จ่อออกหมายจับสาวไทย-เพื่อนร่วมชาติ แก๊งอุ้มฆ่าหนุ่มไต้หวัน หมกร้านค้าร้าง ริมถนนสุวรรณภูมิสาย 4 หลบหนีข้ามประเทศ
จากเหตุ พบศพชายชาวต่างชาติถูกฆาตกรรมหมกร้านค้าร้าง บริเวณริมถนนสุวรรณภูมิสาย 4 ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา
ต่อมาทราบว่า ผู้เสียชีวิต คือ Mr.SHI HMOU CHIANG (ชิ โหมว เชียง) อายุ 43 ปี สัญชาติไต้หวัน โดยสภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืน ร่างกายมีรอยสักรูปยักษ์ และภาษาจีน ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
วันที่ 26 ก.พ. 67 ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เร่งประชุมชุดสืบสวนภูธรสมุทรปราการ เเละชุดสืบของ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เพื่อเตรียมออกหมายเเดง พร้อมกับสั่งการชุดปฎิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราปราการ เดินทางลงพื้นที่ประกบเป้าหมายที่ทราบเบาะเเสคนร้าย ที่ก่อเหตุหลบหนีกบดานอยู่ไม่ไกลตามเเนวชายเเดนไทย-กัมพูชา หลังจากพบว่าผู้ร่วมก่อเหตุทั้ง 5 ราย หลบหนีออกไปด่านชายเเดน ตม.อรัญประเทศ
ต่อมาเวลา 13.30 พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิระสันต์ เเก้วเเสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เดินทางมาติดตามความคืบหน้าร่วมประชุมกับตำรวจชุดสืบสวน เพื่อคลี่คลายคดี ภายหลังการประชุม 1 ชั่วโมง
พล.ต.ท.จิระสันต์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าระบุว่า ขณะนี้ตำรวจทราบเเล้วว่าผู้ตายเป็นใคร เเละตัวผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด 5 ราย เป็นชาาวไต้หวัน 4 ราย เเละสาวไทย 1 รายขณะนี้ตั้งประเด็นการก่อเหตุฆาตกรรมไว้ 3 ประเด็นหลัก ได้เเก่ ธุรกิจสิ่งผิดกฏหมาย ปัญหายาเสพติด เเละเรื่องชู้สาวในกลุ่มกันเอง โดยจุดลงมือการก่อเหตุ คือหมู่บ้านย่านลาดปลาเค้า กทม.
ด้าน พล.ต.อ.ธนา กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจเตรียมออกหมายจับ โดยประสานตำรวจกัมพูชาในการติดตามล่าตัว ขณะนี้ผู้ก่อเหตุทั้ง 5 รายยังไม่หลบหนีออกไปยังประเทศที่สาม โดยมีผู้ที่ช่วยพาหลบหนีออกไปจากด่าน ตม.อรัญประเทศ รับจ้างพาหลบหนีออกไป ยืนยันว่าตำรวจได้พยานหลักฐานได้ครบถ้วนเเล้ว
ส่วนประเด็นเรื่องผู้ตายเป็นขบวนการเเก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่ชัดเจน เเละจากการตรวจสอบประวัตินาย ชิ โหมว เชียง ผู้เสียชีวิตมีประวัติอาชญากรรมจากประเทศต้นทางคือไต้หวัน หลบหนีคดีมาอยู่ที่ไทย ยืนยันว่าโอกาสที่จะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีมีมาก ส่วนกระเเสข่าวที่ระบุว่าทีมสังหารเดินทางมาก่อเหตุฆ่าเพื่อนร่วมชาติ โดยเฉพาะ เเละหนีออกนอกประเทศทันทีหลังก่อเหตุ ประเด็นนี้ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เกรงว่าจะกระทบต่อสำนวน
พล.ต.อ.ธนา ยืนยันด้วยว่า เเม้ว่าเหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นจะเป็นชาวต่างชาติก่อเหตุอุกฉกรรจ์ฆ่ากันเองในประเทศไทย เเต่โดยศักดิ์ศรีของตำรวจไทยก็จะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้ มั่นใจว่าไม่เกินความความสามารถของตำรวจ
สำหรับการพบพยานที่เป็นคนขับรถแท็กซี่รายนี้ ถือเป็นพยานสำคัญทางคดีที่ทำให้เห็นความเชื่อมโยงของทางคดี โดยผู้ต้องหาสองคนที่เรียกรถไปรับนั้น จุดดังกล่าวเป็นปากซอยผุส-จรูญ ริมถนนพัฒนาชนบท 3 ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่ผู้ต้องหานำรถมาสด้าสีแดงไปจอดทิ้งไว้ หลังจากที่เอาศพไปทิ้งแล้วก่อนจะเดินเท้าออกมาเรียกแท็กซี่ กลับมาที่บ้านเกิดเหตุ ซึ่งสอดล้องกับชาวบ้านในหมู่บ้านที่ระบุว่ามีรถแท็กซี่มาจอดช่วง 08.00 น. แล้วมีคนจีนลงจากรถ 2 คนเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อเตรียมการณ์บางอย่างก่อนพากันหลบหนี
โดยมีการว่าจ้างรถตู้จาก จ.สระแก้ว ให้มารับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 5 รายกลับไปที่ด่านคลองลึก เพื่อเข้าด่าน ตม.ออกนอกประเทศ ส่วนหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด คาดว่าน่าจะออกในวันนี้
ส่วนนายบุญ (ขอสงวนนามสกุล) คนขับรถแท็กซี่ เดินทางมาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เมื่อวานนี้ช่วงสายประมาณ 8-9 โมงเช้า ผู้ต้องสงสัยชาวไต้หวัน 2 คนเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่นจากปากซอยพัฒนาชนบท 3 ไปส่งที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านลาดปลาเค้า
ทั้ง 2 คน มีกระเป๋าสะพายสีดำ 2 ใบ ขึ้นรถมาด้วยตลอดเวลา ที่นั่งอยู่บนรถทั้ง 2 คนคุยกัน โดยใช้ภาษาจีน ซึ่งตนจำหน้าได้เพียงคนเดียวคือ นาย หลิน กวาง ยุน ส่วนอีกคนเห็นหน้าไม่ชัด หลังไปส่งชาวไต้หวันทั้ง 2 คนที่บ้าน ตนแวะจอดรถในปั้มน้ำมันแถววัดลาดปลาเค้า เห็นผู้ต้องสงสัยชาวไต้หวัน 1 ใน 2 คน ที่รับมาขับรถเก๋งสีขาวมาจอดที่ปั้มน้ำมัน มีท่าทีเร่งรีบ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้สงสัย หรือติดใจอะไร จนตำรวจโทรศัพท์มาบอกก็รู้สึกก็ตกใจ
