“ลำยอง หนองหินห่าว” เปิดใจหมดเปลือก ผู้ชายให้บ้านรถ ใครจะไม่เอา เผยลดงานเพราะกลัวป่วยตาย (คลิป)

ทีมข่าวบันเทิงอมรินทร์ ทีวี ได้มีโอกาสเจอตัว “ลำยอง หนองหินห่าว” นักร้องหมอลำเจ้าของฉายา “สาวหมอลำซิ่งโคโยตี้” ทั้งที งานนี้เธอเปิดใจแบบหมดเปลือก ทั้งเรื่องรักที่คนเมาท์กันว่าเธอมีเสี่ยเลี้ยง ซื้อบ้านราคา 10 ล้าน ซื้อรถ BMW ให้ แล้วยังมีเรื่องธุรกิจ และเรื่องสุขภาพที่เธอบอกว่า ตอนนี้ทำงานหนักจนกลัวป่วยตาย ถึงขั้นต้องลดงานกันเลยทีเดียว

“ลำยอง หนองหินห่าว” เปิดใจว่า ดีใจที่ได้มางานในวันหยุด ถือว่าเป็นวันหยุดแห่งชาติ ดีใจที่มาสร้างสีสันให้คนได้มีความสุขกัน คอนเซ็ปของเราคือ เวลาข่าวลงหรือใครมองว่าเป็นพี่หญิงลีเบอร์สอง ตนยอมรับว่า ก็อาจจะหน้าตาเหมือนบ้าง แต่การเล่นแตกต่างกัน เหมือนหญิงลีจะสดใสน่ารัก ยังคงความเป็นนักร้อง แต่ลำยองจะลำซิ่งโคโยตี้ไปเลย จะออกแนวบ้า ๆ ตลก ๆ พูดจากฉะฉาน เพลงช้าจะน้อยมาก ซึ่งตนกับหญิงลี ก็อยู่จังหวัดใกล้ ๆ กันด้วย ถ้าถามว่าเหมือนหญิงลีตรงไหนบ้าง คงจะเป็นฟัน หน้าตา เค้าหน้า แต่หญิงลีสวยกว่า แต่ถ้าหากหญิงลีบอกว่าเราคล้ายก็ดีใจ เพราะว่าหญิงลีสวย แปลว่าเราก็มีเค้าโครงสวยด้วย

โดยตอนนี้ “ลำยอง หนองหินห่าว” กำลังทำธุรกิจ ขายแหนม เป็นธุรกิจครอบครัวเล็กๆ จากการร้องเพลง ว่าง ๆ ก็ทำแหนม เพื่อให้วันว่าง ๆ ของเราครอบครัวมีอะไรทำ ไม่อยากให้คนรอบข้าง หรือครอบครัวอยู่เฉย ๆ อยากให้เห็นค่าของเงิน ถึงเราจะเป็นนักร้อง ค่าตัวเราอาจจะมากกว่าคนทำงานปกติ แต่ว่าก็อยากให้คนอื่นเห็นคุณค่าของเงินด้วย คือจะฝึกให้คนในบ้านเป็นแบบนี้ เพราะว่าคนในบ้าเยอะ ลูกหลานเยอะ ก็จะฝึกตรงนี้ เพราะเป็นงานทำด้วยมือ สามารถช่วยกันทำได้ ไม่มีการใช้เครื่องจักรเลย นอกจากนี้ ก็จะมีมะขามแช่อิ่มด้วย จะรับมะขามจากเพชรบูรณ์ เอามาทำเป็นแบรนด์แล้วจัดจำหน่าย คือทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้เงิน ญาติพี่น้องก็ทำได้ด้วย ถ้าไม่มีเวลา ญาต ๆ ก็ทำแทนเราได้ ก็เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และสร้างรายได้ให้คนในครอบครัวและคนรอบข้าง ส่วนกระแสฟีดแบค ถือว่าดี มีคนรอกินแหนมของลำยองอยู่ แต่ลำยองก็ไม่ได้ทำแหนมตลอดเวลา ลำยองก็จะทำเฉพาะช่วงที่ว่างจริง ๆ ทุกคนก็จะรอ ลำยองจะว่างตอนไหนก็ต้องรอดูในเพจ เพราะเราทำตามออเดอร์เท่านั้น

นอกจากนี้ ที่บ้านโดนงัดตั้ง 5 ครั้ง ก็ไม่ได้ซีเรียส เพราะไม่ได้มีของมีค่า เป็นบ้านที่ซื้อตั้งแต่ตอนเป็นครูอยู่ มหาสารคาม แล้วเราก็ปิดบ้านไว้ ไม่ได้อยู่ เพราะทัวร์คอนเสิร์ตเป็นส่วนใหญ่ กลับไปก็เห็นบ้านโดนงัด มีตำรวจโทรมาบอกตลอดว่าบ้านโดนงัดอีกแล้วนะ ไม่มีของเสียหาย แต่ต้องซ่อมประตูหน้าต่าง จัดบ้านใหม่บ่อย ๆ ซึึ่งพ่อกับแม่อยู่อีกอำเภอ นาน ๆ จะเข้าไปดูบ้าน หลายคนถามว่าทำไมไม่ขาย ที่จริงไม่ได้อยู่ แต่มันเป็นบ้านหลังแรกของเราที่ได้จากน้ำพักน้ำแรง เราเก็บเงินห้าบาทสิบบาทของเราเพื่อจะได้บ้านหลังนี้มา อดออมไปดาวน์บ้าน ทุกวันนี้ก็ยังผ่อนนะ การที่จะขายก็รู้สึกว่าเก็บไว้ดีกว่า ส่วนบ้านที่กรุงเทพฯ คือเป็นบ้านแฟนต่างชาติซื้อให้ แล้วเขาก็ไปแล้ว ตอนซื้อให้ก็บอกว่า ซื้อให้แล้วนะ คุณก็ดูแลตัวเอง แล้วก็ไม่ได้ติดต่อกันปีกว่าแล้ว ซึ่งก็อยากจะสานสัมพันธ์ต่อ แต่เขาไม่สาน เขาบอกว่า เรากับคุณคุยกันคนละภาษานะ เหมือนตัวตลก เพราะคุยกันไม่ได้ จะคุยสองคนก็ต้องมีล่าม จึงไม่มีความเป็นส่วนตัว อาจจะเป็นเพราะเราเล่นตัวมากด้วย

ส่วนจะให้เขาเรียนภาษาไทย แต่ก็แก่แล้ว เขาบอกว่าสมองไม่รับอะไรแล้ว เพราะทำธุรกิจไม่มีเวลาไปเรียน แต่ก็บอกให้เราไปเรียนภาษาจีน แล้วเราจะเอาเวลาที่ไหนไปเรียน แค่ทัวร์คอนเสิร์ตก็ทุกวันแล้ว ใจเขาอยากให้เราเลิกร้องเพลงแล้วไปอยู่ด้วย หรืออยู่ไทยแต่ไม่ต้องร้องเพลง เขาจะส่งเงินมาให้ แต่มันไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงของเรา ถ้าเราจะมัวนั่งรอใช้เงินเขา วันนึงเขาไม่ดูแลเราล่ะ ถ้าเขาเป็นอะไรไป เราจะทำยังไง ความฝันของเราที่อยากเป็นนักร้อง งานของเราที่กำลังมีเงินได้เรื่อย ๆ ต้องหยุด เพราะเรามีเงินก้อนใหญ่อยู่ข้างหน้าแล้ว ถ้าวันนึงเกิดอะไรขึ้นมา เราจะทำยังไง ส่วนที่เขาซื้อให้ เพราะเสน่หา ไม่ได้เหมือนแบบแฟน เป็นใครใครก็เอา ให้มาก็รับ ไม่ปฏิเสธ เขาอาจจะให้มากกว่านี้ แต่แค่นี้ก็พอแล้ว รถแค่นี้พอ บ้านแค่นี้พอ เราก็จะมีลิมิตของเรา แต่เราจะปฏิเสธพองาม อยากซื้อให้ก็เอา เป็นใครใครก็เอา เพราะเป็นความสบาย แต่ว่าเราก็ไม่ได้ไปขอเขา เราตั้งใจจะสร้างอนาคตกับเขา แต่อาจจะเพราะเราไม่ยอมแต่งงาน ไม่ยอมมีอะไรกับเขาด้วย ส่วนกลัวคนจะมองว่าเขาเลี้ยงหรือไม่ ตนเองก็ไม่กลัว เพราะว่า เอาไม่เอาคนก็มองเราอย่างนี้อยู่แล้ว เพราะว่าภาพเรามันเป็นแบบนี้ แต่คือเรารู้ตัวเราเอง พ่อแม่เรารู้ตัวเราเองว่าเป็นแบบนี้ ถ้าจะให้ไปนั่งอธิบายให้คนเข้าใจมันไม่มีหรอก ปล่อยเขาคิดไป

ส่วนตอนนี้ คิวงานเต็มไม่มีวันหยุดเลย แต่เดือนพฤษภาคม เป็นหน้าฝน ก็มีหยุดบ้างแล้ว จะไม่เร่งหางาน พักผ่อนบ้าง เพราะอายุเยอะแล้ว แหนมก็ให้ญาติ ๆ ทำ แต่อยากพักผ่อนรักษาตัวเองบ้าง เพราะว่าเห็นศิลปินหลาย ๆ คนคือทำงานลุย ๆ พอวันนึงไม่สบายขึ้นมา เงินก็ช่วยอะไรไม่ได้ ส่วนจะหยุดเยอะมากก็ไม่ได้ เพราะถ้าหยุดเยอะ ก็จะมีนักร้องหน้าใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ เราก็ต้องรักษาระดับเราไว้ว่าต้องมีงานทุกเดือน แต่เดือนละกี่งานก็แล้วแต่ เราก็ไม่ต้องหักโหม หน้าฝนได้พัก เพราะอาจจะมีแค่เดือนละ 10 กว่างาน "เขาอยากดูเรา ก็ต้องไป เราไม่โทรไปหาเจ้าภาพ แต่นั่งรอรับโทรศัพท์ มีมาก็ไป ไม่มีก็ไม่ต้องวิ่งหา" ส่วนที่ทำอยู่ ก็คือห่วงสุขภาพในอนาคตของตัวเองด้วย เพราะว่าอายุจะ 40 แล้ว ก็มองว่าสุขภาพก็สำคัญ เพราะเราใช้มันมาตั้งแต่เด็ก เปลืองมาก ควรให้รางวัล ก็พออยู่พอกินแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรมากมายไปกว่านี้แล้ว นอกจากมีงานทำที่ดี สุขภาพที่ดี ครอบครัวที่ดีก็พอแล้ว