"เฮียโรจน์ข้าวต้มปลา" เล่านาทีถูกจ่อยิงเผาขนแต่กระสุนถากหัวไหล่รอดปาฏิหาริย์ เผยเชื่อพุทธคุณบารมีพระสังกัจจายน์หลวงพ่อช่วง วัดโป่งตามุข ช่วยคุ้มครอง
จากกรณีมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 เวลา 19.30 น. นายทศพร เหลืองตระกูล อายุ 56 ปี หรือเฮียโรจน์ข้าวต้มปลา ร้านชื่อดังย่าน ต.มาบโป่ง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ถูกนายเล็กอายุ 80 ปี ควงปืนขนาด 11 มม.จ่อยิงภายในร้านข้าวต้มปลาช่วงทีเผลอ ขณะกำลังทำข้าวต้มให้ลูกค้าที่มารอคิวสั่งจำนวนมาก นายเล็กจ่อยิงเฮียโรจน์ 1 นัด แต่กระสุนโดนบริเวณหัวไหล่ซ้ายถากๆ เท่านั้น จากนั้นนายเล็กได้มีการยิงปืนขึ้นฟ้าอีก 2 นัด ก่อนจะตัดสินใจยิงตัวเองภายในบ้านเสียชีวิตอย่างสลด
ล่่าสุดวันนี้ (19 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านข้าวต้มปลาเฮียโรจน์ ตั้งอยู่ริมถนนศุขประยูร หมู่ 6 ต.มาบโป่ง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้พบกับนายทศพร เหลืองตระกูล อายุ 56 ปี หรือเฮียโรจน์เจ้าของร้านได้ให้ผู้สื่อข่าวดูร่องรอยบาดแผลที่หัวไหล่ซ้าย และได้โชว์พระสังกัจจายน์เนื้อว่าน หลวงพ่อช่วง วัดโป่งตามุข ต.หนองหงส์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ที่เลี่ยมทองและแขวนติดตัวเป็นประจำมานานกว่า 20 ปี พร้อมเล่าถึงประสบการณ์และพุทธคุณที่เจอมากับตัวเองแคล้วคลาดมาแล้วหลายรอบประสบการณ์เฉียดตายทุกครั้ง
เฮียโรจน์ข้าวต้มปลา เล่าว่าวันที่เกิดเหตุตนกำลังทำอาหารให้ลูกค้าอยู่ นายเล็กผู้ก่อเหตุเดินผ่านหน้าร้านไปมาหลายรอบ จากนั้นนายเล็กก็ได้เดินมาอีกครั้งพร้อมกับถามว่ามองหน้าทำไม ตนก็บอกกลับไปว่าคนเดินผ่านก็ต้องมอง ถ้าไม่อยากให้มองก็เดินข้างล่างจะได้ไม่เห็น จากนั้นนายเล็กก็ได้กลับไปร้านแล้วเดินมาพร้อมกับปืน แต่จังหวะนั้นไม่รู้ว่านายเล็กจะมายิงและไม่ได้ตั้งตัวอะไรเพราะมัวแต่ทำอาหารให้ลูกค้า นายเล็กก็ขึ้นลำปืนแล้วจ่อยิงตนระยะเผาขนห่างกันเพียง 1 เมตรเสียงปืนดังสนั่นร้าน ตนก็รู้สึกเหมือนมีอะไรโดนไหล่ จากนั้นคนก็ตกใจหนีกัน ส่วนนายเล็กก็จะยิงซ้ำแต่เหมือนเล็งไปมาไม่แน่ใจว่าปืนไม่แตกหรืออะไร นายเล็กจึงกลับไปที่บ้านตัวเองแล้วยิงปืน 2 นัด นายเล็กก็เดินไปมาเหมือนจะมายิงตนซ้ำแต่จังหวะคนเยอะและภรรยาพาหนีไปหลบบนบ้าน นายเล็กจึงกลับเข้าไปในบ้านก่อนจะจบชีวิตตัวเองภายในบ้าน
พอหลังจากเกิดเหตุตนก็ได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลพานทองพบว่ากระสุนถากๆ ที่หัวไหล่เท่านั้นไม่โดนจุดสำคัญอะไร หมอจึงได้ทำแผลให้แล้วกลับบ้านได้เลย ตอนนี้แผลก็มีอาการดีขึ้นเยอะ ตนเชื่อว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้เชื่อเป็นปาฏิหาริย์และพุทธคุณของพระสังกัจจายน์ หลวงพ่อช่วง วัดโป่งตามุข ที่ตนแขวนติดตัวมานานกว่า 20 ปีแล้ว และแขวนเพียงองค์เดียวเท่านั้น
เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกก่อนหน้านี้เมื่่อหลายปีก่อนก็เคยไปเที่ยวงานวัดแล้วถูกจ่อยิงมาแล้ว 1 ครั้ง และกระสุนก็ถากๆ หัวไหล่เหมือนกัน และเมื่อไม่กี่ปีก็ได้ขับรถกระบะชนท้ายรถบัสจนรถกระบะพังยับจนเป็นซากเศษเหล็กซ่อมไม่ได้ต้องขายซากทิ้ง เมียเจ็บแขนขาหักแต่ตนไม่มีบาดแผลอะไรเลย และเมียก็รักษาตัวไม่นานก็หายเป็นปกติ ตนจึงเชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์และบารมีของพระสังกัจจายน์หลวงพ่อช่วง วัดโป่งตามุขที่ตนแขวนติดตัวองค์นี้
