"แพทริคอนันดา" ตอบชัด! ไม่เคยทำร้ายร่างกายอดีตแฟนสาว หลังถูกแฉพฤติกรรม

แพทริคอนันดา ยืนยันไม่เคยทำร้ายร่างกายผู้หญิง หลังถูกอดีตแฟนสาวแฉพฤติกรรม รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ฝ่ายหญิงทำ พร้อมเคลียร์ข้อสงสัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น

 

เป็นประเด็นร้อนแรงในตอนนี้ สำหรับศิลปินหนุ่ม “แพทริคอนันดา” ที่ล่าสุดมีอดีตแฟนสาวได้ออกมาแฉพฤติกรรม โพสต์คลิปพร้อมข้อความ ว่าโดนแพทริคทำร้ายร่างกาย จนทำให้เกิดกระแสโจมตีแพทริคอย่างหนัก ซึ่งวันนี้แพทริคก็ได้ออกมาเคลียร์ประเด็นที่เกิดขึ้น และตอบข้อสงสัยทั้งหมด

วันนี้ (9 มีนาคม 2566) ศิลปินหนุ่ม “แพทริคอนันดา” หลังจากโดนอดีตแฟนสาวออกมาแฉว่าโดนฝ่ายชายทำร้ายร่างกาย จนเป็นกนะแสโจมตีแพทริคอย่างหนัก ซึ่งวันนี้ ”แพทริคอนันดา” ก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงว่า ในส่วนของการคบหาของตนกับฝ่ายหญิง คือเราคบกันจริงในช่วงที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัย น่าจะตอนปี2017ถึงปลายปี2020 เกือบ4ปี เป็นการคบหาที่เพื่อนๆและครอบครัวทราบดี แต่ระยะ2ปีที่ผ่านมาที่เขาพูดถึง เป็นช่วงที่เราไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว แต่เราก็มีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน

และในส่วนของการทำร้ายร่างกายและคลิปที่เขาโพสต์และบอกว่าตนทำร้ายร่างกาย ตนยืนยันไม่เรื่องจริง ตัวคลิปเป็นคลิปเก่านานมาแล้ว ณ วันที่เขาโพสต์คลิปตนไม่ได้อยู่ที่นั่น ตนอยู่ที่สตูดิโอ ไม่ใช่เหตุการณ์ปัจจุบัน และในคลิปนั้นก็ไม่ได้มีความรุนแรงหรือการทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น ซึ่งในคลิปยาวประมาณ2วิ จริงๆมันมีเหตุการณ์ที่มากกว่านั้น คือทางฝ่ายหญิงเขามาหาตนที่คอนโดเพื่ออยากจะพูดคุยด้วยในตอนเวลาประมาณตี5 6โมง ตนก็บอกเขาว่าทำไมไม่นัดมาก่อน เพราะตนง่วงนอน และไม่ใช่เวลาปกติที่ตนตื่นนอน

และที่เห็นว่ามีการปัดกล้อง จริงๆคือตนไม่เอากุญแจรถเขามา เพราะไม่อยากให้เขากลับรถ เขาจะกลับบ้าน ตนไม่อยากให้เขาขับเอง แต่ตอนนั้นเขาไม่ได้อยู่ในสภาพที่พร้อมจะขับรถขี่ ตนก็ขอกุญแจเขาและไม่คืนด้วย ตนขอโทรหาคุณแม่เขาให้มารับ แล้วจะคืนกุญแจ แต่เราก็มีปากเสียงกันนิดหน่อย เพราะเขาไม่อยากให้คุณแม่มารับรู้เกี่ยวกับตรงนี้ เลยมีการไม่พอใจกันนิดหน่อย แต่ไม่ได้ทำร้ายกัน และคุณแม่เขาก็มารับเขากลับไป

นอกจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น นอกจากจะไม่ได้ทำร้ายร่างกายแล้ว ตนยังไม่เคยใช้ความรุนแรงหรือทำร้ายร่างกายผู้หญิง หรือว่าใครเลย ตนไม่สนับสนุนความรุนแรง

ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงสาเหตุที่ฝ่ายหญิงบอกว่าเจ้าตัวทำร้ายร่างกาย “แพทริค”บอก 1วันก่อนที่เขาจะโพสต์คลิป เราได้มีการพูดคุยกันหลังจากที่ไม่ได้พูดคุยกันมานานแล้ว เขาทักมาหาตนเพื่อที่จะบอกว่ามีของๆตนที่ยังอยู่กับเขาแล้วอยากจะส่งคืนให้ เลยอยากจะขอที่อยู่ ตนก็พิมพ์บอกไป

ด้วยความที่เราไม่ได้คุยกันมานานแล้วตนเลยถือโอกาสถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ ตนก็ถามเขาหลายอย่างเลย เขาก็บอกว่าช่วงนี้เขาเหนื่อย ตนบอกว่ามีอย่างหนึ่งที่อยากพูดกับเขา ตนอยากให้กำลังใจเขา ตนเลยพูดถึงเรื่องเก่าๆ ว่าตอนที่เราเคยคบกัน เขาเป็นคนที่เก่งมากๆเลยนะ เพราะเขาเป็นคนที่เข้าใจเรื่องเพลงมากๆ อินกับเพลง เป็นคนน่ารัก มุ่งมั่น ตนชื่นชมเขาในหลายๆอย่าง รวมถึงพูดว่าเขาเป็นแฟนที่ดี แต่ทีนี้เขากลับรู้สึกว่าตนไปให้ความหวัง พูดให้เขารู้สึกดี

ซึ่งเขาก็บอกว่าทำไมถึงพูดแบบนี้ เขายังรู้สึกไม่โอเคเลยกับการเลิกกัน ตนก็รู้สึกผิดที่คิดไปเองว่าเขาทำใจได้แล้ว เลยขอโทษเขาไป และเข้าใจเขา ความรู้สึกเป็นอะไรที่พูดยาก ยืนยันไม่ได้พูดให้ความหวัง และเราเป็นเพื่อนกันแล้ว ตนอาจจะมองว่าส่วนนี้ที่ทำให้เขาไม่พอใจ และทำให้เขาโพสต์คลิปนั้นลงไป หลังจากที่มีการขอโทษก็มีการทะเลาะกันนิดหน่อย เพราะเขาก็พยายามอธิบายว่าตนไม่ควรพูดแบบนี้ ตนอาจจะผิดที่พูดไปโดยไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของเขา นึกถึงเรื่องเก่าๆที่ทำให้เขาเจ็บปวด ตนก็ต้องขอโทษ

บอกฝ่ายหญิงเป็นคนที่มีสภาพจิตใจที่เปราะบาง เขารักตนมาก ตนแค่ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เขารู้สึกแย่ ตนมองว่าเป็นที่ตนที่ไม่ได้เข้าใจเขามากเท่าที่ควร เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำให้เขารู้สึกอะไรแบบนี้ และทะเลาะกันเรื่องนี้หลังจากที่เราเลิกกัน ตนจะเป็นคนที่พูดสิ่งดีๆกับเขาเสมอในวันที่เราเลิกกันแล้ว บางทีอาจจะพูดเยอะไป ถึงแบบ คิดถึงนะ ยังรักเสมอ

ด้าน”แพทริค”ยืนยัน มีทะเลาะกันบ้าง และไม่มีการทำร้ายร่างกาย เป็นแบบนี้เสมอ ตนอาจจะเคยเป็นคนที่อารมณ์ร้อนในตอนเด็ก ณ ตอนนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว การที่เขาโพสต์แบบนี้ตนคิดว่าเขาน่าจะมีเหตุผลของเขา บวกกับสภาพจิตใจเขาไม่ได้แข็งแรง แต่เขาไม่ใช่คนไม่ดี เพียงแต่ตนอาจจะพูดอะไรบางอย่างที่ไปสะกิดใจเขา ทำให้เขาโมโห ตนมั่นใจว่าจะไม่มีหลักฐานอะไรที่บ่งบอกว่าตนทำร้ายร่างกายเพราะไม่เคยทำ และสถานที่ในคลิปคือคอนโดของตน มีทั้ง รปภ. กล้องวงจรปิด

หลังจากที่เป็นข่าวออกมา ตนได้โทรไปหาเขา ได้พูดคุยกันด้วยความใจเย็น ณ ตอนนั้นตนสับสนมากๆ ไม่คิดว่าเรื่องราวจะมาไกลขนาดนี้ ตนไม่ได้โกรธเขา แต่เสียใจว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้น ตนก็ถามเขาไป เขายืนยันว่าเขาเจ็บมาเยอะแล้วกับการให้ความหวังของตน ตลอดระยะเวลาที่คบกันเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่หอพัก ตลอด24ชั่วโมง เป็นความรักที่ดี

แต่ไม่เพอร์เฟค เขาเป็นสิ่งดีๆในขีวิต แต่ต้องยอมรับว่าจบกันไม่ดีเท่าไหร่ มีการทะเลาะกัน ตนเป็นคนขอแยกทาง ซึ่งมันทำให้เขาเจ็บปวดมากๆ ถ้าจะมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการสะกัดดาวรุ่งในช่วงมีชื่อเสียงไหม ตรงนี้ตนคิดแทนเขาไม่ได้ เขาอาจจะมีเหตุผลอื่นของเขา บอกที่คุยกับเขาตนขอให้เขาลบ แต่เขาบอกว่าเดี๋ยวลองดู ขอไตร่ตรองก่อน ตอนนี้เขายังไม่ได้รับปากว่าจะลบให้ ตนก็คาดหวังให้เขาลบ หลังจากที่วางสายก็ไม่ได้พูดคุยกันเลยจนถึงวันนี้

ตนมองว่าการทำร้ายร่างกายมันรุนแรงมาก และสิ่งนั้นไม่ใช่ตัวตนของตน ตนทราบดีว่าสิ่งที่เขาโพสต์มันส่งผลกระทบกับตนและสามารถฟ้องร้องได้ แต่พอเป็นคนที่เราเคยคบหากันตนก็ไม่ได้คิดจะดำเนินการทางกฏหมาย และเท่าที่ตนทราบทางค่ายได้ติดต่อไปพูดกับคุณแม่เขาแล้ว

สำหรับทางตัวแทนของค่ายเพลง บอกว่า ตนไม่ได้เป็นคนคุย แต่มีทีมงานที่พอรู้จักทั้งน้องและคุณแม่ พยายามคุย อย่างที่บอกเป็นเรื่องของหัวใจและความรู้สึก เราอยากให้สองฝ่ายมาคุยและเคลียร์กัน

ทางแพทริคเขาก็คงไม่ได้อยากจะมาเอาเรื่อง ได้มีการคุยแต่ยังไม่ได้ตกลงอะไรกัน แค่บอกกับทางครอบครัวฝ่ายหญิงว่าขออนุญาตให้แพทริคเล่าเรื่องในด้านของเขา เพราะถ้าไม่พูดคนจะรับแค่ด้านเดียว เรายังไม่อยากตัดสินอะไรเลย แต่ยังไง กระบวนการตอนนี้คือใช้การพูดคุยทั้งสองฝ่าย เขาก็คุยล่าสุดเมื่อวาน เขาน่าจะรอดูว่าวันนี้จะพูดอะไร หวังว่าจะจบลงด้วยดี และยืนยันยังไม่ไปถึงขั้นตอนฟ้องร้อง

“แพทริค”บอก สำหรับตนอยากให้เขาออกมาชี้แจงว่าความจริงคืออะไร อาจจะวู่วามหรือใจร้อนเลยทำให้โพสต์คลิปวิดีโอแบบนั้นไป มันไม่ใช่เรื่องจริง และที่เกิดเหตุการณ์ในวันนั้นเป็นคอนโดของตนมันมีหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่าตนไม่ใช่คนที่ทำร้ายร่างกาย

ตลอดระยะเวลา 2 วันที่ผ่านมา ตนรู้สึกเสียใจเพราะมันเป็นสิ่งที่กระทบจิตใจ เวลาเปิดทวิตเตอร์ก็เห็นคนมาคอมเม้นต์ด่า หรือว่าตีตราว่าตนเป็นแบบต่างๆ ทั้งที่ไม่ได้เป็นแบบนั้น นอกจากตัวของเขาที่รู้อยู่แล้วว่าระหว่างที่คบกับตนเป็นคนแบบไหน ตนไม่ใช่คนที่เพอร์เฟค มีข้อเสีย แต่หนึ่งในข้อเสียไม่ใช่การใช้ความรุนแรงแน่นอน ด้านผลกระทบกับงานตอนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตนก็มีเครียดๆบ้าง ไม่ค่อยได้นอน นอนน้อย เพราะเราอ่านกระแสที่เกิดขึ้น ตนไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน

สุดท้ายตนไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมายืนยันนอกจากบอกว่าตนไม่เคยทำร้ายร่างกายใครจริงๆ ระหว่างที่คบกันก็อยู่ในสายตาของครอบครัวและคนอื่นตลอด สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ตนไม่รู้ว่าเขาคาดหวังให้ตนเจ็บหรือเปล่า แต่สำหรับคุณรู้สึกเสียใจแล้วกัน คนที่เคยรักกัน เป็นแรงบันดาลใจให้ตนในการเขียนเพลง ตนเข้าใจเขาที่รู้สึกไม่ดี แต่ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำอะไรที่มันไม่ใช่ความจริงและบิดเบือนเรื่องจริงกับสาธารณะชนเกี่ยวกับเรื่องของตน

ส่วนจะกลับมาเป็นเพื่อนกันได้ไหมให้เป็นเรื่องของเวลาดีกว่า ถ้าให้ตนบอกอะไรถึงเขา ก็อยากจะบอกว่าหวังดีกับเขาเสมอและเข้าใจในสิ่งที่เขาโกรธ ส่วนถ้าเขาจะออกมาพูดความจริงในส่วนที่ตนทำผิดตนก็จะยอมรับ แต่สิ่งที่เขาพูดมันไม่ใช่ความจริงเลยสงสัยว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนั้น