วันนี้ (9 มิ.ย.68) พลตรีณัฐ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว Mammoth S Nutt ว่า “วันนี้คลี่คลาย แต่ต้องคิดว่าวันหน้าจะยังไงต่อ เตรียมการเพื่อรองรับวันข้างหน้าอย่างเป็นระบบ อย่าปล่อยเวลาไปเสียเปล่า ปัญหาข้างหน้าอาจแก้ไม่ได้ง่ายเหมือนวันนี้ สถานการณ์เปลี่ยน คนเปลี่ยน วิธีการเปลี่ยน”
ในขณะที่พลตรีสมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ได้ออกหนังสือด่วนที่สุด เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568ที่ผ่านมา ถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ,ศรีสะเกษ , สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ให้ดำเนินมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนถาวร และจุดผ่อนปรนการค้าในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดย จุดผ่อนปรนการค้าช่องอานม้า ต.โขง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ให้ปรับเวลาเปิด-ปิด จาก 2 วัน เป็น 1 วัน คือวันพฤหัสบดี ตั้งแต่ เวลา 09.00 น. -12.00 น. ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ส่วนจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ปรับเวลาเปิด-ปิด จากเปิดทุกวัน เป็น 3 วันต่อสัปดาห์ คือวันอังคาร พุธ และพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 09.00 น. -12.00 น. ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ซึ่งจุดผ่อนปรนการค้า ทั้ง 2 จุดนี้ ประชาชนทั้งสองประเทศผ่านเข้า-ออกไม่เกินตลาดของทั้งสองประเทศฯ และไม่อนุญาตให้ยานพาหนะทุกประเภทผ่านเข้า-ออก ส่วนการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้ปฏิบัติตามระเบียบและตามหลักสากล โดยผ่านการพิจารณาจากหน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำพื้นที่ 1 และพื้นที่ 2
สำหรับ จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ให้ปรับเวลาเปิด-ปิด จากเปิดทุกวัน เป็น 3 วันต่อสัปดาห์ คือวันจันทร์ พุธ และศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. -12500 น. ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ให้ประชาชนทั้งสองประเทศผ่านเข้า-ออกได้ โดยใช้ Passport หรือ Border pass เท่านั้น และจำกัดการส่งออกสินค้ายุทธภัณฑ์ตามกฎหมาย , งดการส่งออกสินค้าเพื่อการก่อสร้าง เช่นปูนซีเมนต์ เหล็กเส้น หรือสินค้าอื่นตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจ ณ เวลานั้น สำหรับยานพาหนะทุกประเภทผ่านเข้า-ออกได้ตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ส่วนการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้ปฏิบัติตามระเบียบและตามหลักสากล โดยผ่านการพิจารณาจากหน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำพื้นที่ 1 และพื้นที่ 2
Advertisement