หนุ่มห้าววลีฮิต "มีอะไร" โชว์ลำโพงปัดเปิดเพลงกวนข้างบ้าน อีกฝ่ายแฉทนมา 12 ปี (คลิป)

กรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปวิดีโอหนึ่ง ซึ่งเป็นปัญหาเพื่อนบ้านสร้างเสียงรบกวนจากการเปิดเพลงเสียงดัง ทั้งในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน เป็นระยะเวลานานถึง 12 ปี ทำให้เกิดความเดือดร้อน ตามที่ปรากฏเป็นกระแสวิจารณ์นั้น 

ล่าสุดวันที่ 21 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาพบกับ น.ส.ธารีรัตน์ ผาสุข ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นรวม 12 ปี ตั้งแต่ตนย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ โดยคู่กรณีเป็นร้านค้าฝั่งตรงข้ามบ้าน มาอยู่หมู่บ้านนี้หลังจากตน  ประมาณ 4-5 เดือน ซึ่งมักเปิดเพลงเสียงดัง นั่งจับกลุ่มสังสรรค์ ทั้งกลางวันกลางคืน

ที่ผ่านมาตนไม่เคยไปคุยกับคู่กรณี เก็บและอดทนมาตลอด เพราะตนเป็นคนไม่ชอบสุงสิงกับใคร ปัญหาอื่นก่อนหน้านี้ก็ไม่มี ประกอบกับร้านค้าเป็นคนที่นิสัยสอดรู้สอดเห็น ทำให้ตนไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวด้วย จนเพื่อนบ้านที่อยู่มาก่อนตนเริ่มทยอยย้ายออก ด้วยเหตุผลทนเสียงดังจากบ้านหลังดังกล่าวไม่ได้ เมื่อเข้าไปเตือนก็จะถูกข่มขู่

ครั้งแรกที่ตนต้องไปเตือน เพราะไม่มีใครไปเตือนแล้ว คือเมื่อวันที่ 21 ม.ค.64 ตนถ่ายคลิปไว้ขณะอยู่ในบ้าน เสียงเพลงช่วงกลางวันดังจนเข้ามาในตัวบ้าน จากนั้นตนก็ตัดสินใจเตือนเจ้าของบ้าน แต่ก็ได้รับคำตอบที่ไม่ดีกลับมา ทำนองว่าให้ตนปิดกระจก พื้นที่เป็นที่สาธารณะ ซึ่งตนยืนยันว่าตนเข้าไปคุยด้วยมารยาทที่ดี แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ และตนเชื่อว่าหากไปสอบถามคู่กรณีก็จะอ้างว่าตนไม่มีน้ำใจ ไม่เผื่อแผ่ ที่ตนเอากรวยยาง กระถางต้นไม้ มาวางหน้าบ้าน ไม่ยอมให้ที่จอดรถลูกค้าของคู่กรณี ซึ่งตนไม่ใช่ไม่มีน้ำใจ แต่ตนเจอแบบนี้มา 12 ปี บางคนมาสังสรรค์ จอดรถแช่ที่หน้าบ้านตน ในทางกลับกันบ้านคู่กรณีกลับมีสิ่งของวางล้อมรอบบ้าน

นอกจากนี้ ยังมีช่วงเวลากลางคืนที่สามีของเจ้าของร้านกลับมาบ้านก็จะมาเปิดเพลง สังสรรค์ต่อ ซึ่งไม่มีเวลาตายตัว บางวัน 20.00 น. หรือบางวัน 22.00 น. จนกระทั่งล่าสุด วันที่ 19 ก.พ.64 ตนถ่ายคลิปจากในบ้านอธิบายว่า เสียงเพลงจากบ้านตรงข้ามดังเข้ามาในบ้านช่วงกลางคืน ตนไม่ได้ไปตักเตือนคู่กรณี ตนตัดสินใจเรียกตำรวจ ซึ่งสายตรวจก็มา คู่กรณีก็เบาเพลง หลังตำรวจกลับไปก็เปิดเพลงใหม่ และจะมีคำพูดข่มขู่ ทำนองว่าไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ และตนอาจจะได้รับอันตราย

ส่วนตัวจึงเดินทางไปที่ สภ.ดอนหัวฬ่อ จ.ชลบุรี เพื่อไปแจ้งตำรวจอีกครั้ง โดยออกจากบ้านไป 21.00 น. จากนั้นกลับมาช่วง 22.00 น. ก็ปรากฏตามวงจรปิด ขณะที่ตนกำลังถอยรถเข้าบ้าน คู่กรณีเดินเข้ามาต่อว่าตน โดยคนที่ตะโกนตะคอกใส่ตน ตนรู้จักในชื่อ "พ่อปังปอน" ใจความที่ตะคอกทำนองว่า “อะไรมึง มึงจะอะไรหนักหนา กูรู้เวลา” ซึ่งตนไม่ได้ตอบโต้อะไร ส่วนคนที่พยายามห้ามคือ "โอเล่" เป็นผู้เช่าในหมู่บ้าน ล่าสุดตำรวจเข้ามาไกล่เกลี่ย ทำให้เมื่อคืนไม่มีเสียงเพลง

อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ต้องการอะไร เพียงแค่อย่าระรานกัน อยากอยู่บ้านอย่างมีความสุข ตนคิดว่าเรื่องที่เจอเป็นวิบากกรรม ตนยืนยันจะอยู่บ้านเช่นเดิม แต่ก็ยอมรับว่ากลัว เพราะตนอยู่เพียงลำพัง แต่ยังเชื่อมั่นใจกฎหมาย ตนไม่ได้ติดใจหากจะเปิดเพลงเป็นบางเทศกาล แต่กรณีนี้เปิดเป็นกิจวัตร ซึ่งสร้างความรำคาญอย่างมาก 

ทีมข่าวเดินทางมาหมู่บ้านที่เกิดเหตุ ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ทีมข่าวได้พบกับคนที่ถูกถ่ายคลิปช่วงกลางวัน โดยนำลำโพงตัวที่ใช้เปิดเพลงมาให้ทีมข่าวดู โดยพบว่าเป็นลำโพงบลูทูธ ขนาดเท่าฝ่ามือ

ทีมข่าวทดสอบเปิดเพลงจากบลูทูธ ที่ม้าหินหน้าร้านค้า ลักษณะวางนอน หันหน้าลำโพงขึ้นฟ้า เปิดเสียงสุด พบว่าเสียงดังไปถึงหน้าบ้านของผู้เสียหายจริง ส่วนจะถึงขั้นรำคาญ รบกวน ขึ้นอยู่กับบุคคล

นายกีรติ พรหมราช เปิดเผยว่า ตนยืนยันว่าตนไม่มีลำโพงลูกใหญ่ตามในภาพ และตนก็ไม่ได้เปิดเพลงทั้งวัน จะมีช่วงกลางวันบางครั้งตนเปิดเนื่องจากนั่งทำผัก ค้าขายหน้าบ้านบ้าง ส่วนตอนกลางคืนจะเป็นคนที่มานั่งสังสรรค์ นำลำโพงไปเปิดบ้าง ตนมองว่าเสียงเพลงไม่ได้ดังขนาดนั้น แต่ก็ไม่ทราบด้วยเหตุผลอะไร ที่ผ่านมาตนกับคู่กรณีไม่เคยมีปัญหาอะไร จู่ ๆ คู่กรณีก็นำกระถางต้นไม้มาวางรอบบ้าน เพื่อไม่ให้มีการจอดรถ จากนั้นก็เริ่มมีปัญหาเรื่องเสียง ซึ่งปัญหานี้มีมาไม่ถึง 1 ปี

ทั้งนี้ตนไม่ได้เปิดเพลงมา 12 ปี ตามที่กล่าวอ้าง อดีตตนก็คุยกับคู่กรณีปกติ คู่กรณียังเคยฝากดูแลบ้าน ดูแลหมาแมว เวลาที่ไม่อยู่ หลังจากตำรวจและผู้ใหญ่มาเจรจา ตนก็ต่างคนต่างอยู่ หากมีปัญหาเรื่องเปิดเพลง ต่อไปตนก็ไม่เปิด เพราะจะมีปัญหาอีก ส่วนคลิปที่มีการถ่ายไว้ ตนไม่ได้ดู แต่มีคนมาเล่าให้ฟัง เพราะตนเล่นโซเชียลฯ ไม่เป็น โดยในคลิปที่ตนตอบไปว่าให้ปิดกระจก เนื่องจากตำรวจเคยมาเจรจาที่บ้านแล้ว ทำนองว่าหากเป็นเพื่อนบ้านกัน ก็ขอให้ถ่อยทีถ่อยอาศัยกัน หากเสียงดังก็ให้ปิดกระจก เพื่อจะสื่อให้อยู่ร่วมกันได้

ทีมข่าวได้พบกับ เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ตนยอมรับว่าเคยเปิดลำโพงดังกล่าวจริง และเปิดแค่ครั้งเดียว โดยวันดังกล่าวมีตำรวจมาที่บ้าน และขอให้ตนเองปิด ซึ่งตนก็ปฏิบัติตาม ส่วนบ้านน.ส.ธารีรัตน์ ตนไม่ได้มีปัญหาด้วย วันนั้นก็ตกลงกันจบแล้ว ซึ่งหากจะขอเปิดเพลงก็อาจเป็นช่วงเทศกาล ตกลงกันได้