นายกฯ โอด เปิดเวทีซักฟอกมา เจอผู้นำฝ่ายค้านถล่มแรง โต้รัฐบาลทำงานมา 6 เดือน มีแต่เรื่องบวก ขอหลักฐานและเหตุผล หากมีข้อกล่าวหา
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 เม.ย. 67 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ ญัตติอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมนั้น
หลังจากที่นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงญัตติเพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปฯ เรียบร้อยแล้วนั้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า
ตนมีความยินดีที่วันนี้ได้มารับฟังข้อคิดเห็นของ สส.สมาชิกทั้งสองฝ่าย ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะมาตอบข้อสงสัย หรือประเด็นที่ยังไม่มีความชัดเจน เพื่อให้เกิดความกระจ่าง และหากใครมีข้อเสนอแนะ รัฐบาลก็จะนำไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม ตนยินดีที่จะมารับฟังในวันนี้ และให้เวลา 2 วัน เพื่อมีการพูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์ และทำให้ประชาชนที่รับฟังอยู่ได้รับก็คือเท็จจริงที่ถูกต้อง
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า เริ่มต้นมาท่านก็พูดแรงพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ้นหวัง ล้มเหลว ไม่โปร่งใส ไม่ปฏิรูป ถอยหลัง วกวน ปิดบัง ทำลาย แต่เราก็มีอีกด้านหนึ่งเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมีหวัง สำเร็จ สิทธิ พัฒนา แทนที่จะเป็นปฏิรูปต่างๆเหล่านี้ ที่ถอยหลังก็ก้าวหน้า ที่ปิดบังเราก็มีความโปร่งใส ตนเชื่อว่าหลายๆ อย่างที่รัฐบาลทำอยู่พยายามทำให้เป็นเรื่องบวก และเป็นเรื่องของอนาคตที่เป็นแสงสว่างของประชาชน ถ้าท่านยังมีข้อกังขาอยู่เรื่องของการปิดบัง ไม่โปร่งใส ไม่สำเร็จ ถดถอยก็บอกมา ตนเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนพร้อมที่จะชี้แจง
เราทำงานมา 6 เดือน และมีการอนุมัติเรื่องงบประมาณไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เราก็มั่นใจว่าเราทำงานด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง และพร้อมให้ความกระจ่างต่อ สส.ที่ยังมีความไม่เข้าใจกับเรื่องเหล่านี้
นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องหนี้สิน เรื่องพลังงาน เรื่องยาเสพติด เรื่องการท่องเที่ยว เรื่องฝุ่น PM 2.5 รัฐบาลพยายามทำอยู่ และไม่ได้เพิกเฉย โดยเฉพาะราคาข้าว ราคายาง ราคาพืชผลทางการเกษตร ก็มีราคาดี จนไม่มีการประท้วง หรือขอร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ เพราะมีการเดินทางไปเปิดตลาดใหม่ที่ต่างประเทศ ที่ผ่านมาไม่เคยมีการทำแบบนี้มาก่อน ในการบูรณาการทำงานเพื่อให้ราคาพืชผลและราคาสินค้าไทยที่ไปขายในต่างประเทศดีขึ้น
ส่วนเรื่องที่เราระบุว่าเราไม่มีตัวตนในเวทีโลก ตนเดินทางไปต่างประเทศบ่อย แต่ขอชี้แจงว่า เป็นเรื่องที่เราควร และจำเป็นต้องไปพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนนโยบายซึ่งกันและกัน เพื่อให้ประเทศไทยมีตัวตนในเวทีโลก
นายเศรษฐา กล่าวว่า ทุกเรื่องต้องใช้เวลา เพราะเราเพิ่งเข้ามาบริหารจัดการประเทศได้เพียง 7 เดือนเท่านั้น ตนเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกท่านทำงานหนัก และรัฐมนตรีทุกคนมีความปรารถนาดีต่อประชาชน หากมีข้อเสนอแนะอะไรดีๆ ก็ยินดีรับฟัง หากมีข้อกล่าวหาอะไรก็ขอหลักฐานและเหตุผลมา เรื่องกระบวนการยุติธรรมและเรื่องต่างๆ เหล่านี้เชื่อว่าประเทศไทย หลังจากที่มีการเลือกตั้งผ่านมาแล้วก็มีความก้าวหน้าไปสู่ประชาธิปไตยที่ดีขึ้น ตนยินดีรับฟังและรับข้อเสนอแนะจาก สส.ทุกคน และรัฐมนตรีทุกคนพร้อมให้ความกระจ่างกับ สส.ทุกท่านในทุกเรื่อง แต่ถ้าเกิดเป็นเรื่องอะไรที่เป็นการกล่าวโทษหรือกล่าวหาก็ขอให้มีหลักฐานมาบ้าง เราจะได้ทำงานกันได้
