จี้ กกต. ถึงเวลาต้องทำงานให้คุ้มภาษี ปชช. มั่นใจ พรรคก้าวไกลโดนยุบแน่

1 ก.พ. 67

สามารถ ชี้แก้กฎหมายต้องไม่กระเทือนหัวใจคนไทย จี้ กกต.ถึงเวลาต้องทำงานให้คุ้มภาษี ปชช. มั่นใจ พรรคก้าวไกลไม่รอดโดนยุบ 

วันที่ 1 ก.พ. 67 นาย สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วย รมว.กระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ว่าการกระทำของ นายพิธา ล้มเจริญรัตน์ และ พรรคก้าวไกลเข้าข่ายในการล้มล้างการปกครองว่า 

การแก้ไขปัญหา มาตรา112 อย่ามาเลี่ยงบาลีว่าเป็นการแก้กฎหมายอาญา พฤติการณ์ที่คุณทำ การลดโทษก็ดี การดึงสถาบันมาเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชนก็ดี วันนี้ตนขอชื่นชมศาลรัฐธรรมนูญ ตนคิดว่านักกฎหมาย หรือแม้แต่ประชาชนคนทั่วไปที่ไม่ได้เรียนกฎหมาย ฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้วชื่นชมกันทุกคน​ นี่คือสิ่งที่พ่อแม่พี่น้องประชาชน​เขาอดทนมาโดยตลอดว่า ให้มีพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเอาเรื่องนี้มาหาเสียงได้อย่างไร 

นายสามารถ กล่าวต่อว่า วันนี้ กกต.ต้องทำงานแล้วท่านกินภาษีประชาชนจะมา ปล่อยให้พรรคการเมืองหนึ่งพรรคการเมืองใด เอานโยบายนี้หาเสียงแล้วได้คะแนนความนิยม นี่พฤติกรรมบ่อนทำลาย ศาลรัฐธรรมนูญระบุชัดว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ฉะนั้นที่บอกว่าการแก้กฎหมายแก้ได้โดยสภาฯจริง​แท้แล้วมันไม่ใช่ แต่การแก้กฎหมาย จะต้องไม่กระทบหรือขัดกับกฎหมายรัฐธรรมนูญ แล้วยิ่งเป็นการกระทบกระเทือนหัวใจคนไทยทั้งประเทศ คือสถาบันพระมหากษัตริย์อีกด้วย 

“วันนี้มันชัดเจนแล้ว แต่แค่ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่สั่งลงมา เพราะต้องรอกลไก โดยต้องให้  กกต.เป็นผู้ยื่นยุบ​พรรค​ ผมมั่นใจว่าต้องมีคนไปยื่นยุบพรรคก้าวไกลอย่างแน่นอน แล้วหลังจากนี้จะมีเรื่องจริยธรรมตามมาอีกอย่างที่ผมเคยพูดไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งจะต้องมีคนไปยื่น ป.ป.ช.นักการเมืองคนใด ซึ่งไม่ใช่แค่เพียง 44 คน ที่เซ็นชื่อแก้ไข มาตรา112 คนใดหาเสียง คนใดที่ไปป่าวประกาศว่าจะให้แก้ไข มาตรา112 ได้ แบบนี้สามารถส่ง ป.ป.ช. ได้ให้ไต่สวนได้ว่า ผิดจริยธรรมหรือไม่ อย่างกรณีของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า ที่แค่โพสต์รูปแล้วตอนนั้นก็ไม่ได้เป็น สส.ด้วยซ้ำ แต่โดนตัดสิทธิ์การเมืองตลอดชีวิต“ 

นายสามารถ กล่าวต่อว่า ฉะนั้นคนที่กระทำแล้วเป็น สส .หรือเป็นผู้สมัคร สส.แล้วไปทำแบบนั้น และได้มาซึ่งคะแนนความนิยมนั้นทำไม่ได้และในคำวินิจฉัยของศาลก็ไปพูดถึงผู้ต้องหามาตราคดี 112 ด้วย ฉะนั้นนั่นคือ สิ่งที่ตนบอกว่า วันนี้คำวินิจฉัยชัดเจน แจ่มแจ้ง มติเอกฉันท์ 9ต่อ 0 ซึ่งตนก็ทำนายมาก่อนเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องของการยุบพรรคนั้น ยุบแน่แต่จะยุบเมื่อไหร่ เพราะจะไม่มีการให้มีการใช้มาตรา 112 เป็นเครื่องมือหาเสียง ต่อไปนี้สถาบันจะต้องเหนือการเมือง จะไม่มีใครที่จะเอาสถาบันออกมาหาเสียง สถาบันท่านต้องอยู่ในสถานะที่เคารพ สักการะ ของคนไทยทั้งประเทศ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม