นายกฯ ระบุ เซ็น MOU ร่วมกันวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นปรับปรุงฐานข้อมูล ประชาชนกลุ่มเปราะบาง ทำให้เข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานและมีอาชีพสร้างรายได้
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า จุดเริ่มต้นการสร้างระบบข้อมูลแบบบูรณาการ ลดความซ้ำซ้อน ลดการตกหล่น เปิดโอกาสส่งเสริมศักยภาพประชาชนอย่างตรงจุดด้วยข้อมูลรายบุคคล
MOU ที่เซ็นร่วมกันในวันนี้ คือจุดเริ่มต้นสำคัญในการ 'เชื่อมโยง' และ 'ปรับปรุงฐานข้อมูลประชาชน' ในกลุ่มเปราะบาง กลุ่มคนพิการ เป็นการจัดทําฐานข้อมูลผู้สูงอายุตามสิทธิ/สวัสดิการที่จะได้รับรายบุคคลเพื่อบูรณาการขอมูลจากทุกภาคส่วนที่ขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุ
นับเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยค่ะในการวางรากฐานข้อมูล ยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางของสังคม โดยเฉพาะการจัดสวัสดิการสังคมให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ค่ะหากเรายังทำงานแบบแยกส่วน และข้อมูลของกลุ่มเปราะบางยังคงกระจัดกระจายอยู่ในหลายหน่วยงาน
ฐานข้อมูลนี้ คือการปฏิรูปรากฐาน การทำงานของรัฐอย่างลึกซึ้งและจะส่งผลใน 3 มิติสำคัญค่ะ
หนึ่ง – #ลดความซ้ำซ้อน เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณและทรัพยากรของรัฐ
เมื่อข้อมูลของกลุ่มเปราะบางถูกเชื่อมโยงกัน หน่วยงานต่างๆ ในระดับพื้นที่จะทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น ลดการทำงานซ้ำซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการลงพื้นที่ การตรวจสอบสิทธิ์ หรือการจ่ายสวัสดิการ ประชาชนเองก็ไม่ต้องกรอกข้อมูลหรือยื่นเอกสารหลายรอบเหมือนในอดีต ทำให้ภาครัฐสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า ลดภาระทางการคลังของภาครัฐ
สอง – สร้างความเป็นธรรม #ลดการตกหล่น ของประชาชนในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน
หลายครั้งที่ผ่านมา เราพบว่ามีผู้ที่ควรได้รับการช่วยเหลือแต่กลับไม่อยู่ในระบบ เช่น กลุ่มที่ยากจนจริงแต่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือคนพิการที่ไม่เคยขึ้นทะเบียน การมีข้อมูลที่บูรณาการจะช่วยทำให้กลุ่มคนเหล่านี้กลับมาอยู่ในสายตาของรัฐ และได้รับความช่วยเหลืออย่างถูกต้องและเป็นธรรม
สาม – ส่งเสริมศักยภาพของประชาชนอย่างตรงจุด ด้วย #ข้อมูลแบบรายบุคคลและรายพื้นที่
หากเรามีข้อมูลว่ากลุ่มผู้มีรายได้น้อย คนพิการ ผู้สูงอายุกระจายตัวในชุมชนอย่างไร ติดบ้าน ติดเตียงเท่าไหร่ในแต่ละจังหวัด เราจะสามารถไม่เพียงช่วยเหลือเขาในสิ่งที่เขาขาดแคลน แต่ยังสามารถพัฒนาเขาได้ ด้วยการส่งเสริมการเข้าถึงการฝึกทักษะอาชีพเพื่อการมีงานทำและ การสร้างรายได้ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันจึงไม่ใช่แค่การรักษาปัญหา แต่เป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการส่งเสริมศักยภาพได้อย่างตรงจุด
ความสำเร็จในวันนี้ คือความร่วมมือกันของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ และหน่วยงานรัฐอีก 29 แห่ง ที่ได้ร่วมกันเริ่มต้นสร้างระบบข้อมูลที่บูรณาการ เชื่อมโยง และพร้อมใช้เพื่อการดูแลประชาชนอย่างแท้จริง
จุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูลที่มีคุณภาพ เป็นธรรม และทันสมัย เพื่อให้ประเทศไทยของเราก้าวไปสู่รัฐที่ประชาชนทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม และระบบราชการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกัน
อย่างเต็มที่ในการผลักดันภารกิจนี้ให้สำเร็จ เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการในทุกมิติอย่างเสมอภาคค่ะ
Advertisement