กรณีนางสุนันทา แก้วเมืองเพ็ชร นำเด็กชายเอ (นามสมมติ) อายุ 8 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา อ้างว่าถูกแม่เลี้ยงทุบตีจนได้รับบาดเจ็บ โดยเด็กชายเอ มีแผลบริเวณหน้าผาก พร้อมกับเล่าให้ฟังว่า ถูกแม่ตีด้วยไม้กระบอง สาเหตุจากการที่แม่ถามแล้วไม่พูดเรื่องเปิดโทรทัศน์หรือไม่ และคิดว่าเด็กชายเอโกหก จึงถูกตีด้วยไม้กระบองดังกล่าวได้รับบาดเจ็บที่หน้าผากด้านขวา เป็นแผลฉีกลึกยาวประมาณ 3 ซม. และบริเวณปลายหูด้านขวาฉีกขาด
ทางด้านเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เข้าดำเนินการดูแลเด็กชายเอ ตามขั้นตอนของกฏหมายแล้ว สำหรับนางมด แม่เลี้ยง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตัวมาสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุดวันที่ 23 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังบ้านของเด็กชายเอ พบว่าเป็นบ้านลักษณะห้องเช่า 2 ชั้น ทั้งหมด 7 ห้อง ในซอยมหาจักรพรรดิ์ 9 อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ด้านหน้าห้องปิดประตูล็อกกลอน และมีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ 1 คัน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.ธนภรณ์ สว่างศรี หรือ มด อายุ 38 ปี แม่เลี้ยงเด็ก มีศักดิ์เป็นป้าแท้ ๆ ของเด็ก เปิดเผยว่า ยืนยันว่าเด็กชายเอ ถึงแม้จะไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ตนก็ไม่เคยทำร้าย เพราะตนรับมาเลี้ยงตั้งแต่เกิดเมื่อปี 56 โดยเด็กชายเอ เป็นลูกชายของน้องสาวตน และที่น้องสาวและครอบครัวไม่ได้เลี้ยงเด็กชายเอ เพราะไม่ชอบสามีของน้องสาว เป็นคนไม่เอาไหน
ก่อนหน้านี้ครอบครัวก็คิดจะทำแท้งด้วยซ้ำ แต่ตนก็ได้ห้ามไว้ และเมื่อเด็กชายเอคลอด พี่สาวตนก็เลี้ยงเด็กชายเอมาก่อน 7 เดือน ก่อนที่แม่แท้ ๆ ของเด็กชายเอจะมาขอรับไปเลี้ยง ได้เพียง 1 เดือน แต่มักจะขอเงินตนตลอด อ้างว่าเป็นค่าเลี้ยงดูลูก ต่อมาแม่ของเด็กชายเอ ติดคุกในข้อหายาเสพติด ตนจำได้ว่าติดคุกตั้งแต่ประมาณปี 56 - 62 และปัจจุบันออกมาจากคุกแล้ว แต่ก็ไม่ติดต่อมา ตนถามตลอดว่าอยู่ที่ไหน น้องสาวก็ไม่ยอมบอก
เหตุการณ์ที่ทำให้เด็กชายเอบาดเจ็บ เมื่อวานนี้ (22 ธ.ค.63) ตนกลับจากทำงาน เวลา 21.00 น. ตนเคาะห้องเรียกลูกให้มาเปิดประตู และพบว่าลูกหลับอยู่ แต่เมื่อเปิดประตูออกมา ตนเห็นเลือดที่อยู่ที่ผ้าห่ม จึงถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เด็กชายเอกบอกว่า อาบน้ำ และขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบนบ้าน ทำให้สะดุดผ้าเช็ดเท้า และตกบันไดลงมาด้านล่าง จึงทำให้มีบาดแผล ศีรษะเป็นแผลลึก ปูด เขียวช้ำ ข้อเท้าเจ็บและแพลง ตนจึงได้บอกว่าจะพาไปหาหมอเพื่อที่จะพาไปเย็บแผล แต่ลูกไม่ยอมเพราะกลัวเข็ม เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยล้มศีรษะแตก และไปเย็บมาแล้ว
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน ตนกลัวว่าแผลลูกที่ศีษะจะโดนน้ำ จึงไปซื้อพลาสติกปิดแผลมาปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ ต่อมาช่วง 13.00 น. ทางบ้านพักเด็กและเยาวชนจังหวัดฉะเชิงเทรา โทรศัพท์มาหาตนบอกว่า ลูกถูกทำร้ายร่างกาย ตนยังตกใจว่าลูกถูกทำร้ายได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ลูกก็อยู่ห้อง และแจ้งว่าให้มาที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ในเวลา 15.00 น. เมื่อตนมาถึงก็พบว่าไม่เจอลูก และเจ้าหน้าที่แล้ว
ทั้งนี้ ตนจึงโทรศัพท์สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ และเจ้าหน้าที่ก็บอกกับตนเองว่า ถ้าไม่มีเวลาดูแลลูก ก็จะดูแลให้ก่อน เพราะตนก็ยังไม่สามารถลางานได้ และแจ้งว่าจะดูแลลูกให้ และช่วงหยุดเทศกาลปีใหม่ค่อยมาติดต่อรับน้องอีกครั้ง และต่อจากนี้ตนตั้งใจให้ลูกย้ายโรงเรียนในเดือน มี.ค.กลับไปภูมิลำเนา ที่จ.อ่างทอง และให้พี่สาวตนที่ดูแลตั้งแต่แรกเป็นคนดูแลต่อ
สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนยืนยันว่าไม่เคยตีรุนแรง จะตีก็เพียงใช้มือตีปกติ ถ้ารุนแรงลูกก็คงตายไปแล้ว ยืนยันว่าไม่เคยทำร้ายลูกมาก่อน พอตนเลิกงานมาก็ดึกแล้ว แต่คนรอบข้างชอบพูดว่าลูกตนซนและพาคนอื่นมาเล่นที่ห้อง ตนก็ยอมรับว่าถึงแม้จะมีบางครั้งที่ตนดุลูกเสียงดัง เรื่องเปิดน้ำทิ้งไว้ ส่วนเรื่องโทรทัศน์ตนไม่เคยห้าม ตนให้เปิดดูได้ตลอด เพราะลูกอยู่คนเดียวก็น่าจะเหงา ส่วนเรื่องที่มีคนเห็นลูกมีบาดแผลตลอด ยืนยันว่าเป็นเพราะเล่นซนกับแมว และถูกแมวข่วนเอง บางครั้งก็ล้มบ้างตามประสาเด็ก
นอกจากนี้ตนเคยมีปัญหากับคนข้างห้อง เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา เรื่องลูกชายนำแมวมาเลี้ยง และสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ๆ จึงทำให้มีปากเสียงกัน ส่วนเรื่องที่มีคนเห็นว่าเด็กชายเอ นอนถือมีดอยู่ในห้อง ตนยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เท่าที่เห็นลูกถือมีด ก็เพราะจะรับประทานแอปเปิล
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเด็กชายเอ ไม่เคยร้องอยากกลับไปหาแม่เลย โดยเด็กชายเอเรียกตนว่า “แม่มด” เมื่อมีคนนำตัวเด็กชายเอไปตนก็คิดถึงลูกเหมือนกัน แต่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า จะดูแลอย่างดี และพาเด็กชายเอไปทำแผลทุกวัน อยากบอกกับคนอื่น ๆ ที่เข้าใจผิดว่า ตนไม่เคยทำร้ายเด็กชายเอ ตนยังตกใจเมื่อได้ยินข่าว หากคนอื่น ๆ มีปัญหากับตนก็มาคุยกัน ไม่ใช่นำเรื่องตนไปพูดกันแบบนี้
