กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “หน่วยช่วยเหลือ นักท่องเที่ยวภูทับเบิก” โพสต์คลิปวิดีโอ เหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นนับ 10 คน รุมทำร้ายชายวัยรุ่นซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของรีสอร์ตบนภูทับเบิก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ พยายามห้ามปราม และยังมีแม่ของวัยรุ่นรายนี้พยายามช่วยเหลือ โดยคว้าไม้กวาดไล่ตีนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้
หลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ทำให้กระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัด เนื่องจากจังหวัดเพชรบูรณ์เริ่มผ่อนคลายล็อกดาวน์ให้โรงแรมรีสอร์ตต่าง ๆ เปิดดำเนินกิจการได้ และล่าสุดมีรายงานว่าบนเฟซบุ๊กดังกล่าวได้ลบโพสต์และคลิปวีดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวไปแล้ว
ล่าสุดวันที่ 7 มิ.ย.63 นายเส็ง แซ่เถา อายุ 46 ปี เจ้าของรีสอร์ต บอกว่า ช่วงค่ำของเมื่อวานลูกชาย คือนายสุรศักดิ์ แซ่เถา ได้ออกบ้านหาเพื่อน กระทั่งดึกไม่กลับมาตนจึงเข้านอน กระทั่งตกใจตื่นในเวลาตี 1 กว่า ๆ เมื่อได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวก จึงออกมาดูก็พบว่าลูกชายมีอาการเมาเหล้าเข้ามาในบ้านบอกว่ามีเรื่องทะเลาะกันจะเอามีดไปแทงคู่กรณี คนในครอบครัวช่วยกันห้ามปรามไว้ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงวัยรุ่นกลุ่มใหญ่วิ่งไล่ตามมาที่หน้าบ้าน พร้อมทั้งใช้ก้อนหิน ไม้ เตาอั้งโล่ ขว้างทุ่มเข้ามาในบ้าน จนทำให้กระจกประตูแตก จึงได้โทรแจ้งตำรวจให้มาช่วย
ช่วงที่ตำรวจมาถึงบ้านแจ้งว่าลูกชายไปก่อเหตุทะเลาะวิวาท รวมทั้งออกจากบ้านในช่วงเวลาเคอร์ฟิวส์ ตนจึงเปิดประตูบ้านให้ตำรวจเข้ามาเพื่อควบคุมตัวลูกชายไปโรงพัก แต่จู่ ๆ กลุ่มวัยรุ่นนับสิบคนได้กรูกันเข้ามาในบ้าน พร้อมทั้งรุมทำร้ายลูกชาย ต่อหน้าตำรวจและได้รุมทำร้ายจนลูกชายสลบ จากนั้นตำรวจนำตัวลูกชายไปดำเนินคดีที่สภ.หล่มเก่า โดยเจรจาจ่ายค่าเสียหายที่ลูกชายไปทุบรถกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวแล้วจำนวน 2,500 บาท
นายเปรมชัย ม่วงชุ่ม กลุ่มนักท่องเที่ยวคู่กรณี ยืนยันพวกตนไม่ได้เปิดเพลงเสียงดัง จนทำให้เจ้าของรีสอร์ตมาเตือน และทะเลาะกับลูกชายเจ้าของรีสอร์ต สาเหตุเกิดจากช่วงกลางดึกวันที่ 6 เข้าสู่วันที่ 7 มิ.ย. ตนและเพื่อน ๆ 6 คน เดินทางไปเที่ยวภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ โดยก่อนที่จะขับรถเข้าที่พักได้แวะกินหมูกระทะอยู่ร้านค้าร้านหนึ่ง ที่อยู่บนภูทับเบิก ระหว่างรับประทานอาหารมีผู้ชายสองคนนั่งดื่มเหล้าอยู่ในร้านเดียวกันกับตน
สักพักหนึ่งชายสองคนนั้นยื่นแก้วมาขอชน จึงตอบกลับชายทั้งสองคนนั้นว่า “ผมไม่ดื่มเหล้าครับพี่ ผมต้องขับรถ” จากนั้นชายคนดังกล่าวยกโทรศัพท์ขึ้นโทรหาเพื่อนบอกว่า “มีเรื่องว่ะ” จากนั้นชายทั้งสองเช็คบิลและขับรถออกไปจากร้านหมูกระทะ ระหว่างที่ทานหมูกระทะเสร็จ ก็เจอกับชายทั้งสองคนอีก ก่อนจะปฏิเสธไปแบบเดิมพร้อมกับจะเดินจากไป จังหวะหันหลังมีขวดเบียร์ 1 ขวด ลอยมาตกที่ด้านหลัง จากนั้นขวดเบียร์ขวดที่ 2 ลอยมาตกใส่ขาจนขวดเบียร์แตก ก่อนจะเดินกลับไปเคลียร์ด้วยการขอโทษและยกมือไหว้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่อีกฝ่ายอ้างว่า “กูเป็นลูกเจ้าของรีสอร์ต กูไม่กลัวใครทั้งนั้น ที่นี่พ่อกูครอง” ก่อนจะแยกย้ายกันไป
จากนั้นจึงตัดปัญหาโดยการไปพักรีสอร์ตที่ใหม่ แต่ระหว่างเดินทางเจ้าของรีสอร์ตที่จองไว้ โทรมาบอกให้กลับไปพักที่รีสอร์ตของเขาเหมือนเดิม เนื่องจากได้แจ้งตำรวจมาดูแลความปลอดภัยแล้ว เพื่อป้องกันให้พวกตนไม่ต้องกลัวว่าจะมีปัญหากับลูกชายเจ้าของรีสอร์ต ขณะที่พวกตนกลับไปพักที่รีสอร์ตเดิมเจอชายทั้งสามคนมาพร้อมอาวุธ คนแรกถือมีด คนที่สองถือขวดเบียร์ในมือ และคนที่สามถือไม้เบสบอล โดยคนที่ถือไม้เบสบอลเป็นลูกชายเจ้าของรีสอร์ต ได้เดินเข้ามาหาตนเอง และถามตนว่า "มึงไม่จบหรอ" จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ใช้ไม้เบสบอลจะตีตนเอง แต่มีเพื่อนของผู้ก่อเหตุมาผลักไม้ออกก่อน จนไม้เบสบอลไปโดนรถยนต์ฟอจูนเนอร์สีขาวของตนเอง เป็นรอยบุบ 2 รอย และเกิดเหตุชุลมุนเกิดขึ้น จากนั้นก็มีนักท่องเมี่ยวกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในรีสอร์ต พร้อมกับเจ้าหน้าที่มาห้ามปรามลูกเจ้าของรีสอร์ต จากนั้นก็เกิดเหตุชลมุนเกิดขึ้น เพื่อนของตนและนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นได้ไปร่วมรุมทำร้ายลุกชายเจ้าของรีสอร์ต
