เล่านาทีชีวิตเหมือนนั่งรอความตาย หลังเห็นคนสิ้นลมต่อหน้า เหตุพารากอน

5 ต.ค. 66

ผู้รอดชีวิตเหตุยิงห้างพารากอน เล่านาทีระทึก เห็นคนตายต่อหน้า สลดใจไม่สามารถช่วยหญิงชาวจีนได้ นอนผวาทั้งคืน

น.ส.เมย์ (นามสมมุติ) ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ยิงที่ ห้างสยามพารากอน เปิดเผยกับทีมข่าวอมรินทร์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนแวะเข้าห้องน้ำ โดยแฟนตนก็ไปด้วย ซึ่งขณะนั้นคนเยอะมาก ต่อแถวจนล้นออกมานอกห้องน้ำ และแฟนตนก็ต่อแถวอยู่ข้างหลังเด็กชายที่ก่อเหตุ

ขณะนั้นน้องสวมเสื้อฮู้ดกันหนาวสีน้ำตาล สะพายกระเป๋ามีท่าทางปกติ กระทั่งแฟนเข้าไปในห้องน้ำชายไม่นาน ก็มีเสียงดังปังครั้งแรก ตอนแรกก็ตกใจ คิดว่าเครื่องเป่าลมร้อนใส่มือระเบิด แต่ผู้คนก็ยังรอต่อแถว จนมีเสียงดังปังอีก 2 ครั้ง ก่อนที่ผู้ชายจะวิ่งหนีกรูกันออกมาจากห้องน้ำชาย ตนก็สับสนคิดว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทกัน แต่ระหว่างนั้นมีผู้ชายคนหนึ่ง วิ่งสวนกับตนมาสบตากันครู่เดียว แล้วเขาก็ถูกยิงล้มลงต่อหน้าต่อตา จึงเชื่อว่านี่ไม่ใช่เหตุทะเลาะวิวาท เป็นการยิงมั่ว

ซึ่งมุมตอนนั้น รู้ตัวว่า เป้าต่อไปที่คนร้ายจะยิงคือตัวเองแน่ ๆ เพราะผู้ชายที่ถูกยิง อยู่ทางขวามือของตัวเองและกำลังที่จะยืนอยู่ที่หน้าทางเข้าห้องน้ำ โดยคนร้ายยิงไม่เลือกชายหญิง ตัวเองเลยรีบวิ่งหนีไปหลบในห้องน้ำหญิง ซึ่งตอนนั้นยังไม่เห็นแฟนตัวเองหนีออกมา เลยโทรศัพท์ไปหา เจ้าตัวก็ปลอดภัยดี ยังหลบในห้องน้ำชาย ก่อนจะหนีมาหลบด้วยกันที่ห้องน้ำหญิง ซึ่งมีคนอยู่กัน 4 คน คือตัวเองและผู้หญิงอีกคน รวมถึงแฟนและผู้ชายอีกคน

ความรู้สึกคือสติไม่อยู่กับตัว ต้องยืนในที่แคบและร้อนเท่านั้น เหมือนนั่งรอความตาย ไม่รู้ว่าจะได้กลับบ้านไหม ไม่รู้ว่าจะได้มองหน้าแฟนเป็นครั้งสุดท้ายไหม ที่บีบหัวใจที่สุดคือต้องนั่งฟังเสียงลมหายใจเฮือกสุดท้ายของคนที่ถูกยิง และไปช่วยเหลืออะไรไม่ได้ ตอนนั้นคนนอกคงคิดว่าทุกอย่างถูกจัดการเร็วมาก แต่ในฐานะของคนที่อยู่สถานการณ์ตอนนั้นคือ เมื่อไหร่จะได้รับความช่วยเหลือ แต่ระหว่างนั้นก็พยายามติดต่อคนที่บ้าน และเพื่อน ๆ แต่สุดท้ายก็มีคนเข้ามาช่วยเหลือพวกตัวเอง ก่อน จะนั่งรถสามล้อกลับบ้านโดยทิ้งทั้งรองเท้าและรถตัวเองไว้ที่ห้าง ตอนนี้ยังผวา นอนไม่หลับทั้งคืน

นอกจากนี้ แฟนตนได้เล่าส่วนที่เขาพบเจอว่า ขณะกำลังต่อแถวอยู่หลังน้องคนที่ก่อเหตุ พบว่าน้องสวมเสื้อคนละตัวกับชุดที่ออกไล่ยิงผู้คน โดยน้องได้เข้าไปในห้องที่มีชักโครก ซึ่งน่าจะเข้าไปประกอบอาวุธ แล้วยิงปืนลงพื้นจนมีเสียงดังครั้งแรก เมื่อยิงครั้งที่สองก็มีควันออกมาจากห้อง ก่อนจะเปิดประตูออกมาไล่ยิง โดยที่แฟนตนยืนปัสสาวะอยู่โถในสุด เมื่อสบโอกาสเขาก็รีบไปซ่อนตัวในห้องน้ำ แต่ด้วยความรีบ เขาจึงไปซ่อนในห้องน้ำที่น้องคนก่อเหตุแต่งตัว พบว่าในกระเป๋าเป้มีกระสุนปืนอีกมาก และน่าจะต้องวนกลับมาที่ห้องนี้อีกแน่ แฟนตนจึงหนีออกมา

ท้ายสุดเหตุการณ์นี้ ส่วนตัวมองว่าวิธีการต่าง ๆ ที่ภาครัฐพยายามประชาสัมพันธ์เรื่องการเผชิญเหตุดังกล่าวก็ยังมีความจำเป็น แต่ที่ต้องมีคือมาตรการตรวจอาวุธก่อนเข้าห้างที่รัดกุม เนื่องจากคนร้ายใส่ชุดมิดชิดก็ควรต้องตรวจค้น ส่วนเครื่องตรวจอาวุธ ก็ไม่ทราบว่าใช้ได้จริงหรือไม่ ควรต้องตรวจกระเป๋าอย่างที่เมื่อก่อนเคยมีด้วย อีกทั้งการประกาศเตือนขณะเกิดเหตุก็ค่อนข้างใช้เวลา เพราะหลังเกิดเหตุไปแล้วประมาณ 10 นาที ยังไม่มีการเปิดเสียงเตือน มีเพียงเสียงประกาศคนพูด ซึ่งขณะที่มีเหตุยิงแล้ว คนบนชั้นอื่น ๆ ยังกินเที่ยวกันอยู่ทั้ง ๆ ที่ตัวเองกำลังหลบซ่อน ก่อนจะมีเสียงไซเรนภายหลัง

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส