นายพงศ์สินธ์ เสนพงศ์ น้องชายของ นายเทพไท เสนพงศ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า นายเทพไท ใช้สิทธิ์ทูลเกล้าฯขอพระราชทานอภัยโทษ เหมือน นายทักษิณ ชินวัตร
ผมได้ไปเยี่ยม คุณเทพไท ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เมื่อวันก่อน คุณเทพไท ได้แจ้งให้ผมทราบว่า เขาได้ทำหนังสือทูลเกล้า ขอพระราชทานอภัยโทษส่วนบุคคล เช่นเดียวกับ คุณทักษิณ แล้วโดยอธิบายเหตุผลให้ฟังว่า
เดิมทีตั้งแต่เข้าสู่เรือนจำวันแรก มีหลายคนแนะนำให้ทำหนังสือทูลเกล้า เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษส่วนบุคคล ซึ่งตอนนั้นคิดว่า เรามีโทษจำคุก เพียง 2 ปี ก็ควรยอมรับชะตากรรม ไม่อยากทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษ ให้เป็นที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท จึงไม่ได้ดำเนินการใด ๆ นับตั้งแต่วันเริ่มเข้าสู่ประตูเรือนจำ
แต่เมื่อวันที่ 22 ส.ค. คุณทักษิณ ได้เดินทางกลับประเทศไทย โดยมีข้ออ้างว่าต้องการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อต้องการรับโทษจำคุก 10 ปี ตามคำพิพากษาของศาลฎีกา แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าไม่ได้จำคุกจริง หลังจากอยู่ในเรือนจำได้ไม่เกิน 12 ชั่วโมง ก็ต้องย้ายไปอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 โดยอ้างแเหตุผลของการเจ็บป่วย และหลังจากนั้นได้ทำหนังสือทูลเกล้าขออภัยโทษในวันที่ 31 ส.ค. โดยเหตุผล 4 ข้อคือ
1. ได้ทำคุณงามความดีให้กับประเทศชาติ
2. มีความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ
3. เคารพและยอมรับกระบวนการยุติธรรม
4. เป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว
ซึ่งถ้าหากพิจารณาจากเหตุผล ในการทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษของ คุณทักษิณ แล้ว คุณเทพไท กล่าวกับผมว่า เขามีคุณสมบัติในการขอพระราชทานอภัยโทษได้ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า คุณทักษิณเลย
1. ได้เป็นสมาชิกสภาแทนราษฎรมา 4 สมัย ทำงานรับใช้ประชาชน และทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมากมาย มาร่วม 20 ปี
2. มีความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ เป็นที่ประจักษ์ เคยเป็นพิธีกรรายการสายล่อฟ้า ปกป้องสถาบันฯ จากการจาบจ้วงของระบอบทักษิณ (ตามเหตุผลการยึดอำนาจ ของคณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ (คสช.) และ ไม่เคยต้องคดีตามมาตรา 112 แต่อย่างใด
3. ยอมรับกระบวนการยุติธรรมด้วยความเต็มใจ เมื่อถูกศาลฎีกาตัดสินให้รับโทษจำคุก 2 ปี ก็ไม่ได้หลบหนีคดีแต่อย่างใด
4. ตอนนี้อายุ 62 ปี เป็นผู้สูงวัยเช่นเดียวกันและมีโรคประจำตัวหลายโรค ระหว่างถูกจำคุกในเรือนจำ ต้องเบิกตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
5. ได้รับโทษจำคุกมาเป็นเวลา 14 เดือน กำลังจะเข้าข่ายเงื่อนไขการจำคุก 2 ใน 3 ของโทษตามคำพิพากษา แต่ไม่เคยได้รับการลดโทษเลย
6. ได้ต้องโทษจำคุก จากการกระทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ข้อหาจัดเลี้ยงและร่วมงานเลี้ยงกินข้าวกับกลุ่มกำนันผู้ใหญ ไม่ใช่การแจกเงินซื้อเสียง) แต่กรณีของคุณทักษิณ ต้องโทษคดีทุจริตต่อประเทศชาติ
ดังนั้น คุณเทพไท จึงได้สิทธิตามเงื่อนไขของกรมราชทัณฑ์ เหมือนกับนักโทษทั่วไป สำหรับเรื่องนี้ ถ้าหากมีความคืบหน้าประการใด ผมจะนำมารายงานให้ได้รับทราบในโอกาสต่อไป.