หากจำกันได้เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว นักร้องหนุ่มเสียงดี บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ ได้โพสต์แจ้งข่าวลงอินสตาแกรมส่วนตัวว่า ขอโทษแฟนเพลงและผู้จัดงานที่ต้องยกเลิกงานกะทันหัน เนื่องจากถูกส่งผ่าตัดใหญ่ฉุกเฉิน ทำเอาหลายคนแสดงความเป็นห่วงกันแบบรัวๆ
ล่าสุด (18 มีนาคม 2564) พี่บุรินทร์ ออกงานอีเว้นท์ครั้งแรก หลังจากแอดมิทด่วน เจ้าตัวก็เล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นตนเป็นลำไส้อักเสบเรื้อรัง แล้วตอนที่เกิดเรื่องมันอุดตันเฉียบพลัน ทำให้ปวดท้องมากๆ แล้วก็ถ่ายไม่ออกเป็นเวลา 4-5 วัน
พอไปโรงพยาบาล คุณหมอก็บอกต้องผ่าตัดฉุกเฉินเดี๋ยวนั้นเลย เพราะกลัวลำไส้จะระเบิด แล้วก็อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ซึ่งตนก็แอบเสียดายว่าถ้ารู้ก่อนยังได้ไปรักษาทัน อย่างน้อยก็สามารถเจาะ หรือผ่าเล็กๆได้ ปรากฏว่าวันนั้นตนต้องผ่าเปิดหน้าท้องความยาวประมาณ 10 กว่าเซ็นติเมตร ใช้เวลาผ่าตัด 6-7 ชั่วโมง
เมื่อออกจากห้องผ่าตัดตนก็ตกใจมาก เพราะว่ามันเจ็บมาก ทั้งๆที่ยังมียาแก้ปวดอยู่ แล้วก็ตกใจที่มีสายอยู่ในตัวเป็น 10 สายที่ต่อเข้าตัว ทั้งคอ จมูก ปาก ท้องอีกหลายเส้น
สำหรับสาเหตุมาจากไลฟ์สไตล์ของตน เพราะตนเป็นคนกินอาหารมันมาก แล้วก็นอนไม่เป็นเวลา รวมถึงพักผ่อนน้อย และออกกำลังกายก็ไม่สม่ำเสมอ
โดยคุณหมอบอกว่าสามารถกลับมาเป็นได้อีก จำเป็นต้องเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ คือ ออกกำลังกายมากขึ้น และระวังเรื่องอาหาร ซึ่งตนเคยเห็นคนที่เป็นแบบนี้แล้วใช้ไลฟ์สไตล์แบบเดิม ก็อาจเป็นโรคมะเร็งกันภายใน 10 ปี ตนยังอยากอยู่กับลูกเลยเปลี่ยนแปลงตัวเองทัน ตอนนี้ก็ไม่ดื่มแล้ว คนในวงยังบอกไม่เคยเห็นตนเปลี่ยนไปขนาดนี้
ถามถึงสุขภาพที่เพิ่งไปผ่าตัดมา ?
“ ผ่านมา 3 เดือนแล้ว ตอนนั้นผมเป็นลำไส้อักเสบเรื้อรัง แล้วตอนที่เกิดเรื่องมันอุดตันเฉียบพลัน มันเลยทำให้ปวดท้องมากๆ แล้วก็ถ่ายไม่ออกเป็นเวลา 4-5 วัน ตอนไปหาหมอครั้งแรก คุณหมอกลับบ้านหมดแล้ว เหลือแต่หมอเวร ผมเลยขอกลับบ้านก่อน แต่พอกลับไปก็นอนไม่ได้ นั่งไม่ได้ ตี 5 ต้องขับรถกลับมาใหม่ มารักษา คุณหมอก็บอกต้องผ่าตัดฉุกเฉินเดี๋ยวนั้นเลย เพราะกลัวลำไส้จะระเบิด แล้วก็อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ถ้าเราได้ไปรักษาก่อน อย่างน้อยก็สามารถเจาะ หรือผ่าเล็กๆได้ ปรากฏว่าผมต้องผ่าเปิดหน้าท้องความยาวประมาณ 10 กว่าเซ็น จากใต้หน้าอกจนถึงเอว ก็หนักอยู่เหมือนกัน เพราะผ่าตัดใช้เวลา 6-7 ชั่วโมง พอออกมาก็ตกใจเลย เพราะว่ามันเจ็บมาก ทั้งๆที่ยังมียาแก้ปวดอยู่ แล้วก็ตกใจที่มีสายอยู่ในตัวเป็น 10 สายเลยที่ต่อเข้าตัวเรา มีทั้งคอ จมูก ปาก ท้องอีกหลายเส้น “
สาเหตุคืออะไร ?
“ มันอยู่ที่ไลฟ์สไตล์ผม เพราะผมกินอาหารมันมาก แล้วก็นอนไม่เป็นเวลา พักผ่อนน้อย ออกกำลังกายก็ไม่สม่ำเสมอ เพราะงานเราเยอะเลยออกกำลังกายได้ไม่เต็มที่ ผมต้องเซฟพลังไปเล่นคอนเสิร์ต “
ตอนนี้ปกติแล้ว ?
“ ช่วงแรกๆคุณหมอไม่ให้ออกกำลังกายเลย แล้วก็ไม่ให้เล่นคอนเสิร์ต คือมีโควิดรอบแรก พอกลับมารับงานก็เจอโรคนี้ น้องๆทีมงานผมไม่มีรายได้มาทั้งปีเลย ก็เลยคิดว่าต้องออกไปเพื่อให้ทีมงานหล่อเลี้ยงตัวเองได้ จึงรับงานหลังผ่าตัด 1 เดือน ซึ่งผมก็ไปถามคุณหมอ ว่าถ้าผมออกกำลังกายจะเป็นยังไง เขาก็บอกว่า ถ้ารู้สึกปริที่ท้อง แสดงว่าแผลคุณปริ ผมก็เลยกังวลมาก ช่วงแรกๆก็พยายามเต้นน้อยที่สุด แล้วก็เปลี่ยนแผนการทำงาน มีแดนเซอร์มาเพิ่ม 2 คน คอรัสเพิ่มอีก 2 คน เพื่อให้เราทำงานได้น้อยลง แต่ความสนุกยังมีมากเหมือนเดิม “
ยังต้องระวังอะไรอยู่ไหม ?
“ เรื่องอาหารต้องระวังอยู่ แล้วตอนนี้ก็ยังออกกำลังกายเหมือนเดิมไม่ได้ เพราะยังรู้สึกเจ็บแผลอยู่ “
ต้องปรับเรื่องการกิน ?
“ ต้องครับ เพราะตอนที่อยู่โรงพยาบาล ผมทานไม่ได้อยู่ 15 วัน เขาไม่ให้ทานอะไรเลย พอมาเริ่มก็ไม่ย่อย ตอนนั้นถอดท่อทางเดินหายใจและอาหารหมดแล้ว ปรากฏว่าอาเจียนออกมา ต้องเริ่มใหม่ เท่ากับอยู่โรงพยาบาลนานมากๆเลย ออกมาก็ต้องใช้อาหารเหลวอีกเกือบเดือน “
ช่วงที่ทำงานไม่ได้เป็นยังไงบ้างเพราะเราเป็นคนชอบทำงาน ?
“ โอโห มันเป็นความรู้สึกที่ผมแย่ที่สุดในชีวิตเลย เหมือนตกนรก ถ้าผมต้องนอนโรงพยาบาลแบบนั้นเพิ่มขึ้นอีกสัก 2 เดือน ผมก็ไม่อยากอยู่แล้ว เพราะว่าผมเป็นชอบแอคทีฟตลอดเวลา แล้วก็ชอบทานอาหารอร่อยๆ เจอแบบนั้นคือช่วยตัวเองไม่ได้เลย ลุกจากเตียงยังไม่ได้เลย เพราะมันโดนพันธนาการจากท่อเยอะแยะไปหมด “
ถ้าตอนนั้นลำไส้ระเบิดจะเป็นยังไง ?
“ ของในลำไส้ก็จะระเบิดออกมา แล้วก็อวัยวะที่อยู่ในช่องท้องจะติดเชื้อ แล้วก็ตายได้ คุณหมอก็เลยกังวลมากๆ รีบผ่าตัดทันที “
มีโอกาสกลับมาเป็นอีกไหม ?
“ เป็นครับ คุณหมอบอกเลยว่า ต้องเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ต้องออกกำลังกายมากขึ้น และระวังเรื่องอาหาร ผมเคยเห็นคนที่เป็นแบบนี้แล้วใช้ไลฟ์สไตล์แบบเดิม ก็อาจเป็นโรคมะเร็งกันภายใน 10 ปี แล้วตัวผมเอง ลูกผมก็ยังไม่โตเท่าไหร่ กำลังเข้าสู่วัยรุ่น ก็บอกว่าผมไม่รีบ เลยอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ตั้งแต่ออกมาเพื่อนชวนไปเที่ยว ไปดื่ม ไม่ไปเลย เพื่อนๆก็เห็นความแตกต่างที่เกิดขึ้น “
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องงดตลอดชีวิตไหม ?
“ งดครับ คุณหมอบอกว่าถ้างดได้ก็งดเลย แต่ด้วยอาชีพซึ่งไม่รู้จะโทษได้ไหม เพราะจริงๆขึ้นอยู่กับตัวเราเอง โดยหลังจากออกมาก็อยู่แต่บ้าน เพราะถ้าไปอยู่กับเพื่อนมันก็จะอยู่ในจุดเดิมๆ เลยไม่ออกไปไหนดีกว่า “
งานเรายังเหมือนเดิมไลฟ์สไตล์จะเปลี่ยนได้หรอ ?
“ ช่วงนี้โควิดรอบ 2 พอดี เลยยังไม่ได้ลองจริงๆ แต่เคยทำมาหลายครั้งแล้ว น้องๆในวงก็พูดว่า ผมไม่เคยเห็นพี่เลิกจากคอนเสิร์ตแล้วมากินผัดไทแบบนี้ ก็ถือเป็นมิติใหม่ แต่เสียอย่างเดียวมันทำให้อ้วน “
น้ำหนักขึ้นไหม ?
“ ตอนนั้นประมาณ 73-74 พอป่วยก็ลงเหลือ 65 ลงไป 7-8 โล ตอนนี้พุ่งทะลุไป 75 แล้วครับ “
