
"โบว์ เบญจวรรณ"
"ยังหรอกครับ เรายังไม่ได้แพลนอะไรกันเลยสำหรับเรื่องนี้ แต่เราจะแพลนกันเรื่องอื่นมากกว่า อย่างเช่นเราตั้งใจจะทำงานภายใน 6 ปีนี้ เพื่อจุดประสงค์หนึ่ง ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ เพราะเราก็กลัวว่าถ้าหากพูดไปแล้วแต่ทำไม่ได้มันจะดูไม่ดี"
"ใช่ครับผมตั้งเป้าไว้หมดแล้วว่าผมจะตายเมื่อไหร่ จะเลิกทำงานเมื่อไหร่ จะอยู่วงการอีกสักกี่ปี คือมีการแพลนเอาไว้หมดเลย"
"ผมรู้สึกว่าการแพลนเอาไว้มันดีกว่า ดีกว่าเราใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ เพราะการที่เราทำแบบนี้มันทำให้เรารู้ว่าเรามีอะไรที่จะต้องทำอีกบ้าง เพื่อเป็นเป้าหมายในการใช้ชีวิตของเรา"
"หลายอย่างเลยครับ อย่างเช่นผมตั้งใจว่าอยากจะทำอะไรให้ดีๆ ให้กับสังคมบ้างนอกจากการสร้างผลงานในวงการบันเทิง เพื่อที่พอถึงวันหนึ่งผมจะได้ใช้สิ่งที่ผมเรียนรู้ในวงการไปต่อยอดกับงานด้านอื่นๆ"
"เรื่องนี้ต้องขอเช็คน้ำเชื้อตัวเองก่อนครับ (หัวเราะ) ถามว่าผมกลัวเรื่องอายุไหม คือผมรู้สึกว่าผมยังแข็งแรงอยู่นะ ถ้าอายุ 50 ผมก็คงจะยังแข็งแรง แข็งและแรงมาก"
"คนนั้นเขาดูแลตัวเองดีมากครับ จนเดี๋ยวนี้ผมต้องตามเขาแล้ว คือเมื่อก่อนผมจะเป็นฝ่ายสอนเขาออกกำลังกาย แต่เดี๋ยวนี้เขาเป็นฝ่ายดูแลเรื่องโภชนาการให้ผมแทน"
"ก็ไม่เลยนะครับ คือพอเราเริ่มคุยกันแบบเป็นเพื่อน ความคาดหวังในตัวกันและกันมันก็ไม่ได้มากขนาดนั้น เหมือนเราอยู่กับปัจจุบันและเราก็แฮปปี้แล้ว เราโอเคกับสิ่งที่เป็นอยู่ ซึ่งสายตาคนที่มองมาเขาอาจจะอยากให้เราเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ แต่ไม่เคยมีใครถามเราเลยว่าจุดที่เราเป็นอยู่เราโอเคหรือเปล่า เรามีความสุขหรือเปล่า"
"เอ่อ...ผมมองว่ามันมีทุกคู่นะครับ แต่อยู่ที่เรามากกว่า ว่าเราจะกล้าพูดมันออกมาไหม รวมถึงเราจะสามารถรักษาสมดุลของมันเอาไว้ได้หรือเปล่า ซึ่งคู่เราก็คบกันมานานแล้วประมาณ 5-6 ปี แต่ถามว่าเราเลยจุดอิ่มตัวไปแล้วหรือยัง คือผมรู้สึกว่าของแบบนี้มันก็เหมือนก้อนเมฆที่ผ่านเข้ามาและก็ผ่านไป"
"ไม่เลยครับ ซึ่งผมรู้สึกโชคดีนะที่พ่อแม่ผมและพ่อแม่เขาต่างก็เคารพในการตัดสินใจของเราทั้งคู่"
"ใช่ครับ เรายังไม่ค่อยได้คิดเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ซึ่งผมยอมรับนะว่าผมเป็นคนชอบเด็ก แต่ผมก็รู้อีกเหมือนกันว่าผมยังไม่มีความสามารถที่จะเป็นพ่อคน เพราะผมยังสอนตัวเองไม่ได้ ดังนั้นผมจะไปสอนลูกได้อย่างไร"
ด้วยความไม่มีใครเล่นด้วย มีเขาคนเดียว ซึ่งเห็นแบบนี้โบว์นี่ตัวแสบเลย ชอบแกล้งตนเองเหมือนกัน แค่เขาไม่เอามาโพสต์ลงไอจี ทั้งนี้หนุ่มก็อตยังมองเรื่องการแกล้งกัน เป็นการเติมความหวานอย่างหนึ่งให้กับคู่ตน
Advertisement