อย่ามองข้าม! มะเร็งเต้านม ไม่ได้มีแค่ผู้หญิง ผู้ชายก็เป็นได้ เช็กสัญญาณเตือนและปัจจัยเสี่ยงที่ผู้ชายต้องรู้
มะเร็งเต้านม ถือเป็นภัยร้ายของผู้หญิงที่ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งชนิดนี้เป็นจำนวนมาก แต่รู้หรือไม่ว่า ผู้ชายก็สามารถเกิดมะเร็งเต้านมได้เช่นกัน ซึ่งสาเหตุคล้ายๆ กับมะเร็งเต้านมในผู้หญิง โดยผู้ชายมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมเมื่อเทียบกับจำนวนผู้หญิงอยู่ที่ประมาณ 0.5-1 % เท่านั้น
สถิติมะเร็งเต้านมในเพศชาย
ปี พ.ศ. 2568 ผู้ชายประมาณ 2,800 คน ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม และประมาณ 510 คน จะเสียชีวิตจากโรคนี้ ตามข้อมูลของสมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา ในทางตรงกันข้าม ในกลุ่มผู้หญิงมีประมาณ 316,950 คน และ 42,170 คน
ปัจจัยเสี่ยงเกิดมะเร็งเต้านมในผู้ชาย
แม้ว่ามะเร็งเต้านมในผู้ชายจะพบได้น้อยมาก แต่ก็มีปัจจัยหลายประการที่มีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมได้ ดังนี้
- อายุที่มากขึ้น ความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมจะเพิ่มขึ้นตามอายุและส่วนใหญ่มักพบการวินิจฉัยหลังอายุ 50 ปีขึ้นไป
- การกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมเช่นเดียวกับในผู้หญิง การกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมในยีนบางชนิด เช่น BRCA1 และ BRCA2 จะเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งเต้านมของผู้ชายได้
- ครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งเต้านม อีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง
- มีความผิดปกเกี่ยวกับอัณฑะ จะทำให้การผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชายลดน้อยลง เมื่อเทียบกับอัตราส่วนเอสโตรเจนในร่างกายก็จะทำให้เพิ่มโอกาสในการเป็นมะเร็งเต้านมได้มากขึ้น
- การรักษาด้วยรังสี แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วการฉายรังสีบริเวณหน้าอกจะถือว่าค่อนข้างปลอดภัย แต่มีรายงานว่าผู้ชายที่ได้รับการฉายรังสีบริเวณหน้าอกมีความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมสูงกว่าผู้ชายทั่วไป
- ยาที่มีส่วนผสมของเอสโตรเจนซึ่งเคยใช้รักษามะเร็งต่อมลูกหมากในอดีตอาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านมในผู้ชาย
- กลุ่มอาการไคลน์เฟลเตอร์ (Klinefelter syndrome) ซึ่งเป็นภาวะทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก สามารถนำไปสู่ภาวะไจเนโคมาสเตีย (gynecomastia) และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมในผู้ชาย
- น้ำหนักเกินและโรคอ้วน ผู้ชายสูงอายุที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้ชายที่มีน้ำหนักปกติ
สัญญาณเตือนมะเร็งเต้านมในผู้ชาย
- มีก้อนหรือบวมที่เต้านม
- การเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง เช่น ผิวหนังบริเวณหน้าอกแดงหรือลอก
- มีน้ำออกที่หัวนม
- หัวนมพับลง มีรอยบุ๋ม ระคายเคือง หรือรู้สึกเจ็บปวด
- การเปลี่ยนแปลงของต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้
แม้ว่าอาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นพร้อมกับภาวะอื่นที่ไม่ใช่เนื้อร้าย แต่ถ้าหากรู้สึกผิดปกติหรือมีอาการข้างต้นเกิดขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาและประเมินอาการโดยเร็วที่สุด หมั่นตรวจเต้านมของตนเองเป็นประจำ เนื่องจากการตรวจพบโรคได้เร็วจะเพิ่มโอกาสในการรักษาหายมากขึ้น ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรเข้ารับการตรวจเอกซเรย์เต้านมปีละ 1 ครั้ง ไปพร้อมๆ กับการดูแลตัวเองเบื้องต้นด้วยวิธีง่ายๆ เช่น งดหรือจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ให้อยู่ในปริมาณน้อย หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินมาตรฐาน และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ที่มา : What to Know About Male Breast Cancer , Warning Signs of Breast Cancer in Men
Advertisement