อากาศมันร้อน! ลุงโมโหป้าหันพัดลมเข้าหาตัวเอง ชักมีดแทงดับคาที่ในร้านตามสั่ง

25 มี.ค. 67

ลุงโมโหป้าหันพัดลมเข้าหาตัวเอง ทำร้อนเหงื่อไหล คว้ามีดแทงตายในร้านตามสั่ง ก่อนหนีขึ้นไปหลบบนห้อง ตำรวจตามไปรวบอ้างเป็นนายพล คาดอาจจะป่วยจิต

ตำรวจ สน.บางขุนเทียน ได้รับเเจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีด ถูกนำส่งโรงพยาบาลมะลิ เเต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดภายในซอยเอกชัย 66 แขวงคลองบางพลาน เขตบางบอน กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบ ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นางสาวพรพิมล ยันชนะตอ อายุ 64 ปี มีบาดเเผลถูกเเทงบริเวณหน้าอก 3 เเผล

1711340243187

ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายวรพงษ์ วิทิตสุนทร อายุ 67 ปี ซึ่งหลังก่อเหตุได้ขึ้นไปหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องพักชั้น 7 ของคอนโดเเห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับร้านข้าวที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าไปปิดล้อม เเละพยายามเกลี้ยเกล่อมให้มอบตัว เเต่ไม่เป็นผล ผู้ก่อเหตุไม่ยอมเปิดประตู ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องพังประตูเข้าไปจับกุม จากการตรวจค้นพบอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ เป็นมีดพับปลายเเหลม จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีที่ สน.บางขุนเทียน

1711340267937_1

จากการสอบถาม ป้าตา แม่ค้าขายอาหารอยู่ที่ร้านแห่งนี้ เล่าให้ฟังบอกว่า ตอนเกิดเหตุผู้ก่อเหตุเดินมานั่งในร้านก่อน พอมาถึงเขาก็มานั่งเฉยๆ ไม่ได้สั่งอาหารอะไรกิน ต่อมาผู้เสียชีวิตได้เดินเข้ามาในร้าน สั่งแกงจืด และไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร ตอนเกิดเหตุพัดลมที่ร้านวางอยู่และหันไปทางฝั่งของผู้ก่อเหตุ หลังจากที่ผู้เสียชีวิตมานั่งที่โต๊ะติดกันได้มีการเลื่อนพัดลมเข้าหาตัว เป็นสาเหตุทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ และพุ่งเข้าไปใช้มีดแทงผู้เสียชีวิตทันที โดยที่ยังไม่ทันได้มีปากเสียงอะไรกันเลย ป้าตาบอกว่า นายวรพงษ์ มาที่ร้านของเธอบ่อยครั้ง เขาชอบมานั่งเฉยๆ และไม่ได้สั่งอาหารกินด้วย ตัวเธอเองก็ไม่ได้สนใจ เพราะรู้ว่าฝั่งของผู้ก่อเหตุสภาพจิตเขาดูไม่ค่อยปกติ และที่ผ่านมาก็มักจะเห็นผู้ก่อเหตุพกมีดติดตัวไว้เป็นประจำ เท่าที่ทราบทั้งผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตทั้งสองคนจะมีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ผู้ชายเข้ามาทำร้ายผู้หญิงแบบนี้ ตนมองว่ามันเป็นอะไรที่เกินกว่าเหตุไปหน่อย

1711340655376

ทางด้าน นายสุชัย เมืองสุข อายุ 47 ปี ผู้จัดการนิติบุคคลคอนโดที่เกิดเหตุ บอกว่า เท่าที่ตัวเองทราบผู้ก่อเหตุอยู่ที่คอนโดแห่งนี้มานานมากกว่า 10 ปี โดยอาศัยอยู่คนเดียว นานๆ ครั้ง ลูกชายจะเข้ามาดูแล ซึ่งผู้ก่อเหตุมีอาการทางจิต และที่ผ่านมาเขามักจะออกไปข้างนอกเพื่อไปหาอาหารกินตามปกติ แต่ยังไม่เคยถึงขั้นไปทำร้ายร่างกายใครแบบนี้ ส่วนพฤติกรรมของชายคนนี้ เท่าที่ตัวเองคอยสังเกตจะเห็นว่าผู้ชายคนนี้ชอบไปด่าว่าชาวบ้านในพื้นที่ และเขายังชอบพกมีดติดตัวไว้เป็นประจำ ในอดีตผู้ชายคนนี้ยังเคยไปทุบตีกระจกของคอนโดจนเสียหาย ที่ผ่านมาครอบครัวก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลืออะไรได้ จึงอยากให้ครอบครัวของผู้ชายคนนี้มาช่วยดูแลผู้ชายคนนี้ต่อ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตัวเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าผู้ชายคนนี้กล้าที่จะใช้มีดแทงคนเสียชีวิต เพราะจากพฤติการณ์ที่ผ่านมา เขาก็ดูไม่ได้เลวร้ายขนาดนี้ เหตุการณ์ในวันนี้ตัวเอง อยากให้ญาติหาที่อยู่ใหม่ให้ผู้ชายคนนี้ เพราะหากอยู่ร่วมกับลูกบ้านที่คอนโด ในอนาคตอาจจะสร้างอันตรายให้กับลูกบ้านคนอื่นได้

1711340601130

นักข่าวเดินทางไปติดตามเรื่องทางคดีที่ สน.บางขุนเทียน หลังจากเจ้าหน้าที่นำตัว นายวรพงษ์ มาถึงได้มีการสอบปากคำอย่างละเอียด เบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การวกไปวนมา พยายามมีการอ้างตัวว่าตัวเองเป็นตำรวจยศนายพล และส่งเสียงบอกเจ้าหน้าที่ว่า “ผู้การจะต้องมารับผิดชอบในความปลอดภัยของตัวเองนะ”

1711340588092

ระหว่างที่ตำรวจควบคุมตัวนายวรพงษ์ ไปที่ห้องขังนักข่าวพยายามเข้าไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ผู้ก่อเหตุไม่ตอบคำถามอะไรเลย นักข่าวถามว่าตอนเกิดเหตุลุงตั้งใจจะเข้าไปกินข้าวใช่ไหม ปฏิกิริยาของเขาทำได้เพียงแต่พยักหน้า มีจังหวะหนึ่งตอนที่เดินผ่านด้านหน้าโรงพัก นายวรพงษ์ได้หันไปทำท่า "วันทยหัตถ์" ให้กับคนที่อยู่แถวนั้นด้วย และที่เสื้อของเขามีเข็มสัญลักษณ์ต่างๆ ติดเต็มไปหมด ซึ่งผู้ก่อเหตุให้การกับตำรวจว่า เคยมีปากเสียงกับผู้เสียชีวิตมาก่อน วันเกิดเหตุตนไปซื้อข้าว ระหว่างนั่งรอทางผู้เสียชีวิตได้เดินมานั่งและแย่งพัดลมตรงจุดที่ผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ ตนโมโหจึงใช้มีดแทงไปที่หน้าอกของผู้เสียชีวิต

1711340321252

เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหา นายวรพงษ์ 2 ข้อหา คือ ข้อหาฆ่าผู้อื่นกับข้อหาพกพาอาวุธมีด ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านบอกว่าผู้ชายคนนี้มีอาการป่วยทางจิตเวชตำรวจก็จะติดต่อให้ญาตินำหลักฐานหรือเอกสารมายืนยันว่า เป็นผู้ป่วยจิตเวชจริงหรือไม่ และจากการตรวจสอบประวัติของผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้พบว่าเคยเป็นตำรวจหรือข้าราชการแต่อย่างใด คาดว่า ที่ผู้ก่อเหตุอ้างตัวเป็นตำรวจมาจากอาการทางจิตเวช

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส