กลุ่มทอผ้าไหม บ้านผไทรวมพล ร่วมถวายความอาลัย "สมเด็จพระพันปีหลวง"
กลุ่มทอผ้าไหม - ชาวบ้านเลี้ยงหม่อนไหม บ้านผไทรวมพล ร่วมถวายความอาลัย "สมเด็จพระพันปีหลวง" เผย ปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณ ขอสืบสานโครงการต่อ
(25 ต.ค. 2568) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ที่ทำการโครงการกลุ่มทอผ้าไหม หมู่บ้านไหมไทย เฉลิมพระเกียรติ บ้านผไทรวมพล ต.หนองแวง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคยเสด็จพระราชดำเนิน เพื่อสร้างอาชีพให้กับประชาชน หมู่บ้านแนวชายแดน โดยกลุ่มทอผ้าไหม บ้านผไทรวมพล มีสมาชิก 39 คน ประกอบอาชีพทอผ้าไหมเลี้ยงชีพ ทั้งเป็นอาชีพเสริม และ อาชีพหลัก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นางลำไพ ทองโกย อายุ 56 ปี ประธานกลุ่มทอผ้าไหม บ้านผไทรวมพล ซึ่งให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคยเสด็จมาเยี่ยม บ้านผไทรวมพล 2 ครั้ง ครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2540 ซึ่งมาเยี่ยมราษฎรตามแนวชายแดน และครั้งที่ 2 มาที่ตั้งของโครงการ ส่งเสริมศิลปาชีพอำเภอละหานทราย เมื่อปี 2545 โดยเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2540
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินมารอบแรก ก็ได้ถามสมาชิกว่า "ผ้าที่ใส่ สวยจัง" ซึ่งชาวบ้านก็ตอบกลับไปว่า "อยู่ที่บ้านมีสวยกว่านี้อีก" จากนั้น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ก็เปิดรับสมาชิก จึงทำให้ชาวบ้านได้ร่วมเป็นสมาชิกตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
จากนั้น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ก็ได้สนับสนุน ทุนทรัพย์ ในการเริ่มต้นอบรม การฝึกทำผ้าไหม ซึ่งปัจจุบัน กลุ่มทอผ้าไหม บ้านผไทรวมพล มีสมาชิกทั้งหมด 39 คน บางคนทำเป็นอาชีพเสริม บางคนทำเป็นอาชีพหลัก เพราะอายุมากแล้วไม่สามารถที่จะไปทำงานหนักได้ จึงยึดอาชีพทอผ้าเป็นอาชีพหลัก เพื่อให้มีรายได้จุนเจือครอบครัว
ส่วนกรณี การเสด็จสวรรคตของ สมเด็จพระพันปีหลวง ในวันนี้ รู้สึก เสียใจ เศร้าใจเป็นอย่างมาก และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และรู้สึกปราบปลื้มใจ ที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มองเห็นความสำคัญของพสกนิกร ที่อยู่แนวชายแดน หลังจากนี้จะขอทำความดีด้วยหัวใจ เพื่อเทิดทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งวันนี้ทางกลุ่มทอผ้าไหม บ้านผไทรวมพล ได้ร่วมกันแต่งกายด้วยชุดสีดำเพื่อเป็นการถวายอาลัย น้อมส่งเสด็จ สู่สวรรคาลัย และหลังจากนี้ทางกลุ่ม ทอผ้าไหม บ้านผไทรวมพล จะพยายามสืบสานโครงการนี้ไว้ให้ได้นานที่สุด
ขณะเดียวกัน นางลำไพ ได้พาผู้สื่อข่าว ชม กลุ่มทอผ้าไหม บ้านผไทรวมพล และภาพพระราชกรณียกิจ ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนิน มาที่บ้าน ผไทรวมพล เมื่อปี 2540 และ 2545
ขณะเดียวกัน กลุ่มเลี้ยงหม่อนไหม บ้านผไทรวมพล ได้พาผู้สื่อข่าวไปดู โรงเลี้ยงหม่อนไหม ตามโครงการพระราชดำริ ซึ่งมีการเลี้ยงหม่อนไหม มาตั้งแต่ปี 2530 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งยังคงรักษาและสืบสานอาชีพการเลี้ยงหม่อนไหม มาจนถึงปัจจุบัน
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นางทองศรี เปลี่ยนไธสง อายุ 66 ปี ชาวบ้านชายแดน (อาชีพเลี้ยงหม่อนไหม) เผยว่า ตนเองเริ่มต้นเลี้ยงหม่อนไหมมาตั้งแต่ปี 2530 ซึ่งเป็นโครงการของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งแม่ของตนเองเริ่มเลี้ยงมาก่อนและตนเองก็สืบสานต่อ ปัจจุบันเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมหลังว่างเว้นจากการทำการเกษตร ซึ่งทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เพื่อใช้ในการจุนเจือครอบครัว
วันนี้ตนเองรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีหลวง และรักพระองค์ท่าน ซึ่งพ่อของตนเอง ก่อนเสียชีวิตก็เน้นย้ำเสมอว่า โครงการนี้เป็นโครงการของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อย่าทิ้งให้ทำต่อ เพราะจะทำให้มีรายได้จุนเจือครอบครัว ซึ่งตนเองก็สืบสานมาโดยตลอดและหลังจากนี้ก็พยายามส่งต่อให้ลูกหลานได้ สืบสานโครงการ ของพระองค์ท่าน ต่อไป
วันนี้หลังจากทราบข่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสวรรคต เนื่องจากลูกชายที่อยู่กรุงเทพฯโทรมาบอก รู้สึกตกใจ และเสียใจ เป็นอย่างมาก
Advertisement
