นายกฯ ฉุนกลางวงแก้ปัญหาหมูเถื่อน บอกจัดการให้มันเร็วๆ หน่อยได้ไหม

13 พ.ย. 66

เศรษฐา ฉุนขาดกลางวง ทำไมจัดการช้าจัง! ขณะประชุมปัญหาหมูเถื่อน ก่อนเดินทางเยือนนครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 30

เมื่อวานนี้ (12 พ.ย. 2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีแก้ไขปัญหาหมูเถื่อนทันที โดยในการหารือมี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พ.ต.ต.สุริยา สิงกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมหารือด้วย ในวงหารือนี้ นายกรัฐมนตรีได้สอบถามความคืบหน้า การแก้ปัญหาด้วยสีหน้าดุดัน

ระบุกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า “ผมเชิญท่านมาพบ ท่านมาที่ทำเนียบรัฐบาลแล้วรอบหนึ่ง ทำไมช้าจัง จัดการให้มันเร็วๆ หน่อยได้ไหม มันจับมาได้ตั้งเยอะแยะแล้ว ทำไมไม่สั่งการสักทีหนึ่ง ผมสั่งการไปแล้วก็ไม่ทำ ไม่หาตัวรายใหญ่ เข้าถึงตัวไม่ได้สักที ตอนนี้มีกี่ราย ตอนนี้จับมามี 10 รายแล้วใช่ไหม” และเมื่อหารือ 3 วงเสร็จ นายเศรษฐา ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ แล้วเดินทางไปสหรัฐฯ ทันที โดยมอบหมายให้แต่ละหน่วยงานเป็นผู้แถลงกับสื่อมวลชน

โดย พ.ต.ต.สุริยา เปิดเผยภายหลังว่าได้ รายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีที่กรมศุลกากรได้ส่งของกลาง 161  ตู้ คอนเทนเนอร์  คือ แบบผู้กระทำผิดออกเป็น 3 กลุ่มแรกเป็นบริษัทนำเข้า ซึ่งเป็นบริษัทชิปปิ้งที่ได้แจ้งดำเนินคดี และจับกลุ่มแล้ว6 คน

ส่วนกลุ่มที่ 2 ก็เป็นกลุ่มนายทุน ที่สั่งให้กลุ่มแรกนำหมูเถื่อนเข้ามา เพิ่งได้มีการออกหมายจับไปแล้ว 2 บริษัท 2 รายและหลบหนีไปต่างประเทศ และประสานเข้ามอบตัวในวันพุธนี้

ส่วนกลุ่มที่ 3 เป็นห้องเย็นที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยมีการนำหมูเถื่อนไปจำหน่ายและแช่ไว้ในห้องเย็น

โดย นายกรัฐมนตรี สั่งการเด็ดขาด ให้ทำงานอย่างครอบคลุมแบบบูรณาการ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ประสานตำรวจภูธรจังหวัด กรมปศุสัตว์ กรมศุลกากร ปูพรหมตรวจค้นในแต่ละจุด หลังได้รับรายงานว่ามีหมูเถื่อนซุกซ่อนอยู่ตามห้องเย็น พร้อมทั้งจะดำเนินคดีย้อนหลัง กับการลักลอบ ซากสัตว์หลายชนิด 2835 ตู้ ที่มีการตรวจพบตั้งแต่ปี 2563 - 2566 ด้วย

ส่วนข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีที่ไม่พอใจสั่งแล้วไม่ทำนั้น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ทุกหน่วยบูรณาการดำเนินการให้ถึงที่สุดไม่มีละเว้น

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส