กรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้พาน.ส.แนน (นามสมมติ) อายุ 34 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ หลังจากที่ น.ส.แนนได้ถูกตำรวจยศนายดาบ ซึ่งประจำอยู่ตู้ยามจุดสกัดแห่งหนึ่ง ภายในซอยวัดบางด่วน จับกุมในข้อหามียาบ้าไว้ในความครอบครอง จำนวน 2 เม็ด
จากนั้นได้ขอร่วมหลับนอนด้วย เพื่อแลกกับอิสรภาพ แต่น.ส.แนนไม่ยอมจึงถูกเรียกเงินจำนวน 5 หมื่นบาท เพื่อแลกอิสรภาพแทน แถมบังคับให้หาเพื่อนสาวมาร่วมหลับนอนแทนนั้น
ล่าสุดวันที่ 18 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับน.ส.แนน (นามสมมติ) ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 11 พ.ย.63 ตนได้ขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ที่บริเวณซอยปลาป่น ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จู่ ๆ ก็มีรถสายตรวจ 1 คัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย และมีรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าเวฟ 1 คัน ขับมาพร้อมกับตำรวจ มีผู้ชาย 2 คน ซึ่งเป็นอาสาตำรวจ และได้ขับมาประกบรถของตนให้จอด แต่ตนไม่จอด ประมาณ 500 เมตร เขาได้ขับปาดหน้าและเข้าตรวจค้นตน แต่ตรวจค้นตนเบื้องต้น ก็ไม่เจอสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
จากนั้นตำรวจนายหนึ่ง จึงพูดขึ้นมาว่า ให้นำตัวตนไปตรวจค้นต่อที่ตู้ยามจุดสกัดแห่งหนึ่ง ภายในซอยวัดบางด่วน กระทั่งตนได้ไปที่ป้อมยามวัดบางด่วน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ตนถอดเสื้อในออก และมียาเสพติด (ยาบ้า) หล่นออกมาจากเสื้อในตนจำนวน 2 เม็ด ซึ่งตอนที่ตรวจค้นในป้อม ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย และอาสาตำรวจ 2 คน ยืนอยู่ในป้อมด้วย
จากนั้นตนเองจึงบอกว่า ตนต้องทำอย่างไรต่อ และบอกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตนด้วย ตนไม่อยากติดคุก เพราะตนเพิ่งจะพ้นโทษข้อหาเสพยาเสพติดออกมา จากนั้นดาบตำรวจได้พูดกับตนว่า ถ้าอยากให้ช่วย ช่วยไปหลับนอนกับพี่ได้หรือไม่ ตนจึงตอบว่า "ไม่ขอเอาด้วย" และไม่ขอตอบรับข้อเสนอนี้ ทำให้ตำรวจนายดังกล่าวถามตนต่อว่า แล้วตนมีเพื่อนผู้หญิงหรือไม่ ซึ่งเขาจะให้ตนหาเพื่อผู้หญิงมาให้ แต่ตนก็บอกกับตำรวจว่า ตนไม่มีเพื่อน และไม่ค่อยได้ติดต่อกับใคร
โดยดาบตำรวจคนดังกล่าวได้บอกกับตนว่า "ถ้าไม่ได้มึงก็ไปหาเงินมาให้กูแล้วกัน" หลังจากนั้นประมาณ 3 ชั่วโมง ดาบตำรวจรายนี้ ได้บอกจำนวนเงิน จำนวน 50,000 บาท ซึ่งถ้าตนหาเงินให้เขาไม่ได้ ตนก็จะถูกจับดำเนินคดี หลังจากนั้นตนจึงได้ติดต่อญาติ และญาติก็พากันหาเงินมาให้ตำรวจนายนี้ เป็นเงินจำนวน 25,000 บาท ซึ่งตนไม่รู้ว่าญาติไปหาเงินมาด้วยวิธีไหน และตำรวจก็ปล่อยตนกลับบ้าน
ทั้งนี้ตนยอมรับว่าตอนนั้นตนไม่มีทางเลือก ถ้าตนไม่หาเงินมาให้เขา ตนก็ถูกจับเข้าคุก หรือไม่ตนก็ต้องไปนอนกับเขา สำหรับนายตำรวจที่ขอหลับนอนกับตนนั้น มีแค่คนเดียว คือดาบตำรวจที่ถูกจับกุมเท่านั้น ส่วนอีกคนที่ไปด้วย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หลังจากเกิดเหตุช่วงเดือน พ.ย.63 นายตำรวจคนนี้ เขาก็ยังชอบขับรถสายตรวจมาแถวหน้าบ้านตนวันละประมาณ 3-5 รอบ ซึ่งบ้านของตนเป็นพื้นที่รับผิดชอบของเขตสำโรงใต้ คนละพื้นที่กับที่เขาทำงาน ตนก็ไม่แน่ใจว่าเขาทำแบบนั้นเพื่ออะไร
เมื่อวานนี้ตนก็ได้เจอกับตำรวจนายดังกล่าว ตอนที่ดาบตำรวจนายดังกล่าวถูกคุมตัว เขาก็ยังพูดกับตนอีกว่า ให้ตนหาเพื่อนให้เขาหน่อย เพื่อให้ไปหลับนอนกับเขา ตนรู้สึกดีใจที่ตำรวจนายดังกล่าวถูกดำเนินคดี เพราะที่ผ่านมาไม่มีผู้เสียหายคนไหน กล้าเรียกร้อง ตนถึงต้องทำเป็นตัวอย่าง เพราะที่ผ่านมาตนก็ได้ยินข่าวมาตลอดว่า ตกเย็นมานายตำรวจรายนี้ จะจับผู้เสียหายไปในป้อมทุกวัน ถ้าเป็นผู้ชายเขาอาจเรียกเงิน เพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดี แต่ถ้าเป็นผู้หญิงก็ขอหลับนอนเหมือนกับตนก็ได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็คิดว่าตำรวจนายนี้ เขาดูถูกผู้หญิงเกินไป และเขาไม่มีความตรงไปตรงมาในการทำงาน
พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สมุทรปราการ ระบุว่า "พฤติกรรมตำรวจ ไม่ได้เป็นไปตามคำพูดของผู้เสียหายทั้งหมด แต่ก็ใกล้เคียง"
น.ส.จิน เเม่ค้าขายเสื้อผ้า และเป็นนายจ้าง น.ส.แนน เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุวันที่ 11 พ.ย.63 เวลา 16.00 น. น.ส.เเนนได้ติดต่อมาหาตน บอกว่าถูกตำรวจจับ มีการเรียกเงิน 50,000 บาท ซึ่งตนก็ไม่มีเงิน เเต่ด้วยความสงสาร ประกอบกับที่เป็นนายจ้าง จึงได้นำรถยนต์ไปจำนำในเวลา 23.00 น. ได้เงินมา 30,000 บาท เเล้วให้ น.ส.เเนน ต่อรองกับตำรวจจนเหลือ 25,000 บาท จากนั้นเวลา 00.00 น. ได้เอาเงินไปให้ตำรวจที่ป้อมจุดเกิดเหตุ ซึ่งตอนนั้นมีตำรวจอยู่ในป้อม 4-5 คน
จากพฤติกรรมของตำรวจกลุ่มนี้ เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม รีดไถกันเกินไป ดังนั้นจึงอยากให้ถูกดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เเละอยากให้ย้ายออกจากพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะมีการข่มขู่พยาน ทั้งนี้น.ส.เเนน มาทำงานเป็นลูกจ้างตนได้ 4 เดือนเเล้ว เป็นคนนิสัยดี ขยันทำงาน ส่วนในเรื่องประวัติ ตนทราบว่า น.ส.เเนน เคยถูกดำเนินคดีในเรื่องยาเสพติด เเต่ตนก็ให้โอกาสเพราะสงสาร
