(26 ก.ค. 2568) เวลา 08.30 น. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และหัวหน้าพรรคกล้าธรรม(กธ.) เปิดเผยหลังลงพื้นที่เยี่ยมศูนย์พักพิงใน จ.สุรินทร์ ว่า สถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในขณะนี้ถือเป็นวิกฤตที่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะยืดเยื้อนานแค่ไหน กระทรวงศึกษาธิการจึงเร่งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นและส่วนกลาง เพื่อดูแลเด็ก ครอบครัว และบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ให้ปลอดภัยที่สุด ขณะนี้ไม่เพียงแต่นักเรียนและผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น แต่คุณครูและบุคลากรทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการก็เป็นผู้ประสบภัยด้วยเช่นกัน คุณครูเสียสละมาดูแลเด็กๆ ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวอย่างใกล้ชิด
"ดิฉันซาบซึ้งใจและขอขอบคุณคุณครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน ที่แม้ต้องอพยพออกมาจากบ้านตัวเอง แต่ก็ไม่ลืมที่จะดูแล ปกป้องนักเรียนของตัวเอง ทุกศูนย์พักพิงที่โรงเรียนดูแลอยู่ คุณครูได้จัดกิจกรรมให้กับเด็กๆ อย่างเต็มที่ เพื่อให้เด็กๆ ได้ผ่อนคลาย ลดความเครียด และรู้สึกว่า ยังมีคนคอยโอบอุ้มอยู่เสมอ" ศ.ดร.นฤมล กล่าว
รัฐมนตรีศึกษาธิการ ยังกล่าวด้วยว่า การอพยพเด็กและครอบครัวของโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบ มาอยู่ที่ศูนย์พักพิงเดียวกัน จะทำให้สามารถบริหารจัดการเด็กนักเรียนได้อย่างเป็นระบบ แต่เนื่องจากการอพยพเร่งด่วน ของใช้จำเป็นหลายอย่างจึงไม่ได้เตรียมมา ซึ่งทางกระทรวงศึกษาฯ ในฐานะผู้เป็นเจ้าของสถานที่ศูนย์พักพิงได้ประสานหน่วยงานในพื้นที่และรัฐบาลเพื่อขอความอนุเคราะห์ ขอรับการสนับสนุนสิ่งของจำเป็นสำหรับศูนย์พักพิง เช่น มุ้ง หมอนนอน เสื้อผ้า ผ้าอนามัย นมผงเด็ก และของใช้พื้นฐานอื่นๆ ซึ่งขณะนี้มีการทยอยส่งมอบแล้ว โดยเฉพาะมุ้งที่ได้รับคำร้องขอเร่งด่วนจากประชาชน ซึ่งทางกระทรวงศึกษาฯได้จัดส่งให้วานนี้แล้ว
"เรานำสิ่งของจำเป็นมามอบให้ พร้อมรอยยิ้มและกำลังใจจากใจคนไทยทั้งประเทศ เราจะเดินหน้าเคียงข้างประชาชนทุกครอบครัว เพราะทุกคนคือคนไทย และไม่มีใครควรถูกทิ้งไว้ข้างหลัง" ศ.ดร.นฤมล กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมกับ มูลนิธิธรรมนัสฯ นำสิ่งของจำเป็น อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง และไข่ไก่ แจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่พักอยู่ในศูนย์อพยพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นด้วย
Advertisement