ผบ.ทร. รับปืน เรือหลวงชลบุรีขัดลำกล้องจริง ซ่อมแล้วยังขัดอีก จึงนำเข้าฝั่งก่อนเกิดเหตุ

15 มี.ค. 67

 

ผบ.ทร. ยันเหตุ เรือหลวงชลบุรี ปืนลั่นใส่ เรือหลวงคีรีรัฐ หากความผิดเกิดจากคน ต้องมีผู้รับผิดชอบ รับปืนขัดลำกล้องจริง ซ่อมแล้วยังขัดอีก 

วันที่ี 15 มี.ค.67 ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (วังนันทอุทยาน) พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร. กล่าวถึงเหตุ เรือหลวงชลบุรีปืนลั่นใส่ เรือหลวงคีรีรัฐ จนเกิดไฟไหม้และมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บว่า 

ขอให้รอผลสรุปภายใน 3 วัน ขณะที่เมื่อวานนี้ เรือหลวงชลบุรี ได้เคลื่อนออกจากท่า เพื่อไม่อยากให้เรือจอดติดกัน และไปเคลียร์กระสุนปืนที่ยังค้างอยู่  ซึ่งภายหลังเคลียร์เสร็จแล้วก็กลับเข้าสู่ท่าที่เดิม  

เมื่อถามว่า มีการพูดถึงกันมากเรื่อวมาตรฐานการปฏิบัติการกองทัพเรือ ในปีที่ผ่านมามีเหตุการณ์ร้ายแรงเยอะ ผบ.ทร. กล่าวว่า ตนทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ขอพูด ให้คณะกรรมการที่สอบสวน เป็นผู้ตอบในส่วนนี้ 

พร้อมย้ำว่า ปืนมีอายุการใช้งานนาน หลังจากไปฝึกยิงก็ขัดลำกล้องแล้วครั้งหนึ่ง ก็พยายามซ่อมจนสามารถใช้การได้  จึงได้ทำการฝึกต่อ จนกระทั่งกลับมาขัดลำกล้องอีก ทางเจ้าหน้าที่ประจำเรือก็ได้พยายามซ่อมแซม แต่เป็นช่วงเวลาใกล้เย็น จึงได้นำเรือเข้าฝั่ง โดยวางแผนว่าในช่วงเช้าจะส่งทหารช่างไปซ่อมดูแล   

เมื่อถามว่า ยืนยันหรือไม่ว่าเรื่องนี้จะต้องมีผู้รับผิดชอบ ผบ.ทร. กล่าวว่า ถ้ามี ความผิดพลาดที่เกิดจากคน จะต้องมีผู้รับผิดชอบ  

ส่วนผลสรุปในการสอบสวน เรือหลวงสุโขทัยล่มนั้นว่า พล.ร.อ.อะดุง กล่าวว่า ตอนนี้เราได้พยานหลักฐานครบแล้ว เหลือเพียงอย่างเดียวคือเครื่องอัดเทปที่ส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่แจ้งมาว่าต้องใช้เวลาหนึ่งเดือน ตนอยากให้การแถลงข่าวสรุปปิดคดีมีหลักฐานในส่วนนี้ด้วย อยากให้ทุกอย่างเคลียร์ ซึ่งตนอยากให้ประชาชนคนไทยได้รับทราบ และเคลียร์ในทุกปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งตนจะเป็นผู้แถลงเอง 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเย็นวานนี้ (14 มี.ค. 67) ผบ.ทร.ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อเยี่ยมกำลังพล เรือหลวงคีรีรัฐ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุกระสุนปืนของ เรือหลวงชลบุรีที่ขัดข้องลั่นใส่บริเวณท้ายเรือจนเกิดเพลิงไหม้ ความเสียหายเล็กน้อย แต่มีกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการสำลักควันไฟจำนวน 14 นาย  

โดยในขณะนี้กำลังพลที่มีอาการไม่รุนแรง และอยู่ในระหว่างการพักฟื้นสังเกตอาการ เพื่อรอการพิจารณาจากแพทย์ให้กลับบ้าน จำนวน 9 นาย ส่วนผู้ป่วยที่เฝ้าระวัง จำนวน 5 นาย  คณะแพทย์ได้ส่งการรักษาด้วย HYPERBARIC CHAMBER  หรือ การบำบัดด้วยออกซิเจนความกดบรรยากาศสูง  โดยในจำนวนนี้อยู่ ระหว่างการพิจารณาถอดเครื่องช่วยหายใจ 2 นาย  

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส