จ่อยิงโหดนำศพหมกร้านค้าร้างภาย สนามบินสุวรรณภูมิ

จ่อยิงโหดชายชาวต่างชาติ ถูกฆ่านำศพมาหมกร้านค้าร้าง ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ตำรวจเร่งล่าเก๋งแดงคาดนำศพมาทิ้ง

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตภายในร้านค้าที่เลิกกิจการไปแล้ว ตรงข้ามโรงบำบัดน้ำเสีย ริมถนนสุวรรณภูมิสาย 4 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ภายในเป็นบ้านเพิงหมาแหงนชั้นเดียว ซึ่งปลูกริมทางริมถนนสุวรรณภูมิสาย 4 จากการตรวจสอบด้านหน้า พบถุงมือผ้าสีดำตก 1 คู่และพบกองเลือดและเศษชิ้นส่วนสมองตกที่พื้นทางเข้า ส่วนด้านในยังพบร่องรอยคราบเลือด ที่คนร้ายลากศพเข้าไปหมกไว้ด้านใน

ขณะที่ยังมีเลือดกระเซ็นตามพื้นและกระสอบต่างๆอีกจำนวนมาก ด้านในพบศพชายไม่ทราบชื่อ คาดว่าน่าจะเป็นชาวจีน หรือญี่ปุ่นมีรอยสักเต็มตัว สวมเสื้อคอกลมสีดำ มีตัวอักษรที่ด้านหลัง ASPA สวมกางเกงยีนส์ ใส่ถุงเท้าสีเทา ไม่สวมรองเท้า ที่นิ้วก้อยข้างขวาสวมแหวนทองตัดลายเงิน ส่วนที่นิ้วกลางข้างซ้ายพบแหวนทองสวมใส่อยู่ ไม่พบเอกสารใดๆ ในตัวพบเพียงเงินสดรวม 3,181 บาท

มีแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดที่ศีรษะฝั่งซ้าย 2 นัดและฝั่งขวา 1 นัด คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงการกั้นพื้นที่เกิดเหตุ ไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์เวรเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

จากการตรวจกล้องวงจรปิดของสนามบิน สามารถจับภาพรถยนต์เก๋งสีแดงขับเข้าวนท้ายถนนหลายรอบ คล้ายกับวนดูจุดทิ้งศพก่อนจะมาเลี้ยวเข้าไปยังเพิงพักดังกล่าว แล้วถอยหลังรถเทียบประตูทางเข้าเพิงพัก ซึ่งเป็นจุดที่พบกองเลือดและเศษมันสมองของผู้ตาย

โดยรถคันดังกล่าวพบในช่วงเวลา 07.30 น.วันนี้ ใช้เวลาไม่นานก่อนจะขับรถออกไปใช้เส้นทางมอเตอร์มุ่งหน้าร่มเกล้า

จากการสอบถามคนงานเก็บกวาดขยะในสนามบิน ซึ่งเป็นผู้พบศพ เล่าว่า ตนขนของมาจะมานั่งกินข้าวแถวนี้ หันไปเจอศพนอนอยู่ในร้านค้าเก่าที่เจ้าของเลิกกิจการไปแล้ว จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้าน พล.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ สั่งระดมฝ่ายสืบสวนเร่งหาเบาะแสของคนร้าย รวมถึงผู้ตายว่าเป็นใครมาจากไหน ส่วนประเด็นสังหารนั้นตั้งไว้หลายประเด็น ทั้งเรื่องส่วนตัว ขัดผลประโยชน์สีเทา หรือการลวงมาฆ่า ตอนนี้ยังไม่ให้น้ำหนักในเรื่องใด ต้องรอตรวจสอบอัตลักษณ์ตัวบุคคลผู้ตายก่อน.