จากกรณีเมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 8 ก.ค. 64 ร.ต.อ. สมพงษ์ กุลไกรจักรรอง สว.(สอบสวน) สน.บุคคโล รับแจ้งมีผู้ตกจากที่สูงเสียชีวิต ภายในคอนโดฯ ในซอยเจริญนคร 78 แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นคอนโดฯ ที่พักอาศัย สูง 8 ชั้น บริเวณด้านหลังคอนโดดังกล่าว พบศพนายธนวรรธน์ อายุ 36 ปี สภาพนอนหงายหน้าอยู่บนพื้น สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีม่วง กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ไม่สวมรองเท้า มีบาดแผลเปิดขนาดใหญ่บริเวณศีรษะ ปาก จมูก ใบหูมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ตามร่างกายกระดูกหักหลายแห่ง เจ้าหน้าที่จึงปิดกั้นพื้นที่ป้องกันผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าที่เกิดเหตุ
นางบุณทลิกา สุภาวโชติ อายุ 67 ปี แม่ผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้มีการพูดคุยกับลูกชายผ่านโทรศัพท์ จากนั้นตนบอกกับลูกชายว่าทำธุระก่อน และลูกชายก็ได้วางสายไป หลังจากนั้นตนก็ได้มีการโทรศัพท์ไปหาลูกชายอีกครั้ง แต่ปรากฏว่าไม่รับสายแล้ว ก็รู้สึกแปลกใจ
ต่อมาไม่นานแฟนสาวของลูกชายก็ได้โทรศัพท์มาหาตน พร้อมกับน้ำเสียงที่ร้องไห้ ตนยิ่งตกใจ จึงถามไปว่าเกิดอะไรขึ้น แฟนสาวของลูกชายก็บอกว่าลูกชายตนกระโดดตึกแล้ว ตอนนั้นตกใจทำอะไรไม่ถูก ทำใจไม่ได้เป็นอย่างมาก ตนก็เข้าใจว่าสาเหตุดังกล่าวนี้ มาจากความเครียดสะสมของตัวลูกชายเอง ทั้งเรื่องงาน เรื่องครอบครัว
แต่ขณะที่ทราบว่าลูกชายเริ่มมีอาการเป็นไบโพลาร์แล้ว ทางครอบครัวก็ได้มีการช่วยพากันไปรักษา แต่บางครั้งก็มีอาการกำเริบขึ้นมาบ้าง อยู่ที่ว่าจะคอยใช้คำพูดให้กำลังใจได้ดีแค่ไหน อาการถึงจะหายลง ทั้งนี้ ตนก็อยากจะฝากถึงคนอื่น ๆ ถ้าหากคนใกล้มีอาการเป็นโรคดังกล่าวคล้ายกับลูกชายตน ช่วยดูแลรักษาจิตใจกันให้ดี เพราะบางคำพูดทำให้คิดสั้นได้ทันที แตกต่างจากคนที่ปกติ และศพของลูกชายจะนำไปบำเพ็ญกุศลศพที่วัดห้วยจรเข้ที่ จ.นครปฐม ซึ่งจะตั้งบำเพ็ญไว้ 3 คืน
นางสาวณัฐสุดา ลิมป์ประภากุล อายุ 22 ปี แฟนสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนรู้จักกับแฟนหนุ่มมานานกว่า 7-8 ปี เพื่งจะได้คบหาอยู่ด้วยกันได้ 1 ปีกว่า และแฟนหนุ่มก็เพิ่งจะมาบอกตนตอนที่เริ่มคบหากันว่าเป็นโรคไบโพลาร์ ตนก็ยอมคบหา เพราะรักและผูกพัน ขณะที่อยู่ด้วยกันตนก็คอยดูแลเอาใจใส่อยู่ตลอดเวลา
เมื่อวานนี้ เวลา 17.00 น. ขณะที่แฟนหนุ่มของตนกำลังนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เพราะมีอาชีพเป็นโปรแกรมเมอร์ ก็มีอาการกำเริบขั้นรุนแรง ไม่ยอมฟังในสิ่งตนพูด บอกกับตนแค่ว่า "ตอนนี้อยู่ในโลกความฝัน ไม่ได้อยู่ในโลกความเป็นจริง" และพยายามจะวิ่งไปกระโดดตึกที่หน้าระเบียง แต่ตนก็วิ่งออกไปกันพื้นที่ไว้ประมาณ 3-4 ครั้ง
จากนั้น จึงมานั่งที่บนเตียงเพื่อพูดคุยเกลี้ยกล่อมให้เกิดความสบายใจขึ้น แต่พอนั่งได้ไม่นานแฟนหนุ่มก็ได้วิ่งไปกระโดดหน้าระเบียงทันที ซึ่งตนวิ่งไปจับตัวได้ไม่ทัน รีบออกไปชะโงกหน้าดูที่ระเบียงก็พบว่าแฟนหนุ่มนอนอยู่ด้านล่างแล้ว ตนได้รีบวิ่งไปด้านล่างที่เกิดเหตุ พยายามวิ่งเข้าไปปลุกให้แฟนหนุ่มรู้สึกตัว แต่จากสภาพคือแขนขาหัก นอนผิดรูป ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ เลือดไหลนองเป็นอย่างมาก สุดท้ายแฟนหนุ่มก็นอนแน่นิ่งเสียชีวิตไป ตอนนี้ยังรู้สึกทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเกิดขึ้นเร็วมาก
นายภูริทต์ ลิมป์ประภากุล พ่อของแฟนสาวผู้เสียชีวิต ผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือคนแรก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ก่อนจะคบกับลูกสาวของตน ตนก็ทราบแล้วว่าลูกเขยเป็นโรคไบโพลาร์ เพราะทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ต้องสร้างแต่ตัวการ์ตูน ออกแบบหลาย ๆ อย่าง ซึ่งบางครั้งอยู่แต่ในโลกของการ์ตูนมากเกินไป จนเกิดอาการเครียด จนลืมโลกความเป็นจริงไปว่าอยู่อาศัยกันอย่างไรบ้าง
โดยโรคดังกล่าวนี้วิธีแก้ที่พอจะช่วยได้คือต้องคอยช่วยพูดคุยปลอบใจ ไม่ควรปล่อยห่าง เพราะบางทีคิดสั่นโดยที่ไม่รู้ตัว เพราะคนดังกล่าวเหล่านี้จะอยู่แต่ในโลกของความเพ้อฝัน จนบางทีอาจมีอาการอยากรู้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นอย่างไร เมื่อวานนี้ตนพอทราบเรื่องจากลูกสาวว่าลูกเขยกระโดดตึกจากคอนโดฯแล้ว ตนก็ได้รีบเดินทางไปที่ดูทันที พบว่าลูกเขยนอนในสภาพที่แขนขาผิดรูป หักละเอียดจากด้านในแล้ว และม่านตาใกล้จะปิดแล้ว ตนก็ได้เข้าไปทำ CPR ทันที เพราะจับตัวดูชีพจรยังวิ่งอยู่ แต่ค่อนข้างต่ำลง แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถช่วยยื้อชีวิตไว้ได้
ทั้งนี้ ตนก็อยากจะฝากถึงงานทุกงานทุกอาชีพ อาจเกิดความเครียดได้ทั้งนั้น ถ้าหากรู้ว่าคนใกล้ชิดมีอาการดังกล่าวต้องช่วยดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นอย่างมาก เพราะคนมีมีอาการเหล่านี้ต้องการกำลังใจ ต้องการเพื่อนที่คอยปลอบใจ
