นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงการพิจารณามาตรการ รองรับสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ว่า มีมาตรการรองรับทั้งหมด แต่ไม่ขอชี้แจงในรายละเอียด โดยขอให้รอการชี้แจงอย่างเป็นทางการจากทางสมช.
ส่วนจะที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องการปิดการชายแดนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า มีการพิจารณาทุกเรื่องแต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และสภาวะว่าควรจะดำเนินการถึงขั้นไหน แต่ทุกอย่างไม่มีการเตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว
ส่วนมีการกำหนดหรือไม่ว่าสถานการณ์ถึงขั้นใดแล้วจะดำเนินการปิดด่านชายแดน นายภูมิธรรม ยืนยันว่า มีอยู่ในมาตรการแล้ว แต่เชื่อว่า ในขณะนี้ไม่สามารถเกิดเรื่องเหล่านี้ได้ขอให้เกิดสถานการณ์แต่ละขั้นเพราะเราได้ตกลงกันในกลไกแล้วว่ากองทัพซึ่งเป็นหน่วยหน้างานเป็นอย่างไร กระทรวงการต่างประเทศยืนยันในหลักการกฎหมายอย่างไร ซึ่งขณะนี้ได้พูดคุยกันทุกหน่วยแล้ว
ส่วนได้มีการระบุเวลาหรือไม่ เพื่อให้ทหารกัมพูชาถอยออกจากพื้นที่ โนแมนแลนด์ นายภูมิธรรม ระบุว่า เราไม่ได้ให้ถอยแต่ให้ปรับกำลังถึงปี 2567 และส่วนต่างๆที่จะเกิดขึ้นเราเสนอให้ใช้กลไกทวิภาคี กลไกทางกฎหมายและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อแก้ปัญหานี้โดยตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งมีนายฉัตรชัยบางชวดเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ประธาน
เมื่อถามว่าในการเรียกพูดไทยกับประเทศจะถือเป็นหนึ่งในมาตรการของเราหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกขั้นตอนที่คิดว่าควรใช้กับสถานการณ์ต่างๆโดยเฉพาะกระทรวงกลาโหมกระทรวงการต่างประเทศและกองทัพ จะพูดคุยกันตลอด ซึ่งเราจะใช้ทุกมาตรการและมีการวางรายละเอียดในกลไกต่างๆ ไว้ทั้งหมดแล้ว เพียงแต่ทำให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ส่วนจุดยืนของไทยสำหรับสถานการณ์ไทยกัมพูชาที่หลายฝ่ายออกมา Call out ถึงความไม่ชัดเจนของรัฐบาล และการประชุมในวันนี้รัฐบาลก็ยังคงย้ำว่าสามารถพูดคุยเจรจากันได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอให้แยกออกจากกัน จริงๆ ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่มีอะไร ทุกยังปกติ ซึ่งการมาเจอกันของกองทัพ 2 ฝ่ายวานนี้ แสดงให้เห็นว่าในฐานะที่เราเป็นคนคุมกำลังทั้งกำลังพลและอาวุธก็อยากจะหาทางสันติให้มากที่สุด ลดการเผชิญหน้าให้มากที่สุด เพราะขณะนี้ทุกฝ่ายไม่อยากให้เกิดภาวะสงคราม และการใช้กลไก JBC ตลอดกว่า 20 ปีก็ดีมาตลอดในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมต่างๆ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ทหารก็มีหน้าที่โดยตรงที่ต้องปกป้องอธิปไตยของชาติไม่ได้วางเฉยหรือจะไปทะเลาะเบาะแว้ง เพียงแต่ตึงกำลังและใช้กลไกสันติวิธี หากเกิดปัญหาอะไรในพื้นที่ก็บอก เพราะมีการเตรียมกลไกไว้ทั้งหมดแล้ว ว่าจะตัดสินใจอย่างไร
ส่วนที่วานนี้มีการพูดคุยกับพล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ซึ่งออกมาระบุว่าทุกอย่างจะต้องมีการสอบถามนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทำไมไม่ใช้ Connection ที่มีอยู่ในการพูดคุย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเรื่องของประเทศชาติและอธิปไตย เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรัฐบาล และการคุยนอกรอบก็ทำอยู่แล้ว โดยที่ตนไปเมื่อวานนี้ก็ถือเป็นการคุยนอกรอบ และย้ำว่า เราใช้ทุกกลไกมาพิจารณาทั้งหมด ซึ่งอยากให้นำเสนอข่าวในการแก้ปัญหาประเทศ หากลงข่าวในสิ่งที่คาดเคลื่อนจะนำไปสู่การตอบสนองที่ไม่ค่อยดี อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเราทำงานร่วมกันตั้งแต่เริ่มต้น และสิ่งที่เราประสงค์ต้องไม่กระทบความสัมพันธ์ เพราะหากกระทบแล้วจะเป็นบาดแผลที่ลึก จะทำให้การทำงานต่างๆ นั้นยากขึ้น เพราะเราจะต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน อยากให้จำกัดวงอยู่แค่นี้ อย่าไปถามถึงเรื่องศาลโลก
เมื่อถามว่าวางเงื่อนไขรับมือในกรณีที่กัมพูชาไม่ร่วมวง JBC อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่ายังไม่ได้คิดเรื่องนั้น เพราะเขายังไม่ได้บอกว่าไม่เข้าร่วม หากไปคิดในสิ่งที่ร้าย เดี๋ยวมันจะมีปัญหา
เมื่อถามถึงความแข็งกร้าว ของกองทัพจะเป็นเชื้อไฟในการนำไปสู่รัฐประหารหรือไม่ นายภูมิธรรม ได้ย้อนถามสื่อว่าของใคร ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่าของกองทัพบก จากนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า กองทัพบกมีหน้าที่ที่ต้องทำอยู่แล้วไม่ได้มีอะไรขัดแย้งกับรัฐบาล เพียงแต่ทำให้มีความพร้อมในการรักษาประเทศและอธิปไตย
ส่วนในยุคของ "บิ๊กอ้วน" จะไม่มีรัฐประหารใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่ายังไม่มีอะไรที่เป็นสัญญาณ โดยคุยกันดีมาโดยตลอด
และส่วนที่มีการปลุกระดมความรักชาติ ขอให้ช่วยกันทำความเข้าใจว่าการไม่มีสงครามเป็นสิ่งที่ดีที่สุด อย่าไปปลุกกับเขาด้วย เดี๋ยวจะมีปัญหา
นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์ถึงท่าทีของการแถลงของประเทศไทย ว่าดูมีความนอบน้อมกว่าประเทศกัมพูชา ที่มีความแข็งกร้าว นายภูมิธรรม ตอบกลับว่า อย่ามองว่าเป็นการนอบน้อม อย่างวานนี้ มีคนบอกว่าตนเดินทางไปกัมพูชา ไปเป็นข้าของเขามันไม่จริง เพราะเมื่อวานนี้เค้าก็มาหาเราถึงที่ทำไมถึงไม่บอกบ้างว่าเขานอบน้อมเรา ขออย่าไปดูอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ มีความเกี่ยวข้องกับประเทศชาติ ถ้าเราไปมองจุกจิกแต่กับเรื่องเล็ก ๆ เรื่องใหญ่มันจะไม่ได้ และกลายเป็นความขัดแย้ง ส่วนเรื่องการนอบน้อม นายภูมิธรรม ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า เป็นในสายตาใคร เพราะในทางการทูตก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ทัศนคติของแต่ละคนก็ต่างกัน พร้อมย้ำว่า “ ไม่ถนอมเลย ไม่ถนอม ไม่ถนอม”
นอกจากนี้ นายภูมิธรรม ยังกล่าวว่า ท่านต้องคิดบวก ต้องแบ่งเรื่องดังกล่าวเป็น 2 เรื่อง คือการปกป้องอธิปไตย และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ขณะนี้โลกมีปัญหาเยอะ เราก็ต้องมีความสัมพันธ์ในการแก้ไขปัญหาหลายอย่าง ตอนนี้คิดเรื่องเดียวไม่ได้
อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรม ไม่ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ที่ถามว่าหม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือหม่อมปลื้ม เคยกล่าวว่า ความสัมพันธ์ของนายทักษิณ ชินวัตร กับ พล.อ.ฮุน เซน เป็นจุดอ่อนของการแก้ไขปัญหาระหว่างไทยและกัมพูชาในครั้งนี้ ก่อนจะขึ้นรถกลับออกไป
Advertisement