"ปรเมศวร์" ชี้ ถึงมีคลิปก้มเก็บหวย คดีก็ไม่พลิก - "ทนายครูปรีชา" อุบหลักฐานเด็ด เปิดให้ศาลดู (คลิป)

กรณีคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งล่าสุด ครูปรีชา ใคร่ครวญ ยืนยันว่ามีคลิปเด็ดที่สามารถพลิกคดีในครั้งนี้ได้ โดยก็มีการสันนิษฐานว่า คลิปดังกล่าวอาจเป็นภาพจากกล้องหน้ารถยนต์ในวันเกิดเหตุ ประกอบกับอดีตข้าราชการทหาร ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า อาจจะมีภาพจากกล้องหน้ารถยนต์ที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ บริเวณแผงขายลอตเตอรี่ในวันที่เกิดเหตุเอาไว้ได้ รวมถึงการพิสูจน์ลายมือ ที่เขียนตัวเลข 700 บนซองลอตเตอร์รี่ อาจจะมีผลต่อรูปคดี นั้น

โดยบรรยากาศที่ตลาดเรดซิตี้ พบว่า น.ส.รัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น และ นางปณัชญา สุขพูล หรือ เจ๊เกียว ได้มาตั้งแผงขายลอตเตอรี่ตามปกติ ซึ่ง เจ๊บ้าบิ่น ไม่ขอให้สัมภาษณ์ ระบุว่า ทนายขอให้งดให้ข้อมูล ส่วนที่ทนายษิทรา ไปยื่นฟ้องตนฐานเบิกความอันเป็นเท็จ ตนก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใด

ด้าน เจ๊เกียว กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบเรื่องคลิปเด็ดของครูปรีชา เพราะเป็นคนละส่วนกับเรื่องของตน โดยตนพร้อมที่จะเป็นพยานในคดีแพ่ง ช่วงเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ โดยตนไม่ต้องเตรียมตัวใดๆ เพราะจะพูดตามที่ตัวเองเห็นตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ส่วนจุดขายนมที่ ทนายษิทรา อ้างว่า เพิ่งมาเปลี่ยนจุดนั้น ตนไม่ขอตอบเพราะ อยู่ในสำนวนหมดแล้ว ทั้งยังถามกลับว่า ทนายษิทราเป็นใคร ถึงรู้ดี โดยคนที่ออกมาพูดคือตัวจริงทั้งหมด และที่บอกว่าการชี้จุดของ ร.ต.ท.จรูญ เป็นการชี้จุดกว้างๆ นั้น ตนอยากให้เจ้าตัวมาชี้จุดวันที่มีตลาด เช่นเดียวกับครูปรีชา เพราะจุดที่ชี้ไม่ใช่จุดที่ขายลอตเตอรี่ ส่วนที่ระบุว่า ที่จำแม่ค้าลอตเตอรี่ไม่ได้ เพราะปิดหน้าปิดตา เจ๊เกียวยืนยันว่าพวกตนเปิดหน้าตลอด มีนานๆ ครั้งเท่านั้นที่เจ๊บ้าบิ่นร้อน ก็อาจจะคลุมหน้าบ้าง นอกจากนี้ ก็จะมีเฉพาะแม่ค้าจากทางอิสานที่มักจะเดินขายโดยใช้ผ้าคลุมหน้า แต่แผงค้าที่ตั้งประจำยืนยันว่าไม่มีการคลุมใบหน้า ทั้งนี้ เจ๊เกียวกล่าวถึง กรณีที่ ทนายษิทรา พร้อมด้วย ร.ต.ท.จรูญ ยื่นฟ้องครูปรีชา เจ๊พัช และเจ๊บ้าบิ่น ในความผิดฐานร่วมกันเบิกความอันเป็นเท็จนั้น อยากถามว่าเอาอะไรมาพิสูจน์ว่าเป็นการเบิกความเท็จ เพราะลอตเตอรี่เป็นของเจ๊พัชจริง หลักฐานมีตามภาพถ่าย ศาลก็ยังไม่ตัดสิน ซึ่งถ้าแจ้งความพยานเพิ่ม ก็จะแจ้งความกลับทันที เพราะเป็นการกลั่นแกล้งทำให้พยานกลัว ซึ่งหากแจ้งความตน ตนก็จะแจ้งกลับทันทีเช่นเดียวกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าเหตุที่ตนยังไม่โดนคดี เพราะตนพูดตามความจริงตั้งแต่แรก และตอนนี้ก็ยังมั่นใจไม่ได้กังวลแต่อย่างใด

วันนี้ ( 21 เม.ย.) อาจาร์ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา พูดถึงกรณีการเขียนอักษรตัวเลข 700 บนซองลอตเตอรี่ ในคดีหวย 30 ล้านบาท ว่าหากเป็นลายมือของ "เจ๊พัช" ก็ไม่มีผลอะไรเพราะการเขียนตัวเลข 700 หรือเขียนแอบไว้มุมหนึ่งก็เป็นเรื่องประกอบอื่นๆ แต่สิ่งสำคัญคือการที่ต้องย้อนกลับไปดูว่า ลอตเตอรี่ฉบับนี้ตำรวจไม่ได้เอามาจาก ร.ต.ท.จรูญ แต่ได้มาจากกองสลาก ดังนั้น หากจะพิสูจน์ก็ได้แต่เพียงว่าใครขาย ใครเป็นคนเขียน แล้วเอามาเป็นหลักฐานว่ามีการขายเกินราคาเพียงเท่านั้น ส่วนกรณีที่พิสูจน์ได้ว่าลายมือนั้นเป็นของ เจ๊พัช ก็เพียงบอกได้ว่า สลากฉบับนี้เคยอยู่ในมือใคร แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าคนขายนั้นจะเป็น เจ๊เกียว หรือ เจ๊พัช ฉะนั้นการเขียนตัวเลข 700 ไม่มีผลทางคดีแน่นอน

ส่วนกรณี ถ้าหาก ร.ต.ท.จรูญ ชี้จุดซื้อหวยผิดจะมีผลต่อคดีอย่างไรนั้น อาจารย์ปรเมศวร์ บอกว่า วันที่ชี้จุดเป็นวันที่ห่างจากวันที่เกิดเหตุมากน้อยแค่ไหน กว่าจะมาชี้จุด กับวันที่เกิดเหตุต่างกันกี่วัน เช่นชื้อวันนี้ ผ่านไปกี่เดือนกว่าจะมาชี้จุด ดังนั้นการไปบอกจุดกับวันที่เกิดขึ้นจริง ก็จะมีความคาดเคลื่อนเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งก็อาจจะเกิดขึ้นสำหรับคนที่มีอายุมากทั้งนี้ การชี้จุดผิดแล้วจะทำให้คดีพลิกนั้น เป็นไปได้ยาก

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวยังถามถึงกรณีที่มีการเจรจา เรื่องแบ่งเงินหาย 30 ล้านบาท โดยมีการเจรจาโดยใช้คำพูดว่า "วินวิน" จะมีผลต่อคดีหรือไม่ อาจารย์ปรเมศวร์ กล่าวว่า เท่าที่ได้ติดตามข่าวก็ทราบว่ามีการพูดถึงส่วนแบ่ง และอยากให้คดีจบจริง แต่ส่วนตัวมองว่าคนที่ออกมาพูดว่าแบ่งกัน จะเป็นผลเสียต่อคนที่พูดมากกว่า สังคมไม่เชื่อกับพฤติกรรมนั้น เพราะคนที่เป็นเจ้าของก็คงจะไม่ยอมให้มีการแบ่งเงินที่ได้มาอย่างแน่นอน ฉะนั้นคนที่ออกมาพูดก็คงกลัวว่าจะไม่ได้เงิน จึงอยากให้จบโดยการแบ่งกัน จะได้ "วินวิน" ทั้ง 2 ฝ่าย นั้นเอง อีกทั้งประเด็นเรื่องส่วนแบ่ง ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ศาลจะใช่ในการพิจารณา ไม่ใช่เป็นประเด็นชี้ขาดทั้งหมด ซึ่งศาลอาจจะนำเอาเรื่องส่วนแบ่ง ไปรวมพิจารณากับประเด็นอื่นๆนับ 10 เรื่อง หรืออาจจะใช้หรือไม่ใช่ก็ได้

ส่วนกรณี คลิปวิดีโอที่ว่าอ้างว่าเห็นคนก้มเก็บหวยนั้น หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกมาเปิดเผย ว่ามีคนก้มเก็บหวยจริง จะมีผลต่อคดีหรือไม่อย่างไร อาจารย์ปรเมศวร์ บอกว่า ถ้าคลิปนั้นยืนยันว่ามีคนก้มเก็บหวยจริง และกำลังเก็บฉลากหมายเลข 726 คดีนี้พลิกแน่ ตนรับรอง

แต่ปัญหาคือ คลิปวิดีโอนั้นจะมองเห็นพฤติกรรม ลักษณะของคนเก็บหรือไม่ และสิ่งที่เก็บได้นั้นมีความชัดเจนแค่ไหน ดังนั้นคนเก็บไม่สำคัญ แต่สิ่งที่เก็บมากกว่าที่จะยืนยันว่าคือสลากเป็นหมายเลขอะไร และถ้ามีมุมกล้องที่เห็นชัดว่า มีการเขียน 700 ติดไว้ก็จะดีกว่านี้ แต่กรณีมีคลิปการก้มเก็บหรือมองเห็นไม่ชัด อาจารย์ปรเมศวร์ บอกว่า ตามกฏหมายจะใช้เป็นหลักฐานไม่ได้ เพราะตามภาษากฏหมาย เรียกว่า หลักฐานเลื่อนลอย

ทีมข่าวเดินทางมาพบ น.ส.กมลพร หวังเจริญ ผู้จัดการทั่วไป ร้านพรีเมียม สโตล์ ร้านจำหน่ายและติดตั้งกล้องหน้ารถยนต์ ให้ข้อมูลเรื่องกล้องติดรถยนต์ว่า โดยปกติแล้วกล้องติดรถยนต์ จะมีทั้งติดด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง ซึ่งแล้วแต่การใช้งานตามประเภท ระดับความละเอียดของภาพ มีตั้งแต่ 1. VGA ขนาดภาพ 640*720 พิกเซล จะเห็นภาพเพียงแค่เก็บเหตุการณ์ แต่ความละเอียดน้อยมาก 2. HD ขนาดภาพ 1280*720 พิกเซล 3. Full HD ขนาดภาพ 1920*1080 พิกเซล สามารถเก็บรายละเอียดเหตุการณ์ได้ชัดเจนในระยะ 2-3 เมตร 4. กล้อง 2K ขนาดภาพ 2048*1080 พิกเซล ความละเอียดค่อนข้างสูง ซึ่งมีขายในท้องตลาดได้ไม่นาน ทั้งนี้กล้องรถยนต์ที่คนนิยมใช้ มักเป็นการติดตั้งกล้องหน้ารถประเภท Full HD ระยะที่ระบุได้เลยว่าเป็นใคร เห็นทะเบียนรถชัดเจน มาตรฐานก็จะเก็บภาพละเอียดในระยะประมาณ 3 เมตร แต่หากไกลกว่านั้น ก็จะเห็นเพียงเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่อาจจะระบุไม่ได้ว่าเป็นใคร ทั้งนี้หากกล้องราคาแพงและมีเลนที่ดี คุณภาพก็อาจเก็บรายละเอียดได้ราว 5 เมตร มุมภาพที่เก็บได้ 140 องศา

นอกจากนี้ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของกล้องหน้ารถยนต์ที่ติดตั้งด้วย ซึ่งในท้องตลาดจะแบ่งกล้องออกเป็น 2 ประเภท คือ กล้องที่เก็บภาพได้ขณะขับรถยนต์ ที่เริ่มจับภาพตั้งแต่เริ่มเครื่องยนต์จนถึงดับเครื่อง ซึ่งเป็นที่นิยมในท้องตลาด  และอีกประเภทคือ กล้องที่เก็บภาพได้ขณะจอดรถด้วย แม้ไม่มีคนอยู่บนรถหรือดับเครื่องยนต์ไว้ กล้องก็สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ตลอดเวลา ส่วนเรื่องการเก็บเสียงของกล้อง จะสามารถเก็บได้เพียงในรถยนต์เท่านั้น โอกาสที่จะเก็บเสียงนอกรถได้ เสียงนั้นต้องดังเป็นอย่างมาก เช่น รถชนกัน

ด้าน นายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความครูปรีชา เปิดเผยว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่งตนยืนยันว่ามีพยานหลักฐาน ที่จะนำไปเปิดในศาล โดยไม่ขอตอบว่าหลักฐานดังกล่าวเป็นคลิปวิดีโอหรือไม่ ส่วนจุดที่ตั้งแผงลอตเตอรี่ที่อีกฝ่าย กล่าวอ้างว่า ตั้งตลอดแนวทั้งศาลพระพรหมและศาลพระภูมิ ก็เป็นข้อโต้แย้งของอีกฝ่ายที่มีสิทธิ์จะพูดได้ ซึ่งตนก็เคยลงพื้นที่ไปดูจุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะรับทำคดี และยังเชื่อมั่นในส่วนของตัวเอง นอกจากนี้เรื่องที่ อีกฝ่ายนำคลิปที่ครูปรีชา ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นคนพูดเรื่องแบ่งเงินกัน วิน-วิน ในวันที่ 28 พ.ย. 2560 นั้น ก็ต้องไปว่ากันในศาล เมื่อมีหลักฐานก็นำไปให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน เพราะส่วนนี้ตนก็รับฟังมาจากลูกความบางส่วน และได้ตรวจสอบด้วยตัวเองด้วยบางส่วน โดยคิดว่า คลิปดังกล่าวไม่ได้มีผลใดๆ

ส่วนที่ทนายษิทรา ยื่นฟ้องครูปรีชา และพยาน ตนเชื่อว่านักกฏหมายทุกคนทราบดีว่า เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ ทั้งนี้ ทนายวรยุทธ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ตนเตรียมการด้านคดีอาญาอยู่ โดยได้พูดคุยกับครูปรีชาตลอด ซึ่งเจ้าตัวก็อารมณ์ดี และรู้สึกสบายใจพร้อมที่จะไปขึ้นศาล