สพฐ. สั่งเด้ง ผอ.โรงเรียนหวงเก้าอี้ ส่องานเข้าอีก ถ้าใช้เงินหลวงซื้อของใหม่

16 มี.ค. 67

 

สพฐ. สั่งเด้ง ผอ.โรงเรียนหวงเก้าอี้ ส่องานเข้าอีก ถ้าใช้เงินหลวงซื้อของใหม่ ผิดวินัยร้ายแรง เหตุใช้งบที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางราชการ 

จากกรณี มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์แชตข้อความของแฟน ซึ่งเป็นครูสาวที่ถูก ผอ.โรงเรียนตำหนิ เรื่องที่เผลอไปนั่งเก้าของ ผอ. ถึงขั้นต้องให้ไปซื้อเก้าอี้ใหม่ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

ล่าสุดวันที่ 16 มี.ค 67 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงข้อความที่ได้พูดคุยกับผอ.โรงเรียนของตน โดยผอ.โรงเรียนไม่พอใจที่ครูนั่งเก้าอี้ของตน และสั่งการให้เจ้าหน้าที่โรงเรียนจัดซื้อเก้าอี้ใหม่มาทดแทนนั้น 

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สั่งการ ศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 เร่งติดตาม และตรวจสืบข้อเท็จจริงเชิงลึกในทันที 

ว่าที่ร้อยตรี ธนุ  กล่าวต่อว่า เบื้องต้นทาง สพป.ร้อยเอ็ด เขต 1 ได้สั่งการให้ ผอ.กลุ่มกฏหมายและคดี ตั้งคณะกรรมการลงพื้นที่สืบสวนหาข้อเท็จจริงในวันนี้ (16 มี.ค.) พร้อมทั้งมีคำสั่งให้ ผอ.โรงเรียนดังกล่าว มารายงานตัวและปฏิบัติราชการที่เขตพื้นที่โดยทันที ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. 67 เป็นต้นไป เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการสืบสวน รวมทั้งให้ความคุ้มครองครู และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และรายงานต่อ สพฐ. เป็นระยะ โดย สพฐ. เน้นย้ำให้การดำเนินการเป็นไปอย่างรอบคอบ ได้ข้อมูลครบถ้วน เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และได้กำชับให้คณะกรรมการเร่งสืบสวนข้อเท็จจริงและรายงานผลต่อ สพฐ. ภายใน 7 วัน จากนั้นจะแจ้งผลความคืบหน้าให้สาธารณชนรับทราบต่อไป 

“เรื่องสวัสดิภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงความปลอดภัยในสถานศึกษา เป็นนโยบายที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ และสพฐ.ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งเราไม่แบ่งแยกว่าเป็นผู้บริหารหรือระดับปฏิบัติการ หากเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นก็ต้องมีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงให้กระจ่าง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคนทุกฝ่าย หรือหากพบว่ากระทำการที่ไม่เหมาะสมก็ต้องได้รับการพิจารณาโทษเป็นกรณีไป ทั้งนี้หากพบเหตุที่ไม่เหมาะสมใดๆ ขอให้ส่งข่าวแจ้งเหตุมายัง สพฐ. เราพร้อมดำเนินทุกมาตรการเพื่อให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยของทุกคนอย่างแท้จริง” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว 

ด้าน นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. ในฐานะโฆษก สพฐ. กล่าวว่า สั่งการให้ สพป. ร้อยเอ็ด เขต 1 ในฐานะต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง ผอ.โรงเรียนรายดังกล่าวแล้ว ซึ่งในส่วนของเลขาธิการกพฐ. ก็มีความห่วงใย พร้อมกำชับให้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมถึงขอให้เขตพื้นที่ฯ ดูแลสภาพจิตใจและคุ้มครองความปลอดภัยของครูด้วย 

“การตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริง เพื่อให้ทุกฝ่ายทั้ง ผอ.โรงเรียนและครู ได้มีโอกาสชี้แจง กรณีนี้ถือเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง เป็นลักษณะของผู้บังคับบัญชา ไม่เกื่อกูลครู ถือว่าไม่เหมาะสม การที่ให้ครูไปซื้อเก้าอี้ก็ถือเป็นรังแกลูกน้อง และยิ่งถ้าใช้งบหลวงซื้อ ก็อาจเป็นวินัยร้ายแรงได้ เพราะถือว่าเป็นการใช้งบที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางราชการ เรื่องนี้ต้องดูว่าเหตุเกิดเหตุจากอะไร ยังไม่สามารถบอกว่าเป็นการใช้อำนาจโดยไม่เป็นธรรมหรือไม่ เพราะเป็นเพียงการใช้คำพูด ดังนั้นต้องรอรายละเอียด จากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง”

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส