ผัวเศรษฐินีโต้โดนหลอก ย้ำชัดยังไงก็เลิก กิ๊กสาวบอกเพิ่งมีอะไรกันหลังเฮียหนีออกมา

12 มี.ค. 67

ผัวเศรษฐินีโผล่เข้าพบตำรวจ โต้โดนสาวหลอก ลั่นทนเมียไม่ไหวโดนด่าทุกวัน เลยหนีออกมาเอง ย้ำชัดยังไงก็เลิก ส่วนสมบัติขอยกให้ทั้งหมด ทั้งบ้านและกรมธรรม์ 10 ล้าน กิ๊กสาวบอกเพิ่งมีอะไรกันหลังเฮียหนีออกมา ก่อนหน้านั้นแค่นายจ้างลูกจ้าง

เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 11 มี.ค.67 หลังจากที่นางสาวมัลลิกา อายุ 57 ปี ได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้กับ พ.ต.ต.ชัยพัชร์ อารีย์วงษ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ว่าสามีคือ นายสรายุทธ อายุ 53 ปี หายตัวออกจากบ้านใน จ.ปทุมธานี โดยน่าจะมีคนเอารถมารับไป ปัจจุบันนายสรายุทธยังไม่กลับมาบ้านตามที่เสนอข่าว

ต่อมานายสรายุทธ กับนางสาวสายฝน หรือเล็ก อายุ 44 ปี ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองปทุมธานี และเข้าพบกับพ.ต.ท.เสฏฐพงศ์ ทรงกลด รอง ผกก.สส.สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยนายสรายุทธ อายุ 53 ปี บอกว่าบอกว่าตนเองเป็นคนเรียกรถแท็กซี่ในหมู่บ้านให้มาส่งเพื่อหา น.ส.เล็ก ที่ย่านวัดเสด็จ ซึ่งตนเองตัดสินใจหนีออกจากบ้านนั้น เพราะทนพฤติกรรมของภรรยาไม่ได้ เขาด่าตนทุกวัน ส่วนทรัพย์สินที่ติดตัวไปนั้นมีสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทและพระเลี่ยมทอง แต่สร้อยคอทองคำตนเองได้ขายไปแล้ว ส่วนเรื่องการโอนเงินนั้นคนอื่นเป็นคนโอนให้ น.ส.เล็กเองเพื่อใช้หนี้และเป็นค่าเดินทางซึ่งทุกอย่างมันเป็นความคิดของตนเองและไม่ได้มีใครลักพาตัวหรือชักชวนไป ซึ่งวันที่ไปฉะเชิงเทรา น.ส.เล็กก็ไปด้วย

1710204462380

นายสรายุทธ บอกอีกว่าที่ตนไม่มีการติดต่อกลับภรรยานั้นเพราะตนเองไม่อยากคุยด้วยแล้ว ตนเองมีความคิดว่าจะหนีออกมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งตนเองเหมือนคนเป็นคนกล้ามเนื้ออ่อนแรงแต่ทำภรรยาก็ไม่เต็มใจที่จะคอยดูแล เหมือนกับว่าตนเป็นภาระให้กับเขา ซึ่งทรัพย์สินที่ตนเองมีนั้นก็เหลือแค่กรมธรรม์เมื่อตนเองเกิดอุบัติเหตุทางภรรยาก็จะได้เงิน 10 ล้าน ซึ่งขณะนี้ตนเองอายุ 50 กว่าแล้วไม่มีใครมาหลอกล่อตัวเองได้ทุกวันนี้ตนเองมีสติรู้เรื่องทุกอย่าง ขอยืนยันว่าจะแยกทางกับภรรยาอย่างแน่นอนไม่กลับไปหาเขาแล้ว และขอไปใช้ชีวิตของตนเอง ส่วนเรื่องจะไปอยู่กับ น.ส.เล็กหรือไม่นั้นก็เป็นเรื่องของอนาคต ส่วนเรื่องที่ น.ส.เล็กที่มีสามีอยู่นั้นเขาไม่ได้โทรหาผมแล้ว ทางภรรยาก็ไล่ตนเองไปนอนกับน้องสาวที่จังหวัดนนทบุรีด้วย ซึ่งตนเองอยู่กับภรรยามา 10 กว่าปีแล้ว แต่ไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรส และไม่ได้มีลูกด้วยกัน

711240_0

ด้าน น.ส.เล็กกล่าวว่าที่ผ่านมาตนเองแม้แต่ลูกของตนเองก็ถูกทางเขาคุกคามข่มขู่ พี่สาวพี่ชายถูกคุกคามหมด ทุกคนกลัวไม่ได้ทำมาหากินคอยเป่าว่าให้ตำรวจตามล่า ถ้าเจอตัวจะทำร้าย ลูกของตนเองอายุ 8 ขวบก็ให้คนไปหาที่โรงเรียน ถามหาตนเอง แล้วเด็กจะคิดยังไง เด็กไม่ได้ไปสอบเพราะขู่จะจับตัวเพื่อดึงให้แม่ออกมา ส่วนนายสรายุทธตนเองไม่ได้คุยกันหรือนัดแนะแต่เฮียสรายุทธมาหาตนเองที่ร้านเอง แต่ตอนที่อยู่ทำงานตนเองดูแลเฮียเขาแต่ไม่เคยพูดให้เขาออกมา ตนดูแลเฮียเขาดูแลเหมือนลูกจ้างกับนายจ้างคือไม่มีอะไรกัน และหาว่าตนไปพูดว่าได้สามีเป็นนายจ้าง และตนเองก็ไม่มีสามี ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่สามี ลูกสาวก็เป็นของสามีเก่าที่เลิกไปแล้ว แต่เขามาใส่ร้ายหาว่าตนเองเอาผัวนายจ้างตอบแทนด้วยการเนรคุณ ทั้งที่ตนเองไม่มีอะไรและกล่าวว่าตนเองเข้าหาเฮียในห้องเพราะตนเองเลี้ยงแมวไว้ห้องนั้น ตนเองต้องทำความสะอาดห้องและให้ยาแมวสองตัวที่ไม่สบายอยู่ ตนมีกุญแจอยู่แต่ไม่เข้าหาเฮีย ส่วนตอนนี้ตนกับเฮียมีความสัมพันธ์กันแล้ว แต่ตอนที่ถูกเขาใส่ร้ายยังไม่มีอะไรกันมีความสัมพันธ์กัน

711236_0

ต่อมานางสาวมัลลิกา ภรรยาได้เดินทางถึงและเปิดประตูห้องสอบสวนตรงเข้าถีบ น.ส.เล็ก และด่าว่าเนรคุณเลี้ยงไม่เชื่อง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ากั้นพร้อมให้ออกไปอยู่ด้านนอกก่อน จากนั้นได้เรียกให้นางสาวมัลลิกาเข้ามาคุยเจรจากับนายสรายุทธสามี โดยแยก น.ส.เล็กไปอยู่อีกที่ ซึ่งทางฝ่ายสามียืนยันและมีความประสงค์จะแยกทางกับนางสาวมัลลิกา

1710204492181

ด้านนางสาวมัลลิกา ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังเข้ามาเจรจากับสามี ซึ่งบอกว่าซึ่งสามีที่ตัวเองมาเจอเขาวันนี้เปลี่ยนไปเยอะและเขาไปตกลงอะไรยังไงกันตนเองก็ไม่ทราบ และวันนี้ก็ได้แยกทางกับสามีจบกันด้วยดีเพราะเขาเลือกที่จะไปทางของเขา ส่วนเรื่องทรัพย์สินก็ได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อยแล้ว บ้านและที่ดินที่อยู่หมู่บ้านภัสสร พร้อมกับอาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมทั้งห้องชุดที่หมู่บ้านเอื้ออาทรบ้านฉางและหมู่บ้านเอื้ออาทรลาดหลุมแก้วและกรมธรรม์ 10 ล้านเขายกให้กับตนเองทั้งหมดเลย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส