อัจฉริยะ จ่อฟัน 157 บิ๊กโจ๊ก ฉะ อนันต์ชัย ขี้โม้ไปวันๆ

3 ต.ค. 66

อัจฉริยะ จ่อฟัน 157 บิ๊กโจ๊ก ฉะ อนันต์ชัย ขี้โม้ไปวันๆไม่มีหรอก บิ๊กเซอร์ไพรส์ แย้มเตรียมเปิดข้อมูล นายพลคนสนิทบิ๊กโจ๊ก ตัวละครใหม่พรุ่งนี้


วันนี้ (3 ต.ค. 66) เวลา 10.00 น.ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อพนักงานสอบสวน

โดยนายอัจฉริยะ ระบุว่า วันนี้มี 2 เรื่อง ที่มาร้อง เรื่องที่ 1 คือ กรณี ของของ สภ.สำโรงเหนือ ที่ก่อนหน้านี้มีการจับกุมนายพุฒิพงษ์ ผู้ต้องหาบัญชีม้าราย รายที่ 1 ซึ่งเคยถูกจับกุมที่สภ.สำโรงเหนือเกี่ยวกับคดีเด็กแว๊น ซึ่งตำรวจมีการบังคับเปิดบัญชีม้า โดยทราบว่าเมื่อวานประมาณ 16.00 น (2 ต.ค. 66) นายพุฒิพงษ์พร้อมกับทีมงานได้มาแจ้งความ พันตำรวจโทคริษฐ์ ปริยะเกตุ เกี่ยวกับเรื่องที่บังคับให้เปิดบัญชีม้า ซึ่งตนเองได้นำหนังสือรายงานเหตุ ซึ่งเป็นใบแจ้งความของนายพุฒิพงษ์ มาเป็นหลักฐานด้วย

ส่วนเรื่องที่ 2 ตนเองมาเร่งรัดให้สอบสวนกรณีของ ผกก.ด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ที่ตนเองเคยร้องเรียนไปก่อนแล้ว กรณีโอนเงินจากการรับสินบนชาวลาว โอนเงินเข้าบัญชีนายพุฒิพงษ์บัญชีม้า ซึ่งอ้างว่ามาเป็นการดูแลบิ๊กโจ๊ก มีการจ่ายเงินให้บิ๊กโจ๊กจำนวน 10 ล้านบาท โดยมีลูกน้องบิ๊กโจ๊ก โอนเงินเข้าครอบครัวของบิ๊กโจ๊ก และพวกทั้งหมด โดยตนเองนำหลักฐานรวบรวมมายื่น ปปป.ขณะที่นายพุฒิพงษ์ มีเงินในบัญชี 50 ล้านบาท โอนไปให้ครอบครัวของบิ๊กโจ๊กและตำรวจที่เกี่ยวข้อง 8 นาย

นอกจากนี้วันนี้ยังมีความคืบหน้าเรื่อง วัดบางคลาน โดยมีเจ้าอาวาส ทนายความ ปปท. ปปป. มาร่วมประชุมปรึกษาหารือเรื่องใช้กฎหมายจัดการบุคคลที่เข้ายึดวัด

นอกจากนี้ในวันพรุ่งนี้เวลา 14:00 น.ตนเองจะเปิดตัวละครใหม่ซึ่งเป็นนายพลคนสนิทของบิ๊กโจ๊ก ซึ่งได้รับเงินจากบัญชีม้า และเป็นการโจรกรรมข้อมูลจากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน คดีตู้ห่าวให้คนนอกรับทราบ ซึ่งล่าสุดไม่ได้เป็น ตำรวจแล้วแต่เป็นมือขวาของบิ๊กโจ๊ก และยังได้รับเงินจากบัญชีมาอีกเดือนละ 50,000 บาท

ตนเองเขาบอกว่าองค์กรนี้ไม่ธรรมดา เพราะคนในองค์กรมีการรับเงินจากพนันออนไลน์ รับเงินจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์รับเงินจากยาเสพติดและรับเงินจากส่วน

โดยพุฒิพงษ์ได้โอนเงินให้นายพลคนนี้ทุกเดือน เดือนละ 5 หมื่น พร้อมกับนำคลิปไปเปิดให้กับบุคคลภายนอกจริงหรือไม่ ให้ไปถาม พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบช.สพฐ.ตร.โดยมีผลให้คดีเกิดความเสียหายตนเองสอบถามกับนายตำรวจท่านหนึ่งแล้วซึ่งก็ยอมรับว่ามีมูลเป็นเรื่องจริง

นายอัจฉริยะ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่าตำรวจ สภ.สำโรงเหนือจับเด็กแว๊นชาวบ้านที่ทำผิดเล็กน้อยทำหน้าที่เป็นตำรวจชั่วบังคับเปิดบัญชีม้าเป็นการกระทำที่ระยำมากอาศัยคราบตำรวจทำกับประชาชนที่มีความผิดเล็กน้อยปล่อยไว้ไม่ได้

นายพุฒิพงษ์ ถือเป็นบัญชีม้าที่ถูกใช้มากที่สุด ซึ่งมีการเปิดบัญชีเมื่อเดือนกันยายน 2565 ส่วนนายครรชิตนั้นมีการเปิดเมื่อเดือนเมษายน 2566 และจ่ายเงินค่าไฟให้บ้านเช่าของบิ๊กโจ๊ก

ตนเองยังจำคำพูดของบิ๊กโจ๊กได้ว่าหากลูกน้องทำผิดก็ไม่ละเว้นให้ออกทันที ซึ่งตนเองมองว่าขณะนี้พันตำรวจโทคริษฐ์ ควรจะให้ออกจากราชการเพราะทำผิดร้ายแรง บัญชีม้าจะหมดได้อย่างไร เมื่อมีตำรวจบังคับคนบริสุทธิ์ เปิดบัญชีม้า

ส่วนกรณีนายอนันต์ชัยทำคดีให้บิ๊กโจ๊ก ตนเองมองว่าบิ๊กเซอร์ไพร์ส ดังกล่าวของอนันต์ชัยไม่มีอยู่จริง เพราะหากมีทำไมถึงไม่เปิดเลยทำไมถึงต้องรอวันนั้น วันนี้ ตนเองยังเปิดข้อมูลทุกวัน หากมีของจริงก็เปิด แล้วการพูดของอนันต์ชัยเป็นเพียงการต่อรองบางอย่างเท่านั้นเอง

พฤหัสบดีนี้คงไม่มีการติดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวแน่นอน สิ่งที่จะเปิดออกมาหากเป็นข้อมูลที่ประโยชน์ต่อสาธารณะไม่ว่าจะเป็นใครเปิดมันเป็นเรื่องดี แต่สไตล์ลีลาแบบนี้ตนเองเห็นมาเยอะแล้วสำหรับนายอนันตชัย

ส่วนที่บอกว่ามีคนโทรศัพท์มาหานายอนันต์ชัย เพื่อขอสั่งให้หยุดทำคดีหรือไม่ ตนเองก็ไม่เชื่อเพราะหากมีคนโทรศัพท์มาจริงคนอย่างทนายอนันตชัยต้องมีการบันทึกคลิปเสียง ป่านนี้คงจะเปิดคลิปเสียงไปแล้ว

ส่วนที่ทีมทนายอนันต์ชัยเคยพูดว่าจะเปิดหลักฐาน ซึ่งสะเทือนทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่หากรอดูแล้วไม่มีการเปิดหลักฐานจริง ตนเองก็เตรียมรวบรวมหลักฐานที่จะแจ้งความประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เกี่ยวกับการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

เท่าที่ตนเองทราบมาค่าตัวของทนายอนันต์ชัย จำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้ก็เบิกใช้ไปแล้วครึ่งหนึ่ง ซึ่งตัวเองมองว่าอย่าเป็นทนายที่เอาใจแต่ลูกความมากกว่าตนเอง เชื่อว่าไม่มีใครถูกกลั่นแกล้ง เพราะตำรวจทำตามพยานหลักฐาน

ดังนั้นค่าตัวก็แพงทำให้สมราคาหน่อยเกาทัณฑ์ที่โพสต์ไร้สาระมีก็เปิดไม่ต้องรอ หากลีลามากไปและสุดท้ายไม่มีจริงจะทำอย่างไรก็หน้าแตกจะมาอ้างว่าบิ๊กโจ๊กถอนตัวผมออกจากทนายความแล้ว จึงไม่เปิดจะมาอ้างแบบนี้หรือไม่ให้รอดู

เรื่องนี้มองว่าหากไม่มีการเปิดหลักฐานก็จะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของทนายอนันตชัยเช่นเดียวกัน ซึ่งควรจะปกปิดข้อมูลของลูกความเป็นความลับ แต่นี่นำมาเปิดเผยควรพูดให้น้อยหน่อย หากตนเองเป็นทีมทนายความของใครก็แล้วแต่ตนเองไม่นำลูกความมาเปิดแบบนี้

เมื่อถามว่าทนายอนันตชัยจะมีการเรียกมินนี่มาพูดคุยด้วยหรือไม่นั้น นายอัจฉริยะบอกว่ามินนี่ไปสิงคโปร์แล้ว นักข่าวเป็นสื่อก็ต้องทราบอมรินทร์ทีวีนี่เก่งจะตาย ทุบโต๊ะข่าวเห็นทุบทุกคน หากเรียกมาจริงก็ไม่เกี่ยวข้องกันเพราะเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน ซึ่งมินนี่ก็ต้องมารายงานตัวตามกำหนดอยู่แล้ว นายอัจฉริยะกล่าวทิ้งท้ายว่า “ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ขี้โม้ไปอย่างนั้น”.

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส