หนุ่มบุกบ้านอริ ถูกยิงสวนเข้าท้องวิ่งหนีตายดับต่อหน้าแม่

10 พ.ค. 67

หนุ่มบุกบ้านอริถูกยิงสวนเข้าท้องวิ่งหนีตายดับต่อหน้าแม่ พบติดยาเสพติดทั้งคู่ แม่ยกศพให้มูลนิธิจัดการเพราะไม่มีเงิน

 

วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 เวลา 20.00 น. ร.ต.ท.ศุภกร ทุมจีน รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต กลางถนนหมู่กลางทุ่งนาท้ายหมุ่บ้านหนองไผ่ หมู่ 5 ต.หนองนาคำ

ที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนาห่างจากหมู่บ้าน 5 กิโลเมตร พบศพนายขวัญเมือง อินทนงค์ หรือ อุ๋ย อายุ 30 ปี ชาว ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต อยู่กลางถนนสภาพศพสวมกางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อ

จากการชันสูตรพบถูกยิงด้วยอาวุธปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์เข้าบริเวณท้อง กระสุนลูกปรายฝังในและศีรษะด้านขวามีแผลแตกจากของแข็ง ส่วนมือยิงคือนายจักรี ฐานะ หรือ เล่ อายุ 26 ปี ตำรวจตามไปจับตัวได้ที่เถียงนา ซึ่งอยู่ห่างจากศพผู้ตาย 100 เมตร พร้อมอาวุธปืนแก๊ป ซึ่งหักเป็น 2 ท่อน ตรวจค้นบ้านยังพบอาวุธปืนแก๊ปอีก 3 กระบอก ดินปืน ลูกแก๊ป ลูกปราย 1 นัด เครื่องมือช่าง ตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนนายจักรี มือยิง เล่าว่า ตนอาศัยอยู่เถียงนากับแม่ และทำปืนแก๊ปใช้ยิงนกยิงหนู โดยเปิดดูจากยูทูป ขณะที่ตนกำลังลองยิงปืนแก๊ปอยู่บนเถียงนา 2 นัด เป็นจังหวะที่ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี ผู้ตายได้จอดรถแล้วร้องใส่ตน พร้อมกับเดินเข้ามาในบ้านหาว่าตนยิงปืนใส่ ตนจึงถือปืนลงมา ผู้ตายปรี่เข้ามาหาตน ซึ่งตนเกรงว่าผู้ตายจะทำร้าย จึงยิงปืนใส่ผู้ตาย 1 นัด โดนที่หน้าท้อง แต่ยังไม่เสียชีวิต ผู้ตายได้เข้ามาแย่งปืน ตนจึงเกิดการแย่งปืนกันทำให้ปืนหักเป็น 2 ท่อน ตนเอาด้ามปืนตีหัวผู้ตายแตก จากนั้นผู้ตายก็ได้วิ่งไปเถียงนาแม่ ซึ่งเมื่อ 2 ปี ก่อนผู้ตายเคยพูดลบหลู่พ่อตน ทำให้ชกต่อยกัน ซึ่งตนยอมรับว่าวันนี้เสพยา 3 เม็ด อยากขอโทษผู้ตายว่า “ไม่ได้ตั้งใจ”

ด้านนางติง บุญยะรัตน์ อายุ 60 ปี แม่ผู้ตายเล่าว่า ตนไม่มีลูก ได้ขอผู้ตายมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม ตั้งแต่อายุได้ 19 วัน พอโตขึ้นมาผู้ตายเกเรติดยาเสพติด ดมกาว เสพยาบ้า ตั้งแต่ชั้น ป.6 จนถึงทุกวันนี้ และไม่ยอมทำงาน

ผู้ตายมีพฤติกรรมไถเงิน แต่ไม่เคยทำร้าย แต่อาละวาดไล่ตนหนี ตนต้องแยกบ้านออกมาอยู่ที่เถียงนากับสามีใหม่ ปล่อยให้ผู้ตายอยู่ที่บ้านในหมู่บ้านตามลำพัง แต่ผู้ตายก็ยังขี่รถจักรยานยนต์มาไถเงิน ตนวันละ 200 บาท ซึ่งเวลามาหาแม่ ก็ต้องขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเถียงนานายจักรี ซึ่งเป็นบ้านมือยิงและเป็นคู่อริกัน

ก่อนเกิดเหตุตนอยู่ที่กระท่อมนา ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ลูกไม่นาน ได้ยินเสียงปืนดัง 3 นัด ต่อมาได้ยินเสียงผู้ตายร้องขอความช่วยเหลือ “แม่ช่วยผมด้วยพ่อช่วยผมด้วย” ตอนแรกก็ยังไม่กล้าไปดู ไม่นึกว่าจะเป็นลูกตัวเอง แต่สามีให้ตนเดินไปดู ก็พบลูกนอนกุมท้องอยู่กลางถนน ผู้ตายเข้ามากอดขาตนร้องขอกินน้ำบอกช่วยผมด้วยเจ็บมาก และให้โทรแจ้งรถพยาบาลด้วย ตนไม่ได้เอาโทรศัพท์มาด้วยจึงวิ่งกลับไปเอาโทรศัพท์ที่เถียงนา พอวิ่งกลับมาก็พบว่าลูกเสียชีวิตแล้ว

“เมื่อหัวค่ำวานนี้หมาหอนตลอด ตนคิดว่าจะเป็นเหตุที่เกิดกับชุมชน ไม่คิดว่าจะเกิดกับครอบครัวตัวเอง ก็ถือว่าหมดเวรหมดกรรมเพราะรู้สึกเสียใจมาตลอด เอามาเลี้ยงแต่ลูกโตมาก็ไม่ดี และขอยกศพให้มูลนิธิไปเลย เพราะตนไม่สามารถจัดพิธีได้”

ส่วนนางเปรม จิตฐานะ อายุ 43 ปี แม่นายจักรี มือยิง เล่าว่า ตนอาศัยอยู่ที่เถียงกับลูก 2 คน ตนจะออกมารับจ้างล้างจานตามร้านอาหารตั้งแต่เช้าทุกวัน ก่อนเกิดเหตุหลังเลิกงานตนกลับมาบ้าน 1 ทุ่ม พบลูกชายนั่งอยู่ที่บ้าน และถามตนว่าตำรวจมารึยัง เพราะตนยิงนายอุ๋ยตายแล้ว ตนเห็นเป็นเรื่องทะเลาะของทั้งคู่ ซึ่งเป็นคู่อริกันจึงไม่ได้สนใจ แล้วก็ไปอาบน้ำเสร็จก็เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมา จึงรู้ว่าลูกยิงนายอุ๋ยตายจริง ซึ่งทั้งคู่เป็นอริกันเพราะทะเลาะกันมา 2 ปีแล้ว เวลาผู้ตายขี่จักรยานยนต์มาหาแม่ที่เถียงนา ต้องผ่านหน้าบ้านตน ทั้งคู่จะร้องด่ากัน และผู้ตายเคยเข้ามาทำร้ายลูกชายถึงในบ้าน

“ยอมรับลูกชายเสพยาบ้า มีคนเอายาบ้ามาให้เสพ แต่ถ้าไม่ได้เสพ 3-4 วันก็ไม่เป็นอะไร จะกินข้าวแล้วก็นอน แต่ไม่เคยอาละวาด หรือทำร้ายร่างกายแม่ แต่ลูกสาวก็ย้ายไปอยู่ในเมือง หลานก็หนีไปอยู่ที่อื่น ตนจะไม่ประกันตัวลูก รับสารภาพทุกอย่าง และยกให้ตำรวจจัดการตามกฎหมาย และอยากให้พ่อแม่ผู้ตายอโหสิกรรมให้เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว พูดตามความจริงลูกของเราก็ไม่ดีทั้งคู่”

ตำรวจแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ควบคุมตัวพร้อมอาวุธของกลางไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส