หนุ่มอดนอน 26 ชม. ยิงข้างห้องเจ็บฉุนเปิดเพลงยั่ว แฟนรับอารมณ์ 2 ขั้วสติหลุดลั่นไก (คลิป)

3 ม.ค. 64

กรณีพ.ต.ท.สมบัติ มีล้อม สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน ได้รับแจ้งเหตุ นายนิกร จันทบ อายุ 49 ปี ถูกยิงที่สะโพก 1 นัด นำส่ง รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ และนายประวิทย์ แน่นอุดร อายุ 43 ปี ถูกยิงเข้าหูข้างขวา นำส่ง รพ.บางมด ภายในอาคารสงเคราะห์ข้าราชการและลูกจ้างประจำ กรุงเทพฯ (ยิ้มประยูร) หน้าห้องเลขที่ 67/36 ชั้น 4 ซอยกำนันแม้น 17 แยก 7 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ

590164366688

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว นายวิโรจน์ พาคีนาท หรือ หนึ่ง อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่สํานักงานระบายน้ำกรุงเทพฯ ผู้ก่อเหตุ พร้อมของกลาง ปืนลูกโม่ รีวอลเวอร์ ขนาด .22 มม. และกระสุนจำนวนหนึ่ง

851852

เบื้องต้นตำรวจจะสอบปากคำผู้ก่อเหตุ และคนเจ็บ อย่างละเอียด พร้อมพยานแวดล้อม ก่อนนำอาวุธปืนไปตรวจสอบว่าครอบครองโดยถูกกฎหมายหรือไม่ ก่อนแจ้งข้อหาพยายามฆ่า, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

417876

ล่าสุดวันที่ 3 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางมายัง สน.บางขุนเทียน พบว่าในช่วงเที่ยง ครอบครัวของนายวิโรจน์ ได้เดินทางนำเสื้อผ้ามาให้นายวิโรจน์เปลี่ยน พร้อมพูดคุยให้กำลังใจ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวนายวิโรจน์ ไปฝากขังที่ศาลในวันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.64)

จากนั้นนางสาวณัฐชานันท์ ขวานทอง หรือ แอ้ม อายุ 41 ปี แฟนสาวของนายวิโรจน์ ได้พาทีมข่าวเดินทางมายังอาคารสงเคราะห์ข้าราชการและลูกจ้างประจำ กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในซอยกำนันแม้น 17 แยก 7 ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ โดยทีมข่าวยังพบเศษกระจกบานเกล็ดและทิชชูเปื้อนเลือดของผู้บาดเจ็บตกอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ

689676

น.ส.ณัฐชานันท์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตนได้เดินทางไปเยี่ยมนายวิโรจน์ นายวิโรจน์กำลังใจดีขึ้น มีน้ำตาคลอในบางช่วง โดยนายวิโรจน์ได้พูดกับตนว่า “ขอโทษ พี่คิดน้อยไปหน่อย”

418298

ทั้งนี้ตนไม่รับรู้เหตุการณ์ แต่จากการที่ตนได้ไปเยี่ยมนายวิโรจน์และพูดคุย ทำให้ทราบว่า นายวิโรจน์ ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สํานักงานระบายน้ำกรุงเทพฯ โดยได้เข้าเวรทำงานตั้งแต่เวลา 08.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค.64 ลากยาวมาถึงเวลา 07.00 น. วันที่ 2 ม.ค.64 กราคม จากนั้นนายวิโรจน์ ก็ได้ออกไปรับงานเสริมขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างย่านท่าพระ ก่อนจะกลับอาคารที่พักในเวลาประมาณ 10.00 น.

cg-2_1

เมื่อนายวิโรจน์ กลับเข้าห้องพัก ก็พบว่าห้องข้าง ๆ ได้ปู่เสื่อเปิดเพลงเสียงดัง นั่งดื่มสังสรรค์กันอยู่ 5 คน บริเวณหน้าห้อง นายวิโรจน์จึงพูดว่า “เบาเสียงหน่อยได้ไหม” กลุ่มคนข้างห้องจึงปิดเพลง แต่เมื่อปิดไปได้สักพัก เพลงก็ดังขึ้นมาอีกและดังกว่าเดิม ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีปากเสียงกัน กระทั่งอีกฝ่ายเข้าประชิดตัวนายวิโรจน์ ทำให้ผลักกันจนกระจกบานเกล็ดแตก นายวิโรจน์ได้พยายามใจเย็นแล้ว กลับเข้าไปภายในห้องของตัวเอง แต่อีกฝ่ายยังคงพูดจาไม่ดี และด่าพ่อแม่นายวิโรจน์ นายวิโรจน์จึงบันดาลโทสะหยิบปืนที่เก็บอยู่ในกล่องภายในตู้เสื้อผ้าออกมา

โดยขณะนั้นแม่วัย 73 ปี ของนายวิโรจน์ ได้พยายามห้ามเอาไว้ แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากนายวิโรจน์ ได้ผลักแม่ของตัวเองจนล้ม จากนั้นนายวิโรจน์ ก็ได้วิ่งออกมาก่อเหตุ ยิงปืนใส่ประตู 2 นัด แต่กระสุนปืนด้าน ทำให้นายวิโรจน์สะบัดปืนแกว่งไปมา กระสุนจึงถูกยิงออกมาอีก 2 นัด เข้าที่สะโพกของนายนิกร และเข้าที่กกหูขวาของนายประวิทย์ ซึ่งเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นไวมาก โดยในตอนแรกผู้บาดเจ็บ ยังไม่รู้ตัวเองว่าถูกยิง

118425

น.ส.ณัฐชานันท์ บอกว่า ตนคบหากับนายวิโรจน์มา 8 ปี ตนรู้จักนิสัยของนายวิโรจน์ดี นายวิโรจน์ เป็นคนอ่อนโยน รักสัตว์ เมื่อครอบครัวและเพื่อน ๆ ทราบข่าวต่างก็ตกใจ ไม่คิดว่านายวิโรจน์ จะก่อเหตุขึ้นได้ คาดว่านายวิโรจน์ น่าจะเก็บกดมานาน เนื่องจากนายวิโรจน์เคยมีปัญหากับสามีภรรยาข้างห้องมาก่อน โดยตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา ข้างห้องชอบเปิดเพลงเสียงดัง ทำให้นายวิโรจน์ นอนไม่ค่อยจะหลับ จากนี้ตนจะปรึกษากับครอบครัวของนายวิโรจน์ เพื่อขอประกันตัวในชั้นศาล และจะติดต่อผู้บาดเจ็บ เพื่อสอบถามอาการและเยียวยาต่อไป

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียน ให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุให้การว่า กลุ่มผู้บาดเจ็บเปิดเพลงเสียงดัง เมื่อทนไม่ไหวจึงก่อเหตุดังกล่าว โดยในวันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.64) เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวของผู้ก่อเหตุไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรี ในข้อหาพยายามฆ่า, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนในที่สาธารณะ และจะยืนคำร้องต่อศาล ขอคัดค้านการประกันตัว

414121

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางชญานันท์ สีหไตรย์ อายุ 54 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวบริเวณหน้าอาคารที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ก่อนจะเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้มานั่งกินก๋วยเตี๋ยวแล้วบ่นถึงห้องข้าง ๆ ในฟัง บ่นว่า “เปิดเพลงเสียงดัง ดังมาถึงนี่เลย” เนื่องจากขณะนั้นกลุ่มผู้บาดเจ็บได้เริ่มปู่เสื่อสังสรรค์กันแล้วที่บริเวณหน้าห้อง (ชั้น 4) ซึ่งเสียงเพลงได้ดังลงมาถึงชั้นล่าง ดังมาถึงร้านของตนที่ตั้งอยู่หน้าอาคารที่พัก ซึ่งตนก็ได้ตอบกลับไปว่า “ปีใหม่ เขาสังสรรค์กัน ใจเย็น ๆ” จากนั้นผ่านไปสักพักใหญ่ ตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด

ทั้งนี้ ตนก็รู้สึกตกใจที่นายวิโรจน์ ก่อเหตุเช่นนี้ เพราะนายวิโรจน์เป็นคนนิสัยดี ร่าเริง ไม่เคยพบเห็นว่ามีอาการเครียด เก็บกดถึงขั้นจะก่อเหตุได้ ส่วนกลุ่มผู้บาดเจ็บตนรู้จักเพียงสามีภรรยาเจ้าของห้อง ซึ่งก็เป็นคนอัธยาศัยดี อาจจะมีบ้างที่เปิดเพลงเสียงดัง ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน และคนในวงสังสรรค์อีก 1 คน ตนไม่รู้จัก เพราะเป็นคนนอกที่มาร่วมสังสรรค์เท่านั้น

795881

น.ส.นารี ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า ในวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 10.00 น. นายวิโรจน์ได้กลับขึ้นมาบนห้องแล้วพูดว่า “เบา ๆ หน่อย จะนอน” แต่ตนก็ไม่ได้ถือโทษหรือตอบโต้อะไร เพราะนายวิโรจน์ เป็นคนพูดจาเสียงดัง ตนได้เบาเสียงเพลงลง แต่ตนก็ได้บ่นขำ ๆ กับกลุ่มเพื่อนว่า “ปีใหม่ แค่นี้ก็กินไม่ได้”

จากนั้นในเวลาประมาณ 10.30 น. นายวิโรจน์ ก็ได้เดินถอดเสื้อออกมาจากห้องพร้อมพูดว่า “อะไร ๆ” ตนก็ได้ตอบกลับไปว่า “อะไรพี่ ขอหน่อยไม่ได้เหรอ ปีใหม่ อะไรนักหนา” ขณะนั้นแม่ของนายวิโรจน์ ก็ได้เดินออกมาจากห้อง แล้วดึงตัวนายวิโรจน์กลับเข้าห้องไป

ทั้งนี้ตนที่คิดว่าทุกอย่างจบแล้ว กระทั่งเวลาเกือบเที่ยงวัน สามีของตนก็ได้ขอตัวกลับเข้าไปนอน ส่วนตนก็ได้ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ จู่ ๆ ตนยิงปืนดังขึ้น 2-3 นัด ซึ่งในตอนแรกตนคิดว่าเป็นเสียงประทัด สามีของตนจึงได้เปิดประตูห้องออกมาดู ก็พบว่านายวิโรจน์ ได้หันปากกระบอกปืนมาในห้องของตน แล้วนายวิโรจน์ ก็ได้ยิงปืนอีก 2 ครั้ง แต่ลูกกระสุนปืนด้านไม่ออกมา ตนที่ยืนอยู่ข้างหลังสามีจึงบอกให้สามีรีบปิดประตู จากนั้นนายวิโรจน์ ก็ได้ยิงปืนอีก 2 นัด ทะลุเข้ามาในประตู

536405

เมื่อตนเปิดประตูออกมาอีกครั้ง ก็พบว่านายธีรดิษฐ์ กำลังแย่งปืนกับนายวิโรจน์ จนทำให้กระจกบานเกล็ดหน้าห้องของนายวิโรจน์แตก ตนจึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนยอมรับว่ากลุ่มของตนเมา แต่ก็ไม่ได้เมามาก ยังคงมีสติกันอยู่ ขอยืนยันว่าตนไม่ได้ยืนด่าพ่อแม่นายวิโรจน์ นายวิโรจน์หยิบปืนออกมาก่อเหตุเองโดยไม่ทราบสาเหตุ

นายวิโรจน์อ้างว่าไม่ค่อยได้นอนมา 5 เดือน เพราะตนเปิดเพลงเปิดโทรทัศน์เสียงดัง ตนขอปฏิเสธ เพราะตนเกรงใจนายวิโรจน์มาโดยตลอด ตนพยายามเปิดเพลงและโทรทัศน์ให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือหากนายวิโรจน์กลับมาถึงห้อง ตนก็แทบจะไม่เปิดโทรทัศน์เลย ตนคาดว่านายวิโรจน์ น่าจะเข้าใจผิด เพราะคนที่เปิดเพลงเสียงดัง คือ อาคารด้านหลังข้างเคียง

ส่วนอาการผู้บาดเจ็บขณะนี้ปลอดภัยดี แพทย์ได้ผ่าตัดนำกระสุนที่ฝังอยู่ในสะโพกของนายนิกรออกแล้ว ส่วนนายประวิทย์ แพทย์กำลังเตรียมที่จะผ่าตัดนำกระสุนบริเวณกกหูขวาออก โดยทั้งสองคนยังไม่ได้พูดคุยกันเกี่ยวกับนายวิโรจน์ ส่วนตนในฐานะเพื่อนข้องห้องของนายวิโรจน์ และเพื่อนผู้บาดเจ็บ ตนคิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้น หากมีอะไรควรพูดจากันดี ๆ โดยตนไม่ขอพูดถึงการแจ้งข้อหาพยายามฆ่าของนายวิโรจน์ และขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม