ลงดาบ "พระพล" ห้ามจ้อสื่อ ถ้าดื้อเด้งพ้นเจ้าอาวาส "ผู้ใหญ่" โดนจ่อปลดถ้าผิดโค่นไม้ (คลิป)

11 ก.พ. 64

กรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ขอให้มีการดำเนินการตรวจสอบพระพล เจ้าอาวาสวัดดานพระอินทร์ จ.มุกดาหาร กรณีเกี่ยวข้องกับลุงพลในการก่อสร้างพญานาค และการสร้างวัดในพื้นที่ป่า ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

757239

ล่าสุดวันที่ 10 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่วัดศรีบุญเรือง ซึ่งเข้าพบพระราชรัตนโมลี สมยง กตปุญฺโญ เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า หลังจากเกิดกระแสข่าวเรื่องของพระพล เจ้าอาวาสวัดดานพระอินทร์ ได้รับรายงานล่าสุดว่า เจ้าคณะอำเภอนิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร ได้ทำหนังสือตักเตือนเป็นรายลักษณอักษร ซึ่งออกหนังสือไปเมื่อ 2 วันก่อน ขอให้ยุติการออกสื่อ รวมถึงเกี่ยวข้องกับการสร้างพญานาคของลุงพล และให้อยู่ภายใต้คำสั่งการปกครองของเจ้าคณะอำเภอ หากพบการกระทำผิดต้องถูกดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบคณะสงฆ์จังหวัด โดยอาจจะมีการลดหรือถอดถอนตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด

672945

ส่วนกรณีการจัดตั้งวัดดานพระอินทร์ ในฐานะเจ้าคณะจังหวัด รับทราบกรณีการจัดตั้งวัดแล้ว แต่รายละเอียดเกี่ยวกับใบตราตั้ง รวมถึงเอกสารการจัดตั้งวัด ให้ดำเนินการตรวจสอบไปยังสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหาร อีกทั้งในการจัดตั้งวัดจะต้องมีลายเซ็นของผู้ว่าราชการจังหวัด จึงจะมีความสมบูรณ์และจัดตั้งวัดได้ แต่อาตมาเป็นเพียงฐานะพระฝ่ายปกครอง มีหน้าที่แค่ดูแลควบคุมพระสงฆ์ในจังหวัด ให้เป็นไปตามระเบียบอยู่ในกรอบกฎเกณฑ์เท่านั้น

สำหรับขั้นตอนการจัดตั้งวัด จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไข และระเบียบของสำนักงานพุทธศาสนา ซึ่งจะต้องเป็นที่ดินนิติบุคคล ไม่อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวน จะต้องมีโฉนดที่ดินหรือเอกสารสิทธิ์ประเภท นส.3, พระที่จะเป็นเจ้าอาวาสวัด จะต้องบวชไม่ต่ำกว่า 5 พรรษา, มีสมณศักดิ์หรือจบเปรียญทำชั้นตรีเป็นอย่างต่ำ, ภายในสถานที่ที่จะจัดตั้งเป็นวัด ต้องมีที่ทำกิจของสงฆ์ ศาลาบำเพ็ญบุญ ที่พักสงฆ์ ห้องน้ำ, ต้องมีงบประมาณการปรับปรุงก่อสร้าง 50,000 บาทขึ้นไป และที่ดินจะต้องไม่เป็นของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยเป็นของนิติบุคคลภายใต้ชื่อของวัดเท่านั้น หากเป็นไปตามระเบียบดังกล่าวแล้ว จึงจะมีสถานะเป็นวัดได้

เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร ยังบอกอีกว่า เรื่องของการจัดตั้งวัด หากไม่ถูกต้องก็คงจะใช้คำว่าวัดนำหน้าไม่ได้ ดังนั้นจึงเชื่อว่ามีขั้นตอนถูกต้องตามระเบียบแล้ว และหากต้องการตรวจสอบก็ให้ตรวจสอบได้ เพราะทุกอย่างอยู่ในความจริง ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่กล่าวว่า “สัจจัง” หมายถึงความจริง ก็คือความจริง

787916

อย่างไรก็ตาม เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร ตั้งข้อสังเกตกรณีที่มีบุคคลเข้ามาทำการตรวจสอบ ซึ่งเริ่มต้นจากเรื่องพญานาคข้างบ้านลุงพล จนกระทั่งบานปลายมีการตรวจสอบถึงวัดต้นสังกัดของพระพล ตนเชื่อว่าเป็นไปตามกรรมของมัน ดังคำสอน “กัมมุนา วัตตติ โลโก” สัตว์โลกทั้งหลายต้องเป็นไปตามกรรม ทำอะไรไว้ก็จะได้รับผลตามนั้น หากพระพลผิดก็ต้องว่าไปตามเวรกรรม แต่หากคนที่เข้ามาตรวจสอบ ไม่ได้หวังผลประโยชน์หรือสร้างความเสื่อมเสีย ก็ย่อมได้รับผลกรรมผลดีตามนั้น เช่น พระก็ได้รับประโยชน์จากการบวชศึกษาพระธรรมแล้วสั่งสอนญาติโยม, ญาติโยม ก็จะได้ผลประโยชน์ โดยการรับบุญกุศล ส่วนนายอัจฉริยะ ก็จะได้ประโยชน์คือความดังและคนรู้จัก ดังนั้นทุกอย่างเป็นไปตามเวรตามกรรมของมัน

ขณะที่การสร้างพญานาค ป่าไม้มีการดำเนินการโอนคดีไปให้ส่วนกลางทำต่อนั้น เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร บอกว่า ก็ขึ้นอยู่ตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีใครผิดหรือไม่อย่างไร ก็ให้ว่าไปตามขั้นตอน อีกทั้งอาตมาก็ไม่ได้กังวลหรือต้องออกมาปกป้องพระพล ต่างคนต่างทำหน้าที่ ต่างคนต่างต้องรับในสิ่งที่ก่อเอาไว้ ขณะที่การสร้างพญานาคภายในวัดดานพระอินทร์ของพระพล เป็นการสร้างตามจิตศรัทธาหรือกำลังทรัพย์ของแต่ละคน ของแค่ละวัด ไม่จำเป็นต้องมาขออนุญาตจากจังหวัด ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับความศรัทธา และเจตนาของการสร้างในแต่ละสถานที่

ขณะที่ในวันนี้ ทีมข่าวยังได้พยายามติดต่อไปหาพระพล โดยยังไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งทราบข้อมูลจากลูกศิษย์ของพระพล อยู่ระหว่างการปฎิบัติธรรม ปิดวาจา งดออกสื่อ เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าคณะจังหวัดอย่างเคร่งครัด

474880

วันเดียวกันนี้ ทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายวีระเกียรติ สานุทัศน์ ผอ.สำนักพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหาร นำเอกสารการจัดตั้งวัดดานพระอินทร์ ที่มีพระอนุชา อธิปัญโญ หรือพระพล เป็นเจ้าอาวาสวัด และเอกสารการครอบครองที่ดินของวัด ที่ได้รับมอบมาจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการนิคมคำสร้อย โดยมีนายประมูล เพชรสว่าง ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นผู้รับมอบที่ดินจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการนิคมคำสร้อย ในปี 2554

จากนั้นได้ส่งมอบที่ดินให้กับคณะกรรมกาคหมู่บ้านร่มเกล้า มีนายทรัพย์ ชางดง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 รับมอบในฐานะฆราวาสวัด และส่งมอบที่ดินต่อเพื่อจัดสร้างวัดดานพระอินทร์ เป็นเนื้อที่ 12 ไร่ โดยเนื้อที่ของวัด ฝั่งทิศเหนือติดกับที่เลี้ยวสัตว์ของหมู่บ้าน, ทิศใต้ติดกับถนนไปภูยางเดียว, ทิศตะวันตกติดกับที่ดินชาวบ้านในพื้นที่, ทิศตะวันออกติดกับเขตป่าช้าหมู่บ้าน ส่วนวันที่วัดดานพระอินทร์ ได้ดำเนินการขอจดทะเบียน จัดตั้งเป็นวัด คือวันที่ 29 พ.ค.58 ลำดับที่ 48 ทะเบียนวัด 04490207007 สังกัดวัดมหานิกาย มีพระอนุชา อธิปัญโญ เป็นเจ้าอาวสาวัด

ส่วนข้อมูลของ พระอนุชา อธิปัญโญ เป็นเจ้าอาวสาวัดดานพระอินทร์ ชื่อเดิมคือ อนุชา นารถศรีทา เกิดเมื่อวันที่ 23 ก.ย. เชื้อชาติ-สัญชาติไทย อุปสมบทที่วัดโพยงาม อ.กมลาไส จ.กาฬสินธิ์ เมื่อวันที่ 24 ก.พ.52

824809

นายวีระเกียรติ เปิดเผยอีกว่า หลังทราบว่านายอัจฉริยะ ได้ยื่นให้ตรวจสอบวัดดานพระอินทร์ มาที่สำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหาร พร้อมเข้าตรวจสอบร่วมกัน หากได้รับการประสานงานมา ขณะที่การตั้งวัดดานพระอินทน์ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบแล้ว โดยมีการขออนุญาตสร้างวัดเมื่อปี 2558 บนเนื้อที่ 12 ไร่ บนที่ดินที่ได้รับจากหน่วยงานราชการ คือ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการนิคมคำสร้อย ดังนั้นจึงถือว่าเป็นวัดโดนสมบูรณ์ และทางวัดสามารถขยายอาณาเขตวัดเพิ่มได้ ไม่ต้องมาแจ้งหรือขออนุญาตจากคณะสงฆ์ หรือสำนักพุทธฯ ซึ่งวัดถือเป็นนิติบุคคล สามารถดำเนินการขยายและก่อสร้างทุกอย่างได้ โดยผ่านการทำประชาคมจากกรรมการ หรือชาวบ้านพื้นที่เท่านั้น

ส่วนการสร้างพญานาคในวัดดานพระอินทร์ ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์และการตัดสินใจภายในนิติบุคคล ไม่ต้องแจ้งหรือบอกใคร เป็นสิทธิ์ของวัด เว้นแต่ว่า มีการอวดอุตริ หรือทำผิดพระวินัย จึงจะมีคณะสงฆ์และสำนักพุทธฯเข้าไปกำกับดูแล แต่มีความแตกต่างจากการสร้างพญานาคบ้านลุงพล ที่อาจสร้างผิดสถานที่ เพราะเป็นพื้นที่ป่า ดังนั้นหากสร้างถูกต้องและเหมาะสมก็จะไม่เกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน

336002

ขณะที่ประเด็นเรื่องพระพุทธชินราช ที่ประดิษฐานบ้านลุงพล นายวีระเกียรติ เปิดเผยว่า การสร้างพระพุทธชินราชจะต้องสร้างโดยได้รับอนุญาต หรือพระมหากษัตริย์ แต่เนื่องด้วยปัจจุบันมีโรงผลิตหลายแห่ง ประกอบกับมีคนหล่อพระพุทธชินราชขึ้นมาหลายสถานที่ จึงยากที่จะมีการควบคุม แต่ทั้งนี้หากตั้งในสถานที่ที่เหมาะสม เช่น วัด โรงเรียน ห้างร้านหรือบริษัท ก็จะไม่เป็นอะไร แต่ด้วยพระพุทธชินราช อยู่ในสถานที่ป่าไม้ ประกอบกับตั้งวางในสถานที่ข้างบ้านลุงพล จึงไม่เหมาะสม ดังนั้นคณะกรรมการอำเภอดงหลวง ภายใต้การทำงานของนายอำเภอ สามารถแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมากำกับดูแลและย้ายไปประดิษฐานในสถานที่ที่เหมาะสมได้ ไม่ต้องถึงระดับสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัด

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ได้รับทราบจากคณะสงฆ์จังหวัดมุกดาหารแล้วว่า มีการทำเอกสารหนังสือลายลักษณ์อักษร ลงวันที่ 28 ม.ค.64 ให้พระอธิการอนุชา หรือ พระพล ระวังสังวรในพระธรรม ทั้งการใช้ถ้อยคำที่เหมาะสม การเคลื่อนไหวเกี่ยวกับประเด็นเรื่องลุงพลและพญานาค รวมถึงก่อให้เกิดความเสียหายกับคณะสงฆ์ ซึ่งได้มีการตักเตือนเป็นครั้งที่ 2 ส่วนครั้งที่ 1 ได้มีการตักเตือนด้วยวาจา โดยมีพระครูวิชิต ธรรมพินิจ รองเจ้าคณะอำเภอนิคมคำสร้อย ในฐานะรักษาการเจ้าคณะอำเภอนิคมคำสร้อย ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และตักเตือนพระพล เกี่ยวกับการถอดจิตสื่อสารกับพญานาคที่เกี่ยวข้องกับคดีน้องชมพู่ แต่ทั้งนี้หากยังคงฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตาม และกระทำผิดครั้งที่ 3 ก็จะเสนอให้คณะสงฆ์จังหวัดมุกดาหาร ถอดตำแหน่งเจ้าอาวาส ปรับเปลี่ยนให้เป็นพระลูกวัด ตามระเบียบของคณะสงฆ์จังหวัดต่อไป

702489

กรณีที่มีการเผยแพร่คลิปงานบวงสรวงที่วัดดานพระอินทร์ จ.มุกดาหาร ที่มีพระพล อธิปัญโญ เจ้าอาวาส แล้วปรากฏว่ามีคนดังมากมายอยู่ในงานวันดังกล่าว หนึ่งในนั้นคือ นายวิริยะ พงษ์อาจหาญ หรืออุ๊บ วิริยะ ผู้จัดการดาราชื่อดัง

291138

โดยขณะนั้น พระพล ได้ให้สัมภาษณ์วันที่ 15 พ.ย.63 ว่า ก่อนหน้านี้อาตมาก็ไม่ได้คิดว่าจะให้ลุงพลสร้างพญานาค แต่มีอยู่คืนหนึ่งตอนกลางคืนอาตมาฝันเห็นคนเดินออกมาจากบันไดพญานาคของวัด หน้าตาของชายคนดังกล่าวเหมือนกับคนที่กำลังเป็นข่าว (ลุงพล) ซึ่งหากความฝันเป็นจริง ลุงพลก็จะมีสายสัมพันธ์กับพญานาค หากได้สร้างพญานาคชวงชะตาก็จะพลิกจากร้ายกลายเป็นดี 

461662

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้สอบถามถึงเรื่องนี้กับนายวิริยะ พงษ์อาจหาญ หรืออุ๊บ วิริยะ ผู้จัดการดาราชื่อดัง เปิดเผยว่า คลิปดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนพ.ย.63 ที่ผ่านมา ซึ่งช่วงนั้นตนกับลุงพล ยังรักกันดีอยู่ เมื่อเขาชวนไปก็ไป โดยที่ไม่เคยรู้จักพระพลเป็นการส่วนตัว งานวันนั้นใหญ่โตมาก มีคนมาร่วมบุญเยอะแยะไปหมด ตนสายบุญอยู่แล้ว ก็ไม่แปลกที่จะไป เพราะช่วงนั้นตนอยู่ที่หมู่บ้านกกกอก ซึ่งในวันนั้นพระพลดูแลตนและครูชาไทยดีมาก เรียกว่าให้ความสนใจเป็นพิเศษมากกว่าคนในงาน อาจจะเป็นเพราะตนเป็นคนดูแลลุงพล จึงได้รับการดูแลมากกว่าคนอื่น มีพาไปบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ แล้วก็ให้ของศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย

นอกจากนี้ยังได้ถามถึงกรณีที่ พระพล ออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นผู้ยุยงให้ลุงพล สร้างพญานาค ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยออกมายอมรับว่าบอกจริง ตนมองว่าพระพล ไม่ควรเป็นคนกลับกลอก อย่าออกมาแถเลย ในฐานะที่ตนเคยใกล้ชิดมาก่อน ก็ทราบว่าทั้งคู่คือพระพลและลุงพล มีการคุยเรื่องพญานาคมาโดยตลอด ฉะนั้นเรื่องนี้ทั้ง 2 คนก็ต้องออกมารับผิดชอบร่วมกัน เนื่องจากทั้งคู่ก็สนิทกันมาก การสร้างพญานาคได้ ต้องเป็นคนมีบารมีจริง ๆ แล้วตนก็มองว่าการมาสร้างข้างบ้านไม่สมควรตั้งแต่แรกแล้ว พญานาคควรอยู่ตามวัดหรือสถานที่ ๆ เหมาะสมกว่านี้ แต่ก็ไม่กล้าขัดอะไรในตอนนั้น

557276

ในส่วนของเรื่องที่มีการพบว่าลุงพล สร้างพญานาค บุกรุกป่าสงวน จนอาจจะต้องรื้อทิ้ง แล้วหมอปลา อาสาจะไปทุบรูปปั้นพญานาคด้วยตัวเองตนก็อาสาจะตามไปด้วย โดยได้โทรคุยกับภรรยาหมอปลาแล้ว ทุกวันนี้ตนก็ถือค้อนซ้อมทุบดิน ทุบหินอยู่บ้าน เหมือนได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย ตนไม่ได้ต้องการจะลบหลู่ แต่ตนเป็นเพื่อนหมอปลา ก็ต้องอยู่เคียงข้างคอยให้กำลังใจกัน ถามว่ากลัวอาถรรพ์หรือไม่ ของพวกนี้มันอยู่ที่ใจ อีกทั้งในเมื่อถูกสร้างผิดที่ผิดทางก็ต้องทุบทิ้งอยู่แล้ว 

อย่างไรก็ตาม ตนได้มีการเตรียมค้อนปอนด์ขนาด 4 ปอนด์ และซ้อมทุบไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อเดินทางไปทุบรูปปั้นพญานาคที่ “ลุงพล” สร้างในพื้นที่ป่าสงวนด้วย โดยเหตุผลที่ไปครั้งนี้มีอยู่ 2 ประการ คือ เหตุผลความรู้สึกส่วนตัวที่เคยมีปัญหากับ “ลุงพล” และอีกเหตุผลคือตนมองถึงเรื่องของความถูกต้องเหมาะสม ในการสร้างอะไรก็แล้วแต่บนพื้นที่สงวน ย่อมผิดกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ว่าสิ่งนั้นจะมีมูลค่ามหาศาลขนาดไหนก็ตาม

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่ว่าการอำเภอดงหลวง จ.มุกดาหาร ไปพูดคุยกับ นายชัชวาลย์ ทองชน นายอำเภอดงหลวง เกี่ยวกับพฤติกรรมของนายนิ่ม เงินนาม ผู้ใหญ่บ้านกกกอก ที่ถูกร้องเรียนในมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

290441

นายชัชวาลย์ เปิดเผยว่า กรณีที่นายนิ่มเงินนาม ถูกนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไปร้องเรียนเกี่ยวกับมาตรา 157 กับปปช.นั้น ทำให้ทางอำเภอไม่มีข้อมูลที่จะดำเนินการตรวจสอบ เพราะหนังสือข้อร้องเรียนไม่ได้ถูกส่งมาที่อำเภอให้ตรวจสอบ และยังไม่มีคนร้องเรียนมาทางอำเภอโดยตรง แต่ตนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มอบหน้าที่ให้ปลัดอำเภอไปพูดคุยตักเตือนเรื่องวินัยแล้ว รวมถึงตนก็ได้โทรศัพท์ส่วนตัวไปตักเตือนให้ประพฤติตัวให้เป็นกลางกับชาวบ้าน และไม่ให้เลี่ยงการตอบคำถาม เดินหนีสื่อมวลชนอย่างภาพที่ถูกเผยแพร่ออกไป

814363

กรณีมาตรา 157 นั้นเป็นเรื่องของกฎหมาย หากพิสูจน์แล้วว่าผู้ใหญ่บ้านกกกอก ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจริง ทางกรมปกครองก็จะดำเนินการทางวินัย หากร้ายแรงก็อาจจะต้องไล่ออกจากตำแหน่ง แต่ตนก็จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้อาจจะมีหนังสือแจ้งเตือนผู้ใหญ่นิ่มเป็นลายลักษณ์อักษร และเรียกมาชี้แจงเรื่องพฤติกรรมอีกที และทางอำเภอให้ตรวจสอบในทางลับว่าผู้ใหญ่นิ่ม สามารถบริหารจัดการความสงบในหมู่บ้านได้หรือไม่ หากทำไม่ได้ก็จะให้กำนันตำบลกกตูม ลงมาดูแลแทนทั้งหมด

507581

กรณีนายชัชวาลย์ ทองชน นายอำเภอดงหลวง ตักเตือนผู้ใหญ่บ้านกกกอกให้ทำตัวเป็นกลาง หลังถูกชาวบ้านตั้งข้อสงสัยว่า ผู้ใหญ่ประพฤติหน้าที่ไม่เป็นกลาง เนื่องจากผู้ใหญ่บ้านได้รับงานจากแฟนคลับและพาไปรำที่พญานาคบ้านลุงพล รวมถึงถูกนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องเรียนเกี่ยวกับมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

651680

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่เถียงนาของผู้ใหญ่บ้านกกกอก ซึ่งวันนี้ผู้ใหญ่บ้าน ได้นำชาวบ้านมาซ้อมฟ้อนรำกว่า 20 คน อย่างเช่น ย่าอาชิ ยายจำลอง ก็ได้มาร่วมด้วย ซึ่งมีการไลฟ์สดอยู่ตลอดเวลา โดยผู้ใหญ่บ้านก็สวมบทบาทเป็นยูทูเบอร์และไลฟ์สดด้วย แต่ทันทีที่ทีมข่าวไปเริ่มถ่ายภาพ ผู้ใหญ่นิ่ม ก็ได้เดินหันหลังและเดินลงนาหนีไปทันที

628326

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางจำลอง แดนกาไสย ชาวบ้านกกกอก เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางมาซ้อมรำ เพื่อความพร้อมเพรียง เวลาไปรับงานรำข้างนอกก็จะได้มีความสวยงาม แต่ยังไม่ได้ไปแสดงที่ไหน ซึ่งต้องรอผู้ใหญ่บ้านและภรรยาแจ้งมาก่อนว่าจะไปรำที่ไหน

430196

เพราะผู้ใหญ่บ้านจะเป็นคนพาไป ส่วนที่ลานพญานาค ถ้ามีคนมาจ้างตนก็ไปรำทุกวันอยู่แล้ว ซึ่งค่าจ้างก็แล้วแต่คนแฟนคลับจะให้ ตนไม่ได้เรียกร้องอะไร แต่ก็ได้เงิน 300-500 บาท อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตนไม่ได้ไปทำสวนมันสำปะหลังเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้รับงานรำก็ได้เงินเหมือนกัน วิถีชีวิตเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส