พายุฤดูร้อนถล่มนครพนม บ้านพังกว่า 500 หลัง ใน 7 อำเภอ

17 เม.ย. 67

นครพนมอ่วม พายุฤดูร้อนถล่ม 3 วัน รวด 7 อำเภอ บ้านพังกว่า 500 หลัง ต้นยางพาราหักโค่นหลายพื้นที่ เร่งช่วยซ่อมหวั่นฝนซ้ำอีก

วันที่ 17 เมษายน 2567 จ.นครพนม อากาศยังคงแปรปรวนหนัก อุณหภูมิในช่วงกลางวันสูงกว่า 40 องศา ทำให้เกิดพายุฤดูร้อนฝนตกลมพัดแรงในหลายพื้นที่ 3 วัน รวม 7 อำเภอ บ้านเรือนพังกว่า 500 หลัง สวนยางหักโค่นเสียหาย บางรายหนักสุดค่าซ่อมแซมนับแสน พ่อเมืองกำชับทุกภาคส่วนให้การช่วยเหลือ ชดเชยเยียวยาอย่างเร่งด่วน พร้อมสั่งเฝ้าระวังช่วงอากาศแปรปรวนอย่างใกล้ชิด

ซึ่งวันที่ 16 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนของชาวบ้านเพิ่มอีกในหลายอำเภอ จากเดิม 5อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองนครพนม อ.นาแก อ.ท่าอุเทน อ.โพนสวรรค์และ อ.ศรีสงคราม เมื่ิอวานเพิ่มอีกคือ อ.ปลาปาก เสียหายจำนวน83หลัง อ.นาทม 20 หลังคาเรือน

โดยตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมาได้เกิดพายุลมแรงพัดถล่มซ้ำทำให้บ้านเรือนของชาวบ้าน ได้รับความเสียหายรวมกว่า 500 หลังคาเรือน เนื่องจากสภาพอากาศยังคงแปรปรวนในช่วงนี้ มีอุณภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ทำให้มีความเสี่ยงเกิดพายุฤดูร้อนอย่างต่อเนื่อง

นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางสาวศุภพานี โพธิ์สุ นายกอบ จ.นครพนม ประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารท้องถิ่น ลงพื้นที่ตรวจสอบ เร่งให้การช่วยเหลือมอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อน พบว่ามีชาวบ้านได้รับผลกระทบพายุพัดบ้านเรือนพังเสียหายต้องการความช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในพื้นที่อำเภอโพนสวรรค์ จำนวน 191 หลังคาเรือน พื้นที่อำเภอท่าอุเทนจำนวน 150 หลังคาเรือน พื้นที่อำเภอศรีสงครามจำนวน 57 หลังคาเรือน อำเภอเมือง 91 หลังคาเรือน อำเภอนาแก 20 หลังคาเรือน อำเภอนาทม 20 หลังคาเรือน อำเภอปลาปาก 83 หลังคาเรือน รวมบ้านเรือนได้รับเสียหายรวมทั้ง 7อำเภอ จำนวน 521 หลังคาเรือน พร้อมเร่งประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจให้การช่วยเหลือจ่ายเงินชดเชยเยียวยาตามระเบียบทางราชการ และระดมจิตอาสาเข้าตรวจสอบซ่อมแซมแก้ไขอย่างเร่งด่วนต่อไป

โดยทาง ปภ.นครพนม ยังแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงติดกับแม่น้ำโขง รวมถึงพื้นที่ 12 อำเภอเฝ้าระวังตรวจสอบอาคารบ้านเรือนให้มีความมั่นคงแข็งแรง เนื่องจากในช่วงนี้อากาศแปรปรวนมีความเสี่ยงต่อการเกิดพายุถล่มซ้ำอีก ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องควรตรวจสอบบ้านเรือนที่พักอาศัยให้มีความแข็งแรง และดูแลความปลอดภัยหากเกิดพายุฝนฟ้าคะนองลมกรรโชกแรง

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส