วันที่ 10 ก.ย. 68 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 68 นาย เคพี ชาร์มา โอลี นายกรัฐมนตรีเนปาล ประกาศยอมลาออกจากตำแหน่งแล้ว ตามเสียงเรียกร้องจากฝูงชนจำนวนมาก ภายหลังมีผู้ประท้วงหลายร้อยคนโกรธแค้น จุดไฟเผาอาคารรัฐสภาเนปาล และประท้วงต่อต้านการคอร์รัปชัน
พร้อมทั้งฝ่าฝืนเคอร์ฟิวแบบไม่มีกำหนด จนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 100 คน จากสาเหตุไม่พอใจรัฐบาลที่มีปัญหาเรื่องคอร์รัปชั่น และบล็อกการเข้าถึงโซเชียลมีเดียหลายแพลตฟอร์มของประชาชน
ทั้งนี้เหตุการณ์ประท้วงที่รุนแรง และลุกลามไปอย่างรวดเร็ว นับเป็นการปราบปรามนองเลือดที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปี
ต่อมามีรายงานข่าวว่า นางราชยาลักษมี จิตราคาร์ ภริยาของนายจฮาลานาธ คานาล อดีตนายกรัฐมนตรีเนปาล เป็นหนึ่งในเหยื่อการประท้วงครั้งใหญ่ในเนปาล หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงขังเอาไว้ในบ้าน ก่อนจะจุดไฟเผาบ้าน ที่เมืองดัลลู ทำให้ นางราชยาลักษมี จิตราคาร์ ถูกไฟคลอกตามร่างกาย และบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะเสียชีวิตระหว่างการรักษาตัว
นอกจากนี้ ยังมีคลิปเผยแพร่ภาพของนาย พิษนุ ปราสาด เพาเดล รัฐมนตรีคลังเนปาล วัย 65 ปี ถูกกลุ่มผู้ประท้วงวิ่งไล่ในกรุงกาฐมาณฑุ ถูกเตะ ถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตามล่าสุด พล.อ.อโศก ราช ซิกเดล ผู้บัญชาการทหารบกเนปาล กล่าวในการปราศรัยทางวิดีโอ เรียกร้องให้เกิด “สันติภาพ” และ “การเจรจา” ท่ามกลางความไม่สงบที่ยังคงดำเนินอยู่ ขณะที่ผู้ประท้วงหลายร้อยคนที่โกรธแค้น เพื่อให้ประเทศชาติมีทางออกโดยสันติ ตนขอเรียกร้องให้ทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงยุติการประท้วงและเจรจา
ที่มาภาพ : เอเอฟพี
Advertisement