เปิดปมในใจ "หยวน ดราก้อนไฟว์" ขาดความอบอุ่นจากครอบครัว

15 ธ.ค. 63

หนุ่มหล่อกล้ามโต อดีตสมาชิกวงบอยแบนด์ชื่อดัง DRAGON 5 "หยวน กวินรัฏฐ์" มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เปิดใจที่มาของความหล่อล่ำนี้ว่า ที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะไม่อยากให้คุณแม่เสียใจ อยากมีสุขภาพแข็งแรงไว้ดูแลคนรอบข้าง พร้อมเผยอีกมุมหนึ่งของชีวิต กับการเป็นสายบุญเจอปาฏิหาริย์มานับครั้งไม่ถ้วน รวมถึงการปฏิบัติธรรม ทำให้เจอปมในใจที่ทำให้กลายเป็นคนช่วยเหลือคนอื่นมากเกินพอดี เพราะขาดความอบอุ่นจากครอบครัว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "พรฟ้า ปุณิกา" ปิดเส้นทางประกวดนางงาม 8 ปี อยากผลิตนางงามคุณภาพสู่เวทีโลก!
- "แจง วราพรรณ" ใช้ธรรมะเยียวยาใจ ต่อสู้มะเร็งเต้านมกว่า 5 ปี
- "แอริน ยุกตะทัต" สัมผัสลี้ลับแรง โดนทักมีผีตามขี่คอไม่ยอมปล่อย!
- "แม่ขวัญจิต" เผยเคยถูกแฟนเพลงเข้าใจผิด คิดว่าเป็นเมียของ "พ่อไวพจน์"
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่     

s__65807440

ถาม ตั้งปณิธานไว้ว่าจะไม่มีวันไม่มีกล้าม

หยวน จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรขนาดนั้น แต่เราต้องแข็งแรง มันเกิดจากที่เราเป็นคนที่ไม่ป่วยเลย แล้ววันหนึ่งเราป่วย นอนอยู่ในห้อง คุณแม่ขึ้นมาดูแลเรา แล้วท่านร้องไห้ ที่ท่านร้องไห้เพราะเราไม่เคยป่วย ท่านเลยตกใจ พอเราเห็นแม่ของเราเป็นแบบนั้น เราเลยตั้งปณิธานเลยว่า ต่อไปนี้เราจะดูแลรักษาสุขภาพให้ดีที่สุด ให้แข็งแรงที่สุด อย่างน้อยที่สุด เราจะได้มีแรงไปดูแลคนที่เรารักได้


ถาม ไม่เคยถ่ายรูปอวดกล้ามเหมือนคนอื่นๆ บ้างเลย

หยวน : เรารู้สึกว่าการที่เราจะหยิบกล้องขึ้นมาแล้วถ่ายเซลฟี่ตัวเอง เราทำไม่ได้เลยจริงๆ เพราะเราไม่ชินกับแบบนี้ ขนาดแฟนคลับ ส่งข้อความมาเยอะมากว่าให้เราลงรูป สุดท้ายเราก็ต้องทำตามคำที่เขาขอร้อง แต่รูปที่ออกมาคือเราต้องใส่หัวหมี (หัวเราะ) มันไม่ได้มันเขิน

s__65807443

ถาม แต่ถ้าเรา 3 คน จ้างหยวนถ่ายได้ไหม

หยวน :  ได้ (หัวเราะ) ไม่ใช่เพราะเรื่องเงินนะครับ ถ้ามีคนขอเราถ่าย จุดเริ่มต้นไม่ได้มาจากตัวเอง เราจะทำ หรือมันมีประโยชน์ เราทำให้ได้หมดเลย


ถาม หยวน dragon 5 เป็นวงบอยแบนด์วงแรกของไทยที่โกอินเตอร์ ร้องเพลงเป็นภาษาจีน พูดภาษาจีนได้อยู่แล้วใช่ไหม

หยวน : พูดไม่ได้เลยครับ ผมจะบอกว่าวงดราก้อนไฟว์ สร้างความมหัศจรรย์ให้กับผมเยอะมาก เราไปร้องเพลงที่ไต้หวัน ไม่มีใครพูดภาษาจีนได้เลยสักคน ทางค่ายเลยส่งครูสอนภาษาจีนมาสอนให้ แต่ไม่รู้ครูเขาถูกชะตาอะไรกับผม มีอะไรก็จะให้เพื่อนมาถามเรา เราเลยกลายเป็นเทพภาษาจีนไปเลย ตอนนี้เลยพูดได้ ก็มีงานจ้างไปเป็นพิธีกรต่างประเทศ แต่ภาษาที่ใช้ก็ยังไม่เหมือนกัน เพราะภาษาที่เราใช้ในชีวิตปกติกับทางการมันไม่เหมือนกัน

s__65807441

ถาม แต่ก็เกือบไม่ได้เข้าวงการ เพราะไปต่อยกับแมวมอง

หยวน : ตอนนั้นจำได้เลยว่าอยู่สยาม สยามเป็นที่ที่เขาจะมาดูเลยว่าคนไหนโดนเด่น เมื่อก่อนเราเป็นคนแต่งตัวเปรี้ยวมาก เดินๆ อยู่เรารู้สึกว่าเหมือนมีคนตามเรา ก็เดินตัดซอยเลย เขาก็เดินตามเรามา 5 ซอย เราเดินมาถึงซอย 1 คิดว่าถ้ายังตามมา เราต่อยแน่ๆ แล้วพอเดินมาถึงซอย 1 ตามมาจริงๆ เราหันมา กำหมัดจะต่อยแล้ว พี่เขาร้องขึ้นมาเลยว่า อย่าต่อยๆ พี่เป็นแมวมอง พี่เป็นสไตล์ลิสต์ แล้วเป็นสไตล์ลิสต์ของแพรว คือหม่อมแม่ พี่หนุ่ม อภิวัฒน์ ตอนนั้นเราเลยให้คุยกับแม่ ให้เบอร์โทรที่บ้านไป พี่หนุ่มก็โทรไปคุย แต่บ้านเราเป็นคนจีน ซึ่งคนจีนก็ไม่ให้เลย แต่พี่หนุ่มก็ตื๊อตั้งแต่ 13 -14 ได้ไปประกวด 4 - 5 ปี หลังจากนั้น ก็ติด 1 ใน 5 ของหนุ่มแพรวครับ


ถาม พี่หนุ่ม เป็นแมวมองในด้านการประกวด แต่แมวมองในด้านของการเป็นนักร้อง ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ก็คือ พี่ฉอด นั่นเอง พี่ฉอดมาเห็นแววการเป็นนักร้องของ หยวน ได้ยังไง

หยวน เป็นนายแบบ ไปเดินที่ร้านคลื่นแทรกสาขาแรกของพี่ไก่ สมพล พี่ฉอดบอกว่าเดี๋ยวเราจะรวมหลายๆ อาชีพ มาทำโชว์วันนั้นเขาเรียกว่าวันแมนโชว์ มีพี่ๆ แซน พนมกร นักแสดงจากเรื่องนั้น เรื่องนี้ เราก็มาเป็นตัวแทนของนายแบบ แล้วก็ไปซ้อมเต้นกับเขาเย็นนี้ แล้วพรุ่งนี้โชว์เลยแล้ว ปรากฏว่าเราทำได้ดีมาก พี่ฉอดเลยบอกว่าแกได้น ะเดี๋ยวจะพาไปฝากกับพี่เล็ก พี่ฉอดน่ารักมากที่พาเราไปฝากกับพี่เล็ก รู้สึกขอบคุณพี่ฉอดมากๆ ด้วยนะครับ

หยวน : และในชีวิตเราก็รู้สึกดีใจมากที่ได้ร้องเพลงเวทีเดียวกับ BRIAN MCKNIGHT มันเป็นอะไรที่สุดๆ ในชีวิตของเราแล้ว การเป็นนักร้อง ทำให้เรามีประสบการณ์ชีวิตที่ดีๆ ต้องขอบคุณพี่ฉอดมากๆ ครับ


ถาม จากคนที่เป็นวัยรุ่นขั้นสุด ทั้งเต้น ทั้งแดนซ์ แล้วอยู่ดีๆ เข้าสู่สายธรรมะ

หยวน : ถ้าเป็นเรื่องของการทำบุญ ชอบทำบุญอยู่แล้วตั้งแต่เด็กๆ ชอบทุ่มเทให้กับคนอื่นๆ เราขึ้นรถเมล์และต้องยืนตลอดไม่นั่ง เพราะว่าคุณแม่ฝึกเรา ตอนนั้นเราเรียนที่อัสสัมชัญ ฝึกให้เรานั่งรถเมล์ เราเห็นเก้าอี้รถเมล์โล่ง เราก็ไม่นั่ง กระเป๋ารถเมล์เขาก็ถามเราว่าทำไมไม่นั่ง เราก็บอกว่าเก้าอี้ที่ว่าง เดี๋ยวก็มีคนมานั่งครับ เขาก็งงกับคำตอบเรา


ถาม แต่สิ่งที่ทำให้เราเข้าไปสายธรรมะอย่างจริงจัง คือการที่เราเข้าไปปฏิบัติธรรม ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปยังไงบ้าง

หยวน : เราทำงานสายบันเทิง เวลาพี่ช่างหน้า ช่างผม เขาก็ชวนเราว่าหยวนไปไหม ไปปฏิบัติธรรม เราก็ปฏิเสธว่าไม่ๆ ผมสายทำบุญพอแล้วครับ แล้วเขาก็ชวนเราเรื่อยๆ ตอนนั้นพี่กิ๊ก มยุริญ ชวนเราตลอด จนเราแบบไปก็ไป ที่เราไปตอนนั้น เพราะว่ามีเพื่อนไปครั้งแรก 8 วัน 7 คืนเลย ปิดวาจา ถือศีลแปด เดินจงกรม นั่งสมาธิแบบนี้ทั้งวัน ทำไปเรื่อยๆ อยากจะบอกทุกคนว่าการปฏิบัติธรรมมันดีมากเลยนะครับ อยากจะนำมาบอกทุกคน เมื่อเราปฏิบัติธรรมแล้ว ต้องเอามาใช้ เพราะมันเกิดกับตัวผม ทำให้เรารู้ตัวเราว่าทำไมเราชอบเสียสละให้คนอื่น ชอบช่วยคนอื่นแบบมากเกินไป จนคนสงสัยว่า หยวนมันเป็นอะไร ทำไมมันต้องเป็นคนดีขนาดนี้ ทำไมมันต้องทำอะไรขนาดนี้ รักล้น ทุ่มเทล้น การปฏิบัติธรรมตอบโจทย์ในใจเรา เหมือนดำน้ำลงไปเจอตอนึงในใจว่าหยวนขาดความอบอุ่นจากครอบครัว เจอแล้วมันเหมือนระเบิดเลย ทำให้เรารู้แล้วว่าทำไมเราเป็นคนแบบนี้ จากวันนั้นเราเติมใจตัวเองให้เต็ม เราไม่ต้องมีแฟนเพื่อให้ใครมาเติมความรัก ไม่ต้องให้คนโน้น คนนี้ มาทำอะไรให้เรา เราเติมเองให้ตัวเองก่อนเลย

หยวน : การปฏิบัติธรรมช่วยได้ เราพยายามที่จะค้นหาเหตุผลไปเรื่อยๆ ถามกับตัวเองไปทีละข้อ พอจิตของเรามีสมาธิมาก เหมือนน้ำที่มันนิ่ง ทำให้เรานึกถึงตัวเองว่าทำไมหยวนถึงยอมเจ็บขนาดนี้ ยอมให้เขาดูถูก ยอมให้เขาด่า ให้เขาทำทุกอย่างเลย ตัวเองมีเงินอยู่เท่าไหร่ในกระเป๋าให้คนอื่นหมดเลย ตัวเองไม่มีกินไม่เป็นไร หยวนเป็นคนที่มีเงินในกระเป๋าไม่ได้เลย มีเท่าไหร่แจกหมด แต่พอเรารู้ว่าปัญหาเป็นเพราะอะไร เราก็อิ่มใจ เพราะหลายๆ ครั้งเราเฮิร์ตปัญหาจากเพื่อน แอบชอบคนโน้นคนนี้ เราก็จะไม่ให้เขารู้ตัวเพราะเรากลัวจะเสียความรักแบบนี้ไป แล้วมีอยู่ครั้งหนึ่งมีเครื่องดื่มชูกำลังจ้างเรานำของไปให้น้องพิการซ้ำซ้อน เรานั่งอยู่คนเดียวบนเวที เห็นทุกสื่งทุกอย่างมันชัดเจนมากเลย เราเป็นคนที่แข็งแรงมากเลย แต่จิตใจของเราอ่อนแอมาก ในทางตรงกันข้ามคนที่เขานั่งอยู่ข้างๆ เรา ร่างกายเขาไม่ได้แข็งแรงเลย แต่จิตใจของพวกเขาแข็งแรงมาก เพราะฉะนั้น เราควรดูแลจิตใจของเราให้แข็งแรงเหมือนวันนั้น แทนที่เราไปให้กำลังใจเขา เขากลับมาให้กำลังใจเราทำให้มุมมองของโลกเรากว้างขึ้น ตื่นขึ้นมาตอนเช้าสิ่งแรกที่ทำคือทำบุญทุกวัน แต่เราไม่ค่อยโพสต์ เราจะโพสต์เฉพาะบุญที่ยิ่งใหญ่

s__65807444

ถาม โดยเฉพาะหลวงปู่ทวด เห็นบอกว่าเคยเจอเรื่องที่รู้สึกว่าจะเรียกว่าพิเศษจากหลวงปู่ทวด

หยวน ไปบูชาหลวงปู่ทวดที่วัดช้างให้มา หยวนขับรถตอนนั้นค่อนข้างจะเร็ว 200 เมื่อก่อนนะครับ เป็นคนขับรถเร็ว เราเจอรถติดปั๊บ ผมกดต่อ แล้วไปถึงตรงเมืองทองพอดี อยู่เลนซ้ายสุด พอโค้งมา เราเจอรถสิบล้อ ตอนนั้นเราขับรถไปด้วย สวดมนต์ไปด้วย จิตเรานิ่งๆ เลย แต่จังหวะที่เราตบออก มีรถโตโยต้าขับมาอยู่ข้างๆ ถ้าเราเลี้ยวออกไปคืออัดแน่นอน แต่ตอนนั้นจิตเรานิ่งมาก พอนิ่งมากคือเห็นทุกอย่างหมดเลย สิบล้อมีขนอะไรบ้าง ตอนนั้นคิดอยู่แล้วว่าชนแน่ๆ แต่พอเรากระพริบตาแล้วหันมาดูด้านข้างรถโตโยต้าหายไปอยู่ด้านหลัง สิบล้อไปอยู่ด้านซ้ายรถเราเหมือนหายมาอยู่ข้างหน้าได้ เราก็คิดตอนนั้นว่าเราหายมาได้ยังไง ตอนนั้นมองไปข้างหน้ามีอยู่อย่างเดียวเลย หลวงปู่ทวด กราบหลวงปู่เลย แต่ครั้งนั้นก็ทำให้เราขับรถไม่รีบอีกต่อไปเลย

หยวน : สิ่งหนึ่งที่หยวนอยากจะบอกเลยนะครับ อย่าตัดสินใครด้วยบรรทัดฐานของเรา ผมรู้สึกว่าเปิดโอกาสให้ทุกคนมีอิสระทางความคิดให้ทุกคนได้ทำอะไรอย่างเต็มที่ อยากให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ หยวนรู้สึกว่าความสวยงามของชีวิต คือการที่เราได้เรียนรู้ถึงความแตกต่างและสิ่งที่สำคัญที่สุดคือรักยังไงคือรักให้เป็น รักให้เป็นคือรักที่ไม่เห็นแก่ตัว รู้จักรักตัวเอง ถ้าเรารักตัวเองเป็นสิ่งเหล่านี้เราสามารถเอาไปใช้ดูแลคนอื่นได้อีกด้วย

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส