Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
กัณวีร์ ชี้ 4 เหตุผล ไม่เห็นด้วยงบ 69 รัฐบาลขาดความเป็นมืออาชีพ

กัณวีร์ ชี้ 4 เหตุผล ไม่เห็นด้วยงบ 69 รัฐบาลขาดความเป็นมืออาชีพ

28 พ.ค. 68
21:13 น.
แชร์

กัณวีร์ ชี้ 4 เหตุผล ไม่เห็นด้วยงบ 69 รัฐบาลขาดความเป็นมืออาชีพ - ขาดความเป็นผู้นำ - ไม่ทราบความจำเป็นเร่งด่วน

วันที่ 27 พ.ค. ที่อาคารรัฐสภา การประชุมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2569 นายกัณวีร์ สืบแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม อภิปรายว่า ตนเองขอยกเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว ทั้งสิ้น 4 ประการ ได้แก่

1.รัฐบาลชุดนี้ ขาดความเป็นมืออาชีพในการทำร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว ซึ่ง ปี 67 ไม่เป็นไร ในสมัยนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนเมื่อ ปี 68 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพิ่งเข้ามาเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แต่เมื่อปี 69 ที่รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำเหตุผลทางเศรษฐศาสตร์มารองรับงบประมาณดังกล่าวแล้วนั้น ตนเองอยากบอกว่าหน้าที่ของพวกท่านที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ และเป็นคณะรัฐมนตรีที่กุมบังเหียนของกระทรวงต่าง ๆ เป็นผู้ชี้ต้องบอกว่าปัญหาของประเทศนี้คืออะไร ปัญหาในแต่ละกระทรวงที่รับผิดชอบอยู่คืออะไร ไม่ใช่เป็นการจัดทำงบประมาณแบบเดิม ๆ ตนเองเคยเป็นข้าราชการตั้งแต่ปี 2545 โดย 20 กว่าปีที่ผ่านมายังทำเหมือนเดิม ข้าราชการประจำทำงบประมาณขึ้นมา โดยใช้กรอบตัวเงินในการเป็นตัวตั้ง ทำโครงการขึ้นมาสอดรับกับแผนงาน แผนแม่บท แผนยุทธศาสตร์ต่าง ๆ โดยที่ไม่ยอมนำปัญหาจริง ๆ ที่มองเห็น การเป็นนักการเมือง และเป็นผู้นำฝ่ายบริหาร กลุ่มกระทรวงต่าง ๆ จัดทำเป็นโครงการแผนงาน แต่กลับทำเป็นเป็นพีระมิดที่กลับหัว ซึ่งผิดกรอบ การจัดทำงบประมาณทำให้ประเทศของเราไม่ก้าวหน้า ไม่สามารถที่จะมองเห็น ต้องมีวิสัยทัศน์ที่ทำให้เห็นว่าปัญหาของประเทศคืออะไรจึงเป็นเหตุผลที่ไม่สามารถยอมรับร่าง พ.ร.บ. งบ 69 ได้

2.ขาดความเป็นผู้นำของส่วนราชการ ก็ไม่สามารถบอกได้จริงว่าปัญหาคืออะไร เมื่อข้าราชการคิดกรอบงบประมาณมา ก็ส่งต่อมาให้สภา และฝ่ายค้านก็เสียงน้อยกว่าอยู่แล้ว ก็เป็นซะอย่างนี้ แล้วพวกท่านจะอยู่ทำไมตรงนั้น เอาข้าราชการประจำหรือปลัดกระทรวง มาอยู่ดีกว่าหรือไม่

3.ไม่ทราบความจำเป็นเร่งด่วนในประเทศของเรา ว่ากำลังเผชิญกับปัญหาอะไรอยู่ จึงไม่สามารถบอกได้ว่าปัญหาต่าง ๆ ควรจะนำการจัดทำงบประมาณ ปัญหาที่ต้นทางในการสร้างโครงการแผนงาน และงบประมาณทีหลัง สำหรับตนเอง งบประมาณมาทีหลัง หากมองแบบก้าวหน้า ต้องเอาปัญหามาเป็นตัวตั้ง ไม่ว่างบประมาณจะมากขนาดไหนก็ตาม ใส่เข้าไปก่อน หากเยอะเกินไปก็ตัดออกไปได้ แต่ครั้งนี้คือการเอางบประมาณเป็นตัวตั้งครั้งนี้ 3.78 ล้านล้านบาท

4.ความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และความมั่นคงกับภายใน และภายนอกประเทศที่กระทบกับเราก็มองไม่ออก

ทั้ง 4 เหตุผลนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้ตนเองไม่สามารถให้ความไว้วางใจในเรื่องเกี่ยวกับการจัดทำงบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2569

นายกัณวีร์ ยังยกตัวอย่างปัญหาที่ควรเป็นตัวตั้งในการจัดทำงบประมาณ ว่า ปัญหาเจาะเหมืองมลพิษชายแดนต้นแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง ปัญหาในประเทศเพื่อนบ้านของเราที่มีการจัดทำเหมืองทอง เหมืองแร่แรเอิร์ธ และมีผลกระทบต่อจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย ไล่ลงมาสู่แม่น้ำโขง จึงตั้งคำถามว่ามองไม่ออกว่านี่คือปัญหาจริง ๆ หากมองออกจะรู้ว่าจะจัดทำงบประมาณอย่างไร และจะรู้ว่าแผนการแก้ไขปัญหาส่วนนี้ควรทำอย่างไร

นายกัณวีร์ ยังเปิดเผยภาพการทำเมืองแร่แรเอิร์ธในประเทศเพื่อนบ้าน ที่ห่างจากชายแดนไทยเพียง 25 กิโลเมตร ซึ่งพี่น้องภาคประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงรายออกมาต่อสู้ว่าท่านทำอะไรกันอยู่ ทำไมถึงไม่แก้ปัญหา

นายกัณวีร์ ระบุว่า เรื่องเหล่านี้อยู่ภายใต้งบประมาณภายใต้ยุทธศาสตร์การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้แผนย่อย แม่บทการจัดการมลพิษที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสารเคมี ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปี 68 มีงบประมาณเพิ่มขึ้นกว่า 200 ล้านบาท แต่เมื่อไปดูในรายละเอียด ก็ไปลงที่กระทรวงอุตสาหกรรม และองค์การจัดการน้ำเสีย

นายกัณวีร์ ยังยกตัวอย่างเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทวาย และพะโค ในประเทศเมียนมา ซึ่งติดกับประเทศไทยเพียงแค่ 132 กิโลเมตร ติดจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งหากมีการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในพื้นที่ดังกล่าว โดยการทำธุรกิจ และสิทธิมนุษยชนในเพื่อนบ้านของเรา จะทำอย่างไร เราก็ไม่สนใจเป็นเรื่องของประเทศเพื่อนบ้าน แต่ในเมื่อกระทบต่อประเทศไทย การไม่มีความรับผิดชอบของประเทศเพื่อนบ้านในการจัดทำธุรกิจต่าง ๆ ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย จึงขอให้เราคิดดูว่าหากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เกิดขึ้น แล้วไม่สามารถควบคุมสิ่งต่าง ๆ สารกัมมันตภาพรังสีแผ่ขยายมาในประเทศไทยแล้วจะทำอย่างไร

นายกัณวีร์ ยกตัวอย่างงบประมาณที่เพิ่มขึ้นของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติกว่า 56 ล้านบาท แต่เมื่อไปดูในรายละเอียดแล้ว จะเห็นว่าเป็นการป้องกันแค่ภายในประเทศแต่ไม่มองออกไปว่าหากมีผลกระทบจริง ๆ จากประเทศเพื่อนบ้าน และมาสู่ประเทศไทย จะป้องกันอย่างไร ได้ดำเนินการในการพูดคุยหรือไม่ ส่วนกระทรวงการต่างประเทศก็ไม่มีการพูดคุยในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ อีกทั้งกระทรวงกลาโหมก็ไม่มีการพูดคุยในเรื่องนี้ ดังนั้น งบประมาณตรงไหนที่จะไปป้องกันว่าไม่ควรทำหรือจะมีการดีลเพื่อพูดคุยว่าไม่ควรเกิดขึ้น

นายกัณวีร์ ชี้ว่า ท่านมองไม่ออกว่านี่คือปัญหาที่จะมีผลกระทบส่งต่อความมั่นคงของประเทศ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งใหม่ เกิดขึ้นมาประมาณ 2 ปีแล้ว มีความพยายามของประเทศเพื่อนบ้านในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่จะอยู่ใกล้ประเทศไทย แต่เราก็ไม่ทำอะไร แล้วพี่น้องในจังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดตาก ที่จะมีผลกระทบหากเกิดสารกัมมันตภาพรังสีทะลุออกมาจะทำอย่างไร ขณะนี้พี่น้องประชาชนในชายแดนรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ เรียบร้อย หากไม่มีแผนงานโครงการต่าง ๆ เกิดขึ้น

ส่วนโครงการ EEC และฟูนันเตโซในประเทศกัมพูชา ที่ประเทศจีนมาลงทุน รู้หรือไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นนัยของเรื่องนี้ต้องวิเคราะห์ให้ออก หากการทำคลองในฟูนันเตโซสำเร็จ มีการติดต่อจังหวัดแกบ ไปสีหนุวิล เมื่อลงทุนไปตรงนั้นแล้ว หากมีนิคมอุตสาหกรรมเกิดขึ้นเหมือนที่เราทำ EEC เราจะทำอย่างไร เพราะเรามีการลงทุนเรื่องนี้ใน 2 ปีกว่า 15,671 ล้านบาท รู้หรือไม่ว่าหากกัมพูชาสามารถทำท่าเรือน้ำลึกเกิดขึ้น พื้นที่ส่วนนั้นจะเป็นตาข่ายรองรับการเดินเรือเข้ามา แล้ว EEC ของเราจะมีผลกระทบได้สร้างโครงการแผนงานอะไรบ้างแล้วหรือไม่ กระทรวงพาณิชย์ได้พูดคุยแล้วหรือไม่ ว่าจะทำอย่างไร ในการประสานงานกัมพูชา โดยรัฐบาลที่มีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศกัมพูชา มีการพูดคุยอะไรกันบ้างหรือไม่ ว่าเรามีโครงการตรงนี้เกิดขึ้นไม่ควรจะมีโครงการต่าง ๆ มารองรับที่เป็นตาข่ายทางด้านเศรษฐกิจที่จะส่งผลต่อ EEC ที่เคยลงทุนเป็นหมื่นล้านมาหลายปีแล้วไม่ได้รับผลกระทบ มีแต่การนำงบประมาณไปลงทุน ไม่ได้ดูความจำเป็นเร่งด่วนว่าคืออะไร หากลงทุนไปแสนล้านบาท แล้วไม่ได้ผลกำไรกลับมาเราจะลงทุนไปเพื่ออะไร

นายกัณวีร์ ยังกล่าวถึงผลกระทบสถานการณ์ในเมียนมาต่อประเทศไทย ว่า ประเทศไทยทราบนานแล้วว่าผลกระทบเกิดขึ้นแน่ ๆ หากเกิดสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา ทั้งกระบวนการค้ามนุษย์ คอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ ในสมัยรัฐบาลเศรษฐามีการทำเรื่องสิทธิมนุษยชน 5 ล้านบาท ส่วนในรัฐบาลแพทองธาร มีการใช้งบประมาณของเราผ่านศูนย์ประสานงานด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่านอาเซียนใช้เงินเท่าไหร่ เราไม่รู้ เพราะเอาเงินทุกอย่างไปสู่งบกลาง ทั้งที่เรารู้ว่าส่วนนี้เป็นการป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้นในไทย พี่น้องชายแดนไทยได้รับผลกระทบทั้งนั้น ได้เพียงแค่พูดว่าเราเป็นผู้นำในการสร้างสันติภาพ เราทำทุกอย่าง แต่เราไม่มีงบงบประมาณไม่มีโครงการ จึงตั้งคำถามว่า เอาเงินไปทำอะไรกันหมด ตนเองก็ไม่เข้าใจ ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่ต้องมีในการสร้างงบประมาณ ตนเองเชื่อว่าทั้งหมดนี้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และส่งผลต่อเรื่องการเข้ามาลงทุนเพราะเขาไม่เชื่อว่าเราสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้

นายกัณวีร์ กล่าวถึงปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในพื้นที่ปาตานี ซึ่งในวันนี้ก็มีสถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น และยังมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์มากมาย รวมถึงงบประมาณที่ใช้ในพื้นที่ ตลอด 23 ปีที่ผ่านมาใช้เงินเกือบ 600,000 ล้านบาท ปีที่ผ่านมางบบูรณาการ 5,872 ล้านบาท ซึ่งปีนี้งบลดลงเหลือ 1,425 ล้านบาท โดยงบประมาณที่เหลือไปใส่ในงบฟังก์ชันให้กับกระทรวง และหน่วยงานด้านความมั่นคงมากมาย ซึ่งไม่ได้แก้ไข แต่พลิกเอางบประมาณไปใส่อีกส่วนหนึ่ง และจะสะท้อนว่างบบูรณาการลดลง เพราะสถานการณ์ดีขึ้น ตนเองจึงตั้งคำถามว่า สถานการณ์ดีขึ้นอย่างไรบ้าง สันติภาพอยู่ตรงไหน

นายกัณวีร์ ตั้งคำถามว่า เรื่องชายแดนใต้ เป็นนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ ที่จะบอกว่า Iron fist คือกำปั้นเหล็ก หรือจะเป็น Velvet Glove ที่จะสามารถใช้ไม้เรียวแก้ไขปัญหา แต่เมื่อมาดูงบประมาณแล้วมันย้อนแย้งกัน

นายกัณวีร์ ยังยกตัวอย่างงบประมาณในจังหวัดชายแดนใต้ตลอด 23 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2547 ถึง 2569 รวมกว่า 600,000 ล้านบาท ดูเหมือนว่า ปี 69 จะงบประมาณลดลง แต่กลับกลายเป็นว่าส่วนต่าง 20,000 ล้านบาท ไปอยู่ในงบฟังก์ชันนโยบายก็ไม่มีการสร้างสันติภาพก็ไม่เกิดปัญหาก็เกิดทุกเมื่อนโยบายไม่ทำจะทำอะไรต่อไปจะเอาเงินไปละลายแม่น้ำตลอดเวลาไม่ได้เงินภาษีพี่น้องประชาชนณปัจจุบันจะทำอย่างไรเราไม่เห็นจริง ๆ

นายกัณวีร์ ระบุว่า อยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหาความจริงว่าโรงพยาบาลหนึ่งแห่งในจังหวัดเชียงราย ได้รับการประสานงานจากส่วนกลางต้องการโครงการที่เรียกว่า Digital Imagine and Communication in Medicine (DICOM) หรือ เครื่องมือเก็บมาตรฐานกลางในการจัดเก็บเรียกดูประมวลผลจัดพิมพ์ และแสดงผลภาพถ่ายทางการแพทย์ ในราคาเครื่องละ 50 ล้านบาท ซึ่งต้องให้ท่านตอบว่าจริงหรือไม่ งบประมาณส่วนนี้มีส่วนต่างหรือไม่การจัดทำงบประมาณปี 2569 ที่ทำอย่างขาดประสิทธิภาพ มีงบประมาณแล้วบอกว่าไปหาจัดทำแผนงานโครงการมารองรับใช่หรือไม่

“เหตุผลที่ผมไม่สามารถรองรับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่นำเสนอโดยคณะรัฐมนตรี ที่มีการนำโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร และคณะ ต่อสภาผู้แทนราษฎรอันทรงเกียรติแห่งนี้ เนื่องจากเหตุผลขาดความเป็นมืออาชีพ ขาดความเป็นผู้นำให้กับส่วนราชการ ไม่สามารถบอกความจำเป็นเร่งด่วนที่เกิดผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ ทำให้ความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และภัยความมั่นคงทั้งภายใน และภายนอกประเทศง่อนแง่น อยู่จุดเสี่ยงที่สุดของประเทศ” นายกัณวีร์ กล่าว

Advertisement

แชร์
กัณวีร์ ชี้ 4 เหตุผล ไม่เห็นด้วยงบ 69 รัฐบาลขาดความเป็นมืออาชีพ