ผบช.ภ.2 แถลงปิด คดีฆาตกรรม เจ้ม่วย ชี้ เจ้ปุ้ย-อ้วน รวมหัวการวางแผนฆ่าล้างหนี้ 30 ล้าน เหตุถูกทวงถามจนจะแจ้งความฟ้องร้อง
วันที่ 26 ม.ค. 67 ที่ จ.สมุทรปราการ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 , พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ., พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผบก.ภ.จว. จันทบุรี พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 ร่วมกันแถลงการจับกุม
นายกฤษฏ์ มูลวงศ์ หรือ อ้วน อายุ 40 ปี และ น.ส.โสมสุดา พรหมวิเชียร หรือ เจ้ปุ้ย อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาพร้อมของกลาง 1.เครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิด 2. รถกระบะ 2 คัน 3. รถจักรยานยนต์ 1 คัน และ 4.เสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ
โดยตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซ่อนเร้นหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย
ซึ่งจากการสอบปากคำทราบว่า เจ้ปุ้ย และนายกฤษฎ์ ร่วมกันหลอกลวงเงินผู้ตายกว่า 30 ล้านบาทไป เป็นลักษณะของการกู้ยืมเงินหลายครั้งในระยะ 6 เดือนที่รู้จักกัน เมื่อ เจ้ม่วย ผู้ตายทราบว่าถูกหลอกลวง เพราะมีการทวงถามหลายครั้ง แต่ เจ้ปุ้ย ไม่ยอมคืนเงิน จึงเตรียมดำเนินคดีกับ เจ้ปุ้ย ในประเด็นเรื่องการกู้เงิน ยังเป็นข้อสัยของตำรวจว่าแรงจูงใจในการกู้ยืมเงิน เจ้ม่วยคือนำไปใช้ประโยชน์เรื่องอะไร
เมื่อ เจ้ปุ้ย ทราบข่าวจึงได้ร่วมกับนายกฤษฎ์ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกันวางแผนและฆ่า เจ้ม่วย โดยในส่วนของนายกฤษฏ์ อ้างว่า เจ้ม่วยติดเงิน เจ้ปุ้ย 2 ล้านบาท และจะให้ไปทวงหนี้เป็นเพื่อน แต่กลายเป็นการร่วมมือกันก่อเหตุฆ่า ซึ่งในส่วนของแรงจูงใจ และส่วนที่นายกฤษฏ์ได้รับผลประโยชน์ในการลงมือก่อเหตุหรือไม่ มีการร่วมกันปล่อยเงินกู้ร่วมกันหรือไม่นั้น ตำรวจอยู่ในระหว่างตรวจสอบ
ทั้งนี้ เจ้ปุ้ยและนายกฤษฏ์ล็อกคอ และใช้เชือกรัดคอ เจ้ม่วย จนขาดอากาศเสียชีวิต แล้วนำศพไปทิ้งในบ่อน้ำ หลังบ้านผู้ตาย จากนั้นมีการทำลายหลักฐาน โดยนำเครื่องบันทึกกล้องวงจรปิดในบ้านผู้ตายไปทิ้งในบ่อน้ำ ห่างจากบ้านผู้ตาย 12 กิโลเมตร และนำถ้วยเบญจรงค์ของผู้ตายไปฝังที่บ้านของนายกฤษฏ์ นำเสื้อผ้าของเจ้ม่วยไปเผาทิ้ง
ทางตำรวจได้มีการสอบปากคำญาติ และพยานแวดล้อม โดยมีพยานหลักฐานสอดคล้องกัน และคำให้การทั้ง 2 คน แม้ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างโยนความผิดกันไปมา ตำรวจจึงขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดจันทบุรีแล้ว จับกุมนายกฤษฎ์ฯ และ เจ้ปุ้ย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.มะขาม ดำเนินคดีตามกฎหมาย
