คดีพลิก! สังหารโหดเสี่ยฟาร์มวัวที่แท้เมียจ้างฆ่า ญาติเผยยิ้มเยาะศพ ฉกมรดกขายร่วมล้าน (คลิป)

17 มิ.ย. 64

กรณีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 64 ตำรวจชุดสืบสวนแกะลอยค้นหาแบะแส คดีฆาตกรรมนายธีทัด สาระวงษ์ อายุ 62 ปี เจ้าของฟาร์มเลี้ยงโคกระบือ ถูกวัตถุของแข็ง ท่อนไม้ และจอบตีไปที่ใบหน้า หลังคนร้ายไม่ทราบจำนวนก่อเหตุได้หลบหนีไป

793591

จนกระทั่งวันนี้ ชุดสืบสวนตำรวจสระบุรีตั้งโต๊ะแถลง จับกุมผู้ก่อเหตุมีจำนวน 3 คน คือ นายกล่องเกียรติ ภูเลาสิงห์ อายุ 42 ปี คนลงมือใช้ท่อนเหล็กตีผู้ตาย ซึ่งเป็นน้องชายนางวาสนา สาระวงษ์ ภรรยาผู้ตาย ผู้จ้างวานฆ่า และนายพิชิต พุฒิจันทร์ อายุ 40 ปี โดยทั้ง 2 ผู้ต้องหายอมรับว่านางวาสนาเป็นผู้ว่าจ้างในราคา 2-3 แสนบาทนั้น

437926

ก่อนหน้านี้ หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 64 นางวาสนา สารวงษ์ อายุ 52 ปี ภรรยาผู้ตาย ให้สัมภาษณ์ว่า สามีกลับจากเลี้ยงควายถึงบ้านประมาณ 18.00 น. จากนั้นสามีได้บอกตนให้ไปฟังพระสวดอภิธรรมที่งานศพญาติ หลังจากร่วมงานศพเสร็จ เวลาประมาณ 20.40 น. ตนได้เดินทางกลับบ้าน เปิดประตูบ้านเข้าไปก็พบว่าสามีเสียชีวิตนอนอยู่บนเตียงนอน สภาพนุ่งผ้าโสร่ง ไม่สวมเสื้อ มีเลือดเต็มใบหน้าที่ศีรษะ จากนั้นตนจึงรีบโทรหาญาติให้มายังที่เกิดเหตุ ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ส่วนประตูด้านหน้าบ้านก็ปิดปกติ แต่ไม่ได้ล็อก "ตนจะเจอหน้าคนร้าย และอยากจะถามว่าฆ่าสามีตนเพื่ออะไร ก่อนเกิดเหตุตนไม่มีลางสังหรณ์ และเหตุการณ์ทุกอย่างเป็นปกติ"

736723

ล่าสุด วันที่ 17 มิ.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางไปเจอกับครอบครัวของนายธีทัด สาระวงษ์ เจ้าของฟาร์มเลี้ยงโคกระบือ คนตาย นางดวง (นามสมมติ) อายุ 69 ปี พี่สาวของคนตาย เปิดเผยว่า ตนเองคาดไม่ถึงว่านางวาสนา น้องสะใภ้จะทำแบบนี้ เพราะถึงแม้ว่าวันหนึ่งสามีจะตายไป น้องสะใภ้ และหลาน ๆ ก็จะได้สมบัติ มรดกอยู่แล้ว

839724

ตนยอมรับว่า ถ้าย้อนกลับไปวันที่จัดงานศพให้กับน้องชาย สังเกตความผิดปกติคือ นางวาสนา น้องสะใภ้ มาร่วมงานรดน้ำศพ และยืนอยู่ที่ปลายเท้า มองไปที่ศพของน้องชายตัวเอง แต่ไม่มีอาการเสียใจหรือร้องไห้ ซึ่งด้วยตนเองเป็นคนที่ช่างสังเกตคน ดูจากใบหน้าของน้องสะใภ้ ทำหน้าเหมือนกำลังเยาะเย้ย แสดงอาการทำนองว่า "ตายเสียได้ก็ดี" ซึ่งถ้าหากคนเป็นภรรยา สามีตายทั้งคนก็ต้องรู้สึกเสียใจร้องไห้บ้าง ไม่ใช่ยืนมองศพแล้วทำตัวไม่โศกเศร้า

555741

แต่ในทางกลับกันตัวเองและคนในครอบครัวเสียใจ และร้องไห้ทุกวัน แม้กระทั่งทุกวันนี้เวลาที่คิดถึงก็ยังร้องไห้ ซึ่งหลังจากที่ตนเองสังเกตความผิดปกติของน้องสะใภ้ในวันที่มีการรถน้ำศพแล้ว ก็ยังแอบสังเกตพฤติกรรมในช่วงที่มีการตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ซึ่งไม่มีอาการโศกเศร้าเสียใจ พูดแต่เพียงว่า "จะจัดงานศพให้ดีที่สุด" ทำให้ตนเองนึกแต่ตะหงิดใจ และพูดกับสามีว่าสงสัยในตัวของน้องสะใภ้ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตาย แต่พูดแค่ไหนก็กลายเป็นแค่การปรักปรำหรือแค่คิดไปเอง เพราะไม่มีคนในครอบครัวคนใดเชื่อว่าน้องสะใภ้จะเป็นคนฆ่า

cg

ตนเองจึงตัดสินใจไปกราบขอพรและขอให้หลวงพ่อโต ขอให้จับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว และถ้าหากเป็นน้องสะใภ้จริงก็ขอให้ตำรวจพบความจริง รวมถึงขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเปิดปากให้คนร้ายยอมรับสารภาพ สุดท้ายสิ่งที่ตนเองคิดประกอบกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเองเคารพนับถือ ทุกอย่างก็เกิดขึ้นจริงและเป็นไปอย่างที่คิด

1

นางดวง บอกว่า ตลอดที่ผ่านมาตนเองเคยรับฟังปัญหาจากน้องชาย ซึ่งมักจะมาเล่าให้ฟังว่า เวลาขายทรัพย์สินหรือซื้อทรัพย์สินเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน หรือรถไถ่นา รถแบ็กโฮ ทุกอย่างจะต้องระบุเป็นชื่อของน้องสะใภ้ทั้งหมด และเวลาที่มีการขายวัวหรือควายได้ เงินก็ต้องโอนเอาไปเก็บไว้ในบัญชีของน้องสะใภ้ ซึ่งตนเองก็เคยหยอกล้อและแซวเล่นหลายครั้งว่า "เมียมึงสวยเดี๋ยวก็มีคนมาจีบ มึงก็จะอกหักและเสียใจ เขาก็จะเอาเงินมึงไปใช้" แต่น้องชายก็พูดแต่ว่า" ไม่เห็นเป็นไร ผมรักเขา" สุดท้ายเรื่องที่ตนเองคิดก็เกิดขึ้น

239221

ตนเองในฐานะญาติฝั่งของคนตาย แม้ว่าจะมีการจัดงานศพให้น้องชายเรียบร้อยแล้ว แต่ตนเองตั้งข้อสังเกตอีกมุมหนึ่ง คือหลานชายทั้ง 2 คน ลูกของคนตาย กับน้องสะใภั ไม่ได้มีอาการโศกเศร้าเสียใจที่พ่อตาย ซึ่งช่วยจัดงานศพเสร็จสิ้นแล้วก็แยกย้ายกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ ตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

869686426278

นางสาวมัด อายุ 56 ปี พี่สาวของนางวาสนา เปิดเผยว่า ตนเองคาดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับน้องสาว แต่ยังเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเสี่ยคอกวัว เพราะเท่าที่ตนสังเกตน้องสาวไม่มีพฤติกรรมทำตัวพิรุธ และไม่ได้มีจิตใจที่จะฆ่าแกงใครได้ หลังจากที่สามีเสียชีวิตแล้วก็ย้ายกลับมาอยู่กับพ่อแม่ที่บ้านตามปกติ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่สามีตายก็ต้องโศกเศร้าเสียใจ ส่วนหลานชาย 2 คน หลังจากที่จัดงานศพให้กับพ่อเสร็จแล้วก็เดินทางกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ เหมือนเดิม

857256

แต่กรณีที่ครอบครัวของคนตายอ้างว่านางวาสนามีการขายควาย 500,000 บาทนั้น เรื่องนี้ตนเองไม่รู้ว่าขายแล้วเอาเงินไปใช้อะไร แต่ก็คงเป็นเรื่องส่วนตัวในการจัดการกับทรัพย์สมบัติที่หาร่วมกันกับเสี่ยคอกวัว อีกทั้งวัวที่ได้มา 3 ตัว ก็ได้มีการแบ่งให้ญาตินำไปเลี้ยง เพราะถ้าหากปล่อยทิ้งเอาไว้ที่คอกวัวก็กลัวว่าจะตายไม่มีใครเลี้ยง ดังนั้นนางวาสนาก็จัดการในส่วนที่ทำได้หลังจากที่สูญเสียสามีไป

ขณะเดียวกัน กรณีที่ครอบครัวของคนตายอ้างว่าน้องสาวของตนเองมีชายอื่น จึงเป็นเหตุที่ทำให้ลงมือฆ่าสามีของตัวเองนั้น เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะน้องสาวก็ไม่ได้มีใครอื่น และทั้งคู่ก็คบหากันมานานกว่า 30 ปี ตามอายุของลูกคนโต ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลใดที่จะไปมีชายอื่น และก่อเหตุฆ่าสามีตัวเอง ตนเองในฐานะคนในครอบครัวก็ยังยืนยันความบริสุทธิ์ใจให้กับน้องสาว แล้ววันนี้ก็ยังมีโอกาสเข้าไปเยี่ยม โดยเจ้าตัวก็ยังยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส