
(27 พ.ย. 2568) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พูดถึงการประชุมคณะกรรมมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เมื่อวานนี้ว่า เป็นที่น่าเสียดายที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ไม่มา ทั้งที่เป็นคนขอให้มีการประชุมอีกครั้ง ซึ่งเมื่อวานมีการเปิดหลักฐานเพิ่มเติมในคดีของ นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.พรรคกล้าธรรม ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษแจ้งกับตนว่าได้รับเป็นคดีพิเศษ และปปง. ก็กำลังจะยึดอายัดทรัพย์เพิ่ม
ส่วนคดีที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและพวกที่มีการซื้อขายตำแหน่งกันที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พรุ่งนี้ตนจะไปยื่นเอกสารที่ ปปง. เพื่อขอให้กำเนินการ พ.ร.บ.ฟอกเงิน
นอกจากนี้ ตนยังมองว่าการที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ไม่มาเมื่อวานนี้ อาจจะกลัวว่าจะมีการถ่ายทอดสดและเมื่อวานตนยังนำหลักฐานข้อมูลการดำเนินการปราบปรามในยุคของที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ เป็นผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ที่ไปคุยโม้ว่าดำเนินการกวาดล้างกว่า 2,000 คดีแต่แท้จริงแล้วส่งเรื่องให้ ปปง. เพียง 105 คดี ซึ่งสิ่งที่พูดเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น และเมื่อวานนี้สาเหตุที่ไม่มา มีการอ้างว่าติดประชุมกรรมาธิการวุฒิสภา ซึ่งการประชุมดังกล่าวประชุมในช่วงเช้าแต่ของเราประชุม 13.30 น. ซึ่งไม่มีเหตุผลที่จะไม่มา โดยจากนี้ประธานกรรมาธิการจะทำหนังสือรายงานไปยังนายกรัฐมนตรี ว่าบุคคลที่ท่านมอบหมายไม่มาชี้แจงตามกำหนด
ขณะที่วันนี้ ตัวเองได้ไปให้ข้อมูลกรณีที่มีรองสารวัตรของไซเบอร์ ยศร้อยตำรวจโท มีการเรียกเงินเพื่อแลกกับการไม่อายัดบัญชีผู้กระทำผิดโดยเรียกเก็บ 100,000 บาทต่อบัญชี ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นเรื่องจริง
โดยพฤติการณ์ เมื่อตำรวจ ทั่วประเทศมีการอายัดทรัพย์สินและบัญชีของ ผู้ที่ทำความผิดเกี่ยวกับเว็บพนัน และส่งเรื่องมาที่ กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์เพื่อขอทำเรื่องอายัดบัญชี แต่กลับมีร้อยตำรวจโทคนนี้ กลับนำบัญชีไปแสวงหาผลประโยชน์เรียกเงินจากผู้กระทำความผิด โดยจะนัดเจอเจ้าของบัญชีที่ร้านกาแฟและเรียกเงินตบทรัพย์ พอได้รับเงินมา ผู้ต้องหาก็จะมีสิทธิ์ไปถอนเงินในบัญชีที่ถูกอายัดมา
สำหรับคดีนี้ตนเคย ไปยื่นเอกสารให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อขอให้ตรวจสอบ 3 หน่วยหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งเรื่องจึงถูกส่งมาที่ตำรวจไซเบอร์ทำให้ต้องเข้าให้ข้อมูลในวันนี้
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังระบุอีกว่า หลังจากที่มีการยื่นหนังสือให้กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อให้ตรวจสอบ พล.ต.อ.กิตติรัตน์ พันธุ์เพชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกรณีเรื่องการ การซื้อขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจ ซึ่งตนเองเคยระบุให้เวลา นายกรัฐมนตรี 30 วัน ในการตรวจสอบการปฎิบัติหน้าที่ของ ผบ.ตร. ถ้ายังไม่คำชี้แจง หรือ มีคำสั่งในเรื่องดังกล่าวตนจะดำเนินคดีกับ นายกรัฐมนตรี ในข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ 157 และได้กำหนดกรอบเวลาภายใน 30 วัน หลังจากที่มีการยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี
แต่ขณะนี้ได้เกิด "อุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ทางภาคใต้" ตนเองจึงมีความเห็นว่า ปล่อยให้ นายกรัฐมนตรี นั้น ได้ทำงานแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมของพี่น้องประชาชนชาวภาคใต้ไปก่อน
จึงยังไม่กำหนดตามกรอบเวลาเดิม เรื่องที่ให้ตรวจสอบ "การทำงานของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" ตามที่ตนระบุก่อนหน้านี้
Advertisement