
ในสถานการณ์น้ำท่วม ความเสี่ยงจากไฟฟ้ารั่วจะสูงมาก เนื่องจากน้ำเป็นสื่อนำไฟฟ้าได้ดี วิธีสังเกตอาการไฟรั่วในน้ำ ระหว่างเกิดน้ำท่วม จึงจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และสังเกตจาก 5 สัญญาณต่อไปนี้
1. สังเกตจาก สัตว์เลี้ยงหรือสิ่งมีชีวิต
2. สังเกตจาก ฟองอากาศผุดขึ้นจากน้ำ
บริเวณที่มีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลลงสู่พื้นดินหรือน้ำอย่างต่อเนื่อง จะทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีไฟฟ้า อิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis) ทำให้มีฟองอากาศขนาดเล็กผุดขึ้นมาจากจุดที่ไฟรั่วลงไปอย่างผิดปกติ (ควรสังเกตจากระยะไกล)
ฟองอากาศผุดขึ้นจากน้ำ ในบริเวณที่สงสัยว่ามีไฟฟ้ารั่วไหลลงสู่พื้นดินหรือน้ำอย่างต่อเนื่องนั้น อ้างอิงมาจาก หลักการทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมไฟฟ้า เรื่องปฏิกิริยา อิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis)
เมื่อกระแสไฟฟ้ากระแสตรง (DC) หรือแม้แต่กระแสไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่มีความถี่ต่ำ ไหลผ่านสารละลายอิเล็กโทรไลต์ (ในที่นี้คือน้ำท่วมซึ่งมักจะมีแร่ธาตุและสารปนเปื้อนเป็นสื่อนำไฟฟ้า) จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ขั้วไฟฟ้า
ในสถานการณ์น้ำท่วม การมีฟองอากาศผุดขึ้นมาจากบริเวณที่ไม่มีสาเหตุทางกลไก (เช่น การเคลื่อนตัวของน้ำ) อย่างต่อเนื่อง จึงเป็น สัญญาณบ่งชี้ทางกายภาพ ที่น่าเชื่อถืออย่างหนึ่งว่ามี กระแสไฟฟ้ารั่วไหล (Ground Fault) อยู่ในบริเวณนั้น ทำให้ต้องระมัดระวังและหลีกเลี่ยงพื้นที่ดังกล่าว
3. สังเกตจาก ประกายไฟ หรือ เสียง "เปรี๊ยะ ๆ"
หากพบเห็นประกายไฟ หรือได้ยินเสียงช็อตดังมาจากเสาไฟฟ้า ตู้ควบคุมไฟฟ้า (เบรกเกอร์) หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จมน้ำ/เปียกน้ำ ให้ถือว่าเป็นพื้นที่อันตรายสูงสุด
4. สังเกตจาก ตู้ควบคุมไฟฟ้าในบ้าน
5. สังเกตจาก สัญญาณจากร่างกาย
หากขณะเดินลุยน้ำ คุณรู้สึก "ช็อต" หรือ "คันยิบ ๆ" คล้ายอาการเหน็บชา ที่ขาหรือเท้า นั่นคือสัญญาณอันตรายว่าคุณกำลังเข้าสู่ สนามไฟฟ้า (Electric Field) ที่เกิดจากไฟฟ้ารั่วไหลลงสู่พื้นน้ำ
สิ่งที่ต้องทำทันที คือ หยุดเดินทันที ห้ามสัมผัสวัตถุใด ๆ และ "ให้เดินถอยหลังกลับไปยังเส้นทางเดิม" ที่คุณเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ
อ้างอิง : region7.prd , morru , NSM (องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ)
Advertisement