ง ผู้ต้องหา 9 คน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 68 หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศร่วมกับกองร้อยทหารพรานที่ 1204 จับกุมชาวกัมพูชา 10 คน ในพื้นที่บ้านผ่านศึก ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 12 ส.ค. 68 กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด โดยชุดควบคุมทหารพรานที่ 2 กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 524 (ร้อยบ้านแหลม) จับกุมชาวกัมพูชา 46 คน พร้อมผู้นำพาสัญชาติไทย ในพื้นที่บ้านคลองบอน ต.หนองตาคง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า หลังจากเดินทางกลับกัมพูชาแล้ว ไม่มีงานทำ จึงหาทางกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทยผ่านช่องทางผิดกฎหมาย
สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนว่ามีชาวกัมพูชาจำนวนมากยังคงพยายามลักลอบเข้ามาทำงานในไทย เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจและขาดโอกาสในการประกอบอาชีพในประเทศตน กองทัพบกจึงบูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดชุดลาดตระเวน ตรวจสอบ และป้องกันอย่างเข้มงวด เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ พร้อมคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
Advertisement